The Twilight Saga: Breaking Dawn Part II – ความเห็นหลังชม

The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part II เป็นภาคที่สนุกและลงตัวที่สุดของหนังชุด Twilight ในความเห็นของผมครับ และดูเหมือนว่าความเห็นจากนักวิจารณ์ในสหรัฐก็ออกมาคล้ายกันด้วย เพราะหนังมคำวิจารณ์ด้านบวก 51% และคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.2/10 จากการประเมินของ Rotten Tomatoes ครับ ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในแดนเน่าหรือแดนลบ แต่ก็ได้คำวิจารณ์ด้านดีสูงกว่าทุกภาค

ผมเชื่อว่านักวิจารณ์บางกลุ่มก็ประเมินหนังต่ำเกินไป เพราะเกลียดหนังชุดนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่หนังได้แก้จุดเลี่ยนและน่าเบื่อหลายอย่างมาก อย่างแรกก็คือบทพร่ำเพ้อคร่ำครวญของคู่พระนาง เอ็ดเวิร์ดกับเบลลา น้อยลงไปเกิน 90 เปอร์เซ็นต์เลย พวกเขาได้คุยเรื่องอื่นกันเยอะมาก ส่วนใหญ่เน้นไปที่การหาทางช่วยลูกสาว ซึ่งพอหนังเปลี่ยนจากความรักสองหนุ่มสาวต่างสายพันธุ์มาเป็นการสู้เพื่อลูกเลยทำให้อินง่ายกว่า เอ็ดเวิร์ดกับเบลลาก็ดูผ่อนคลายเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ไม่ค่อยเหมือนพวกเก็บกดทางเพศที่น่าอึดอัด เพราะทั้งคู่ไม่ต้องหักห้ามใจอีกแล้ว

เจค็อบได้ถอดเสื้อผ้าหลายชิ้นขึ้น และเหล่านักแสดงสมทบเช่นลี เพซ, ไมเคิล ชีน, ดาโกตา แฟนนิ่ง และแอชลี กรีน ที่แม้บทจะน้อยก็ได้มีฉากโชว์ของตัวเองแบบที่อาจเด่นกว่าคู่พระนางทั้งเรื่องด้วย และที่สำคัญ ฉากบู๊สุดท้ายของหนังทำออกมาได้สนุกและหักมุมแบบที่ทำให้คนดูเฮลั่นและพากันตบมือแทบทั้งโรง เป็นประสบการณ์การชมที่สนุกมากๆ ซึ่งผมไม่ได้เห็นนานแล้ว เอ๊ะ! ผมบอกไปหรือยังว่าเจค็อบถอดเสื้อผ้ามากกว่าทุกภาค….ช่างเถอะ

หนังทำรายได้เปิดตัวในบ้านเราเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา 23 ล้านครับ เป็นรายได้เปิดตัวหนังวันแรกสูงสุดตลอดกาลของบ้านเราตามที่สหมงคลฟิล์มบอกมา ส่วนรายได้ในสหรัฐนั้นก็เปิดตัวแรงถึง 71.2 ล้านเหรียญสหรัฐในวันฉายวันแรก อาจไม่ทุบสถิติของภาคที่แล้ว และภาค New Moon แต่ก็ถือว่าสูงมาก

ส่วนที่ไม่ชอบเกี่ยวกับหนังที่ผมนึกออกตอนนี้ก็คงเป็นงานเทคนิคพิเศษนั่นแหละ โดยเฉพาะน้าของน้องเรเนสเม่ตอนเป็นทารกที่น่ากลัวมากกว่าน่ารักครับ คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับหนังกันบ้าง เชิญใส่ความเห็นกันเลย

28 comments

  1. บอกได้คำเดียวว่าภาคนี้ สุดยอดมากๆ บรรยากาศที่คนดูเฮ ลั่นลง เห็นด้วยครับว่า น้อยเรื่อง ที่จะทำให้อึ้งได้ขนาดนี้ ลุ้นจนไม่ติดเก้าอี้ เยี่ยมมากครับ

  2. อยากบอกว่าดูมากี่ภาพ พอออกจากโรงมาต้องบ่นทุกครั้งว่าเปลืองเงิน

    แต่ภาคนี้ไม่ใช่อีกต่อไป มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริง ๆ ครับ มันหักมุมกว่าหลาย ๆ เรื่องในปีนี้อีกซะด้วยซ้ำ

    ให้ 8.5 / 10 เลยครับ แต่ตอนนั่งในโรงผมให้ 9.5/10 ได้เลย

    ลุ้นแบบว่าสุด ๆ นั่งไม่ติดเก้าอีก รู้สึกได้ถึงหัวใจเต้นรัวมาก ๆ ในฉากต่อสู้กันแบบว่ามีหนังไม่กี่เรื่องหรอกนะที่เร่งอารมณ์หลากหลายอารมณ์ในช่วงไม่กี่อึดใจและทำให้ลุ้นแบบไม่ติดเก้าอีกได้ถึงขนาดนี้

    และสุดท้ายก็ทำได้แบบว่า โอ๊ว..ว๊าววว…. นี่แหละมันสุดยอดไปเลย

    เยี่ยมมากจริง ๆ ครับภาคนี้ ขอยอมรับครับ (ตอนแรกตัดใจว่าจะไม่ไปดูแล้วน๊า สุดท้ายก็ไปจนได้ 55+)

    • เรเนสเม่ต้องเปลี่ยนเจคอปเป็นแวมไฟล์เลือกผสมอะครับ ไม่งั้นเด๋วเจคอบจะแก่ตาย แล้วก็จะเกิดสงครามอีกครั้งเนื่องจากสายพันธุ์ใหม่… อื่มนั่นมัน Under World แล้วมั้งครับ 😛

      • เจคอม ไม่แก่ตายแล้ว อายุหยุดที่ 25 ตราบเท่าที่ยังเปลี่ยนเป็นน้องหมาอยู่

  3. ฉากการเผชิญหน้ากันมีให้เห็นทุกภาค โดยเฉพาะการวิ่ง หรือกระโดด ก่อนแปลร่างเข้าห้ำหั่นกัน
    ซึ่งกลายเป็นความซ้ำซากที่น่าเบื่อเอามากๆ เมื่อมาถึงภาคท้ายๆ ผกก.ต้องเล่นมุมกล้องขายความแปลกใหม่
    แล้วครับ ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่อย่างที่เห็น !

  4. สนุกครับ ผู้กำกับรักษาเอกลักษณ์ของภาคที่ผ่านๆ มาไว้ได้ดี ผมว่าเอกลักษณ์ของหนังแต่ละเรื่องก็แตกต่างกันไปครับ ภาคที่ผ่านๆ มา พลาดก็เพราะพยายามจะขายความแปลกใหม่นี่ล่ะ บวกด้วยพยายามตอบสนองตลาด ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเพราะภาคแรกองค์ประกอบศิลป์ดีมากต่างหาก คนถึงติดใจและก็ติดตาม ส่วนภาคนี้ ผมว่าฉากแอคชั่นดีแล้ว ตอบสนองตลาด แต่มีจังหวะที่ดีกว่าภาคอื่นๆ กระชากใจ จัดลำดับการตายได้ดีกว่า Final Destination ภาคหลังๆ ซะอีก แต่ยังไงภาค 1 ก็ยังเป็นภาคที่ดีที่สุดสำหรับผมครับ

  5. ที่ภาคนี้มันถูกใจหลายๆคนทั่วไป ทั้งคอนิยายและคนเฉยๆแต่ก็ตามมาดูทุกภาค
    เพราะ กึ๋น ฉากบู๊ สุดท้ายของ ผกก. โดยแท้
    รวมทั้งความน่าสนใจของคนเขียนบท ที่ทำออกมาให้ไม่โยกโย้
    มีแทรกเรื่องตื่นตา มุกขำยิ้มๆ พลังพิเศษเอย ให้คนดูไม่จำเจ เหมือนทุกภาคที่ผ่านมา

    คิดดู ขนาดคนที่อ่านนิยายมาทุกซอกทุกมุม รู้เรื่องตอนจบดีอยู่แล้ว ยัง “เงิบ” ได้
    แล้วคนดูธรรมดาที่ไม่ได้แตะนิยายเลย จะไม่อึ้งไปกับช็อตช่วงนั้นได้ไง

    ความจริงฉากหักมุมแบบในเรื่องนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น เคยเห็นมาแล้วหลายเรื่องอยู่
    ซึ่งทุกเรื่องก่อนหน้านี้ แน่ๆละ โดนด่าเละ ไม่ได้ประทับใจขนาดนี้แน่ๆ เพราะเหมือนเป็นการหลอกคนดูกลายๆล่ะนะ

    แต่ที่เรื่องนี้ภาคนี้ฉากนั้นมันได้ใจ เพราะมันแฝงความ “โล่งใจ” มาพร้อมกัน เพราะฉากต่อสู้มัน “บีบกดดันมาเร็วไปเร็วแบบใจหายต่อเนื่องแทบไม่ได้หยุดหายใจ” สำหรับคนดูที่รู้สึก ผูกพันธ์กับตัวละคร ล่ะนะ

    ฉะนั้น เสียงโห่ฮาเฮ้ยอ้าว+ปรบมือ ในช็อตลุงอาโร่ 😛 ของทุกโรง จึงยืนยันได้อย่างดีว่า ภาคนี้สนุกที่สุดของหนังชุดนี้

    9/10

    • เห็นด้วยมากๆค่ะ อ่านนิยายจนจบทุกเล่ม
      แต่ความรู้สึกมันคนละฟิวกันเลยค่ะ ประทับใจมาก ฉากที่เบลล่าให้เอ็ดเวิร์ดเห็นภาพที่เจอกันครั้งแรก น้ำตาไหลเลย

  6. [Spoil]
    มีใครชอบฉากสุดท้าย ที่เบลล่าทำให้เอ็ดเวิร์ดเห็นภาพทั้งหมดบ้าง
    ดนตรีประกอบ + ภาพ + เนื้องเรื่อง มันทำผมอินจนนั่งฟังเพลงจบเลย ชอบมากสุดในทุกภาคเลยครับ

  7. พากษ์แจ่มคับ ตอนหัก มุมตอนหลัง
    เท่าที่อ่านมา บางคนอาจจะไม่ชอบ พากษ์ไทย ที่เกินๆ แต่บางคำพูด บางท่อน เค้า อาจจะไม่ได้พากษ์ตรงตัวก็ได้คับแต่จะออกมาในทำนองเดียวกัน “นี่ แค่ตรูคิดนะเนี้ย” ถ้าดูซาวแทร็กคงไม่ฮา แต่พากษ์ไทยมันทำให้โทนหนังดูไม่ซีเรียส ผมชอบประโยคนึง “อย่าห้าวๆ” 555 ช๊อตนี้ ฮา

  8. “Perfect movie” 10/10 ผมรักภาคนี้พอๆกับภาคแรกเลย ทุกๆอย่างลงตัวไปหมด ไม่รู้เมื่อไหร่ที่จะได้ดีหนังดีๆแบบนี้อีก

  9. ใส่ค่ะ หน้า น้องเนเรสเม่ น่าดูแปลก ๆๆๆ ตอนเป็นทารก นะ ค่ะแต่ชอบมากค่ะ หักมุมมาแบบไม่คาดคิด นึกว่าการต่อสู้จะเป็นเรื่องจริงซะอีก 555+

  10. เป็นหนังเรื่องเดียวที่เก่าเเล้วกลับมาดูใหม่ก็ยังสนุกเหมือนเดิมเป็นเรื่องที่ที่ชอบที่สุดอยากให้มีภาคต่อเรือยๆๆตลอดไป

Leave a Reply