“I Am Legend” ภาคต่อ จะมีเหตุการณ์หลังภาคแรก 20-30 ปี และซื่อตรงกับนิยายมากขึ้น

วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ประกาศสร้างภาคต่อ “I Am Legend” เมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งมีการระบุว่า ไมเคิล บี. จอร์แดน จะมาประชันบทบาทกับวิล สมิธ ในภาคต่อเรื่องนี้ แต่เรื่องราวของภาคต่อจะเป็นยังไง แนวทางจะเป็นแบบไหน อกีวา โกลด์แมน ผู้รับหน้าที่เขียนบทและร่วมควบคุมงานสร้างของหนังได้เผยรายละเอียดเบื้องต้นให้ฟังเกี่ยวกับเวลาในหนัง ภาพที่จะได้เห็น และจะใช้อะไรเป็นแรงบันดาลใจครับ
“หนังภาคนี้จะมีเหตุการณ์ 20-30 ปี หลังจากภาคแรก ผมหมุกมุ่นกับ The Last of Us ที่เราได้เห็นโลกในยุคหลังโลกล่มสลาย แต่หลังจากนั้นมา 20-30 ปี ธรรมชาติได้กลับมายึดครองโลก และมีความงดงามของการที่มนุษย์ได้ถอยหลังจากการเป็นผู้อยู่อาศัยหลัก มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะต้องเป็นภาพที่น่าตื่นตะลึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในนิวยอร์ก ผมไม่รู้ว่ามันจะปีนขึ้นไปที่ยอดตึกเอ็มไพร์สเตทไหม แต่ความเป็นไปได้นั้นไม่สิ้นสุด”
โกลด์แมนยังบอกด้วยว่าหนังจะมีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ริชาร์ด แมทธีสัน ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้เขียนเอาไว้ในนิยายที่ตีพิมพ์ปี 1954 มากขึ้นครับ “เราย้อนกลับไปดูในนิยายดั้งเดิมของแมทธีสัน และตอนจบอีกแบบที่ต่างจากตอนจบในฉบับหนังดั้งเดิม สิ่งที่แมทธีสันพูดเอาไว้ก็คือ ยุคสมัยของมนุษย์บนพิภพแห่งนี้ในฐานะสปีชี่ส์เด่นสุด ได้มาถึงยุคอวสานแล้ว นั่นเป็นแง่มุมน่าสนใจที่เราจะได้เจาะลึก มันจะมีความซื่อตรงต่อตัวหนังสือของต้นฉบับมากขึ้น”
เรื่องราวของหนังนั้นมีฉากหลังเป็นอนาคตอันใกล้ หลังจากเกิดเหตุไวรัสลึกลับระบาดทำให้ผู้คนค่อนโลกต้องกลายเป็นผีดิบดูดเลือด ตัวเอกของเรื่องต้องอาศัยอยู่ในเกาะแมนฮัตตันของนิวยอร์กอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นผีดิบไปหมดแล้ว หนังทำเงินทั่วโลกไปกว่า 585.4 ล้านเหรียญ ยังไม่มีรายงานว่าฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ที่กำกับภาคแรกจะกลับมารับหน้าที่เดิมหรือไม่
ที่มา: Deadline