คริส มอร์แกน ถูกเรียกกลับมาแก้บท Fast and Furious 7 คาดกลับมาถ่ายทำปลายมกราคม

first fast7 set headerกองถ่ายหนัง Fast and Furious 7 อาจไม่ได้หยุดพักนานเกินไปครับ ถ้าแผนการแก้ไขบทหนังใหม่สำเร็จได้เร็ว ตามรายงานของเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์

หลังจากการเสียชีวิตของพอล วอล์คเกอร์ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ได้ระดมมันสมองกันว่าจะทำอย่างไรต่อไปในการสร้างหนังเรื่องนี้ และยังเป็นการให้เกียรติแก่การตายของพอล วอล์คเกอร์ด้วย ซึ่งรายงานล่าสุดบอกว่าคริส มอร์แกน ผู้เขียนบทหนังชุดนี้ ได้ถูกเรียกตัวกลับมาแก้ไขบทใหม่ และคาดว่าจะเขียนโดยใช้จากส่วนที่พอลได้ถ่ายทำไปแล้วเอามาต่อเป็นเรื่องราวให้ตัวละครไบรอันของเขาเกษียณตัวเองออกไปในตอนจบครับ และถ้ามอร์แกนทำสำเร็จไว ก็จะเรียกทีมนักแสดงกลับมาถ่ายทำกันต่อในช่วงปลายมกราคมปีหน้า

ในรายงานบอกด้วยว่าวอล์คเกอร์ได้ถ่ายทำไป “ครึ่งหนึ่งพอดี” จากบทที่เขาต้องแสดงใน Fast and Furious 7 และก็มีแผนจะถ่ายทำฉากของเขาต่อในหนึ่งสัปดาห์หลังการเสียชีวิต

สำหรับทุนสร้างของหนังนั้น ยูนิเวอร์แซลฯ ได้ใช้ไปแล้วราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถ้าจะต้องถ่ายทำใหม่หมด บริษัทประกันไฟร์แมนส์ ฟันด์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำประกันไว้ จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินจำนวนนั้น

15 comments

  1. น่าสนใจตรงที่จะทำได้ดีขนาดไหนสำหรับการที่ให้ ไบรอัน ถอนตัวในตอนจบ
    เพราะตามเนื้องานแล้ว ไบรอัน ไม่มีทางทิ้ง ดอม โทเร็ตโต้ แน่ๆคือยังไงก็ต้องช่วยกันตลอด
    ยกตัวอย่างจากภาค 5 ในตอนใกล้จะจบที่ ดอมบอกให้ไบรอันหนีไป แต่ก็กลับมาช่วย/ภาค 6 ก็ไปตามหาเล็ตตี้กับดอม
    หนังเรื่องนี้วางรูปแบบของครอบครัวไว้แล้ว ว่ายังไงก็ไม่ทิ้งกัน ระวังหลังให้กันตลอด ถ้า ทอเรตโต้ หรือคนในทีมมีปัญหา ไบรอันไม่น่าจะทิ้งเพื่อนแน่นอน (โดยส่วนตัวอยากให้ทำว่า ไบรอัน เสียชีวิตไปเลย น่าจะดีกว่าและอาจทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น เพราะภาค7 เป็นแนวล่าล้างแค้นอยู่แล้ว ถึงแม้จะดูโหดร้ายไปถ้าต้องทำให้ ไบรอัน ตายไปกับ พอล)
    R.i.P พอล วอร์คเกอร์

  2. เป็นกำลังใจให้ทีมงาน และนักแสดงทุกท่านครับ
    “ขอบคุณพระบิดาที่นำมิตรสหายมารวมกัน
    ขอบคุณสำหรับทุกการเลือกที่เราตัดสินใจลงไป ทั้งหมดล้วนทำให้เราเป็นตัวเรา
    ขอให้สหายที่จากไป สถิตย์เป็นความรักในใจตลอดกาล
    ขอบคุณที่ส่งเทวดาตัวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่ของเรา และพาเล็ตตี้คืนสู่เหย้า
    ที่ซาบซึ้งที่สุด ขอบคุณที่ทรงสร้างรถซิ่ง”
    Credit : F & F 6
    RIP. Paul Walker

  3. ง่าย ๆ ก็ตาย แต่น่าเกลียดไปเปล่า ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไป โดยเฉพาะเห็นเน้นย้ำมากมายว่าจะให้เกียรติแก่การตายของพอลด้วย (มันไม่ขำเลยนะที่มักงายแค่ให้ตัวละครตายไปก็จบ)

    ตอนต้นภาค 6 ดอมก็บอกให้ไบรอันถอนตัวอยู่แล้ว แล้วตอนจบภาค 6 ก็จบอย่าง Happy กันทั่วหน้ายกเว้นฮาน

    ดังนั้นสู้เน้นเรื่องที่ไบรอันมีลูกแล้วจึงต้องถอนตัวไปดูแลลูกเมียน่าจะทำได้ลงตัวและง่ายกว่า แต่ถ้าทำแบบนั้นมีอาก็เท่ากับโดนตัดจบไปด้วยอีก 1 คน….

    • ผมว่าไม่เห็นจะน่าเกลียดตรงไหน ถ้าให้ ตัวละคร ไบรอัน ตาย (ในเมื่อคนแสดงตายไปแล้ว)
      ลองคิดดูนะครับ ภาค 7 นี้พวก ดอมกับทีม โดนตัวละครของ เจสัน ตามล้างแค้น ซึ่ง มีอาเป็นน้องสาว ดอม ไบรอันก็เป็นคนสนิท
      ต้องโดนตามล่าด้วยอยู่แล้ว และจะบอกว่าถอนตัวไปและไม่กล่าวถึงอีกเลย มันจะแปลกๆไหม ถ้าต้องมีถึงภาค 10 (ยิ่งถ้าทีมพระเอกกำลังแย่ดูแล้วน่าจะโดนหนักเลย ไบรอันจะหนีไปคนเดียว ยิ่งแปลกไปใหญ่)

  4. เชื่อว่าที่ยังเก็บ ตัวละคร ไบรอัน โอคอนเนอร์ ไว้ ก็เพื่อว่า สักวันหนึ่ง หนังกลับมาทำรีเมค ใหม่ เปลี่ยนคนเล่นยกเซ็ท ก็เรียกแฟนขาใหม่ได้เพิ่ม และแฟนขาเก่า อีกชุดนึง
    ส่วนเรื่อง บริษัทแน่นอนก็ไม่ยากเสียเงิน 150 ล้านเหรียญหากต้อง รื้อทำใหม่ทั้งหมด อันนี้ คงซัดกันโต๊ะเจรจากระจุยว่าอย่า นะ อย่าทำฉัน ถ่ายต่อไปเหอะตัดหรือเปลี่ยนคนเล่นแทน หนังอาจไม่ได้ตังและย่ำแย่ได้ สู้ให้คนดูยังคงได้เห็น พอล วอกเกอร์ รายได้จะถล่มทลายมากกว่านี้ และมูลนิธิ ของพอล จะได้ เงินส่วนหนึงที่หนังได้กำไรอีกด้วย รวมๆแล้ว บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นแบบนี้นะดีแล้ว คนดูก็ต้องยอมเพื่อให้ทุกฝ่ายไปต่อได้นะผมว่า

  5. สำคัญตรงที่ถ้าทำให้ตาย จะตายแบบไหนล่ะที่ดูว่าให้เกียรติ มันไม่มีหรอก ไหนจะความรู้สึกครอบครัวพอล
    และความรู้สึกของนักแสดงที่ต้องรับบท”ฆ่า”ไบรอันอีก…มันจะดูตอกย้ำมากกว่าให้เกียรตินะครับ

      • แต่ผมมองว่า อย่างที่บอก ว่ารถชนตาย ดูเหมาะที่สุดกับตัวหนังครับ
        ถึงแม้จะดูสะเทือนใจก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นฉากนี้ก็ได้ กล่าวถึงว่าโดนฆ่าไปแล้ว เฉยๆก็ดีนะ

  6. ส่วนตัว หากให้มีฉากไบรอันตายด้วยอุบัติเหตุรถยนต์
    ผมคงสะเทือนใจมาก เหมือนโดนตอกย้ำความเสียใจอีกครั้ง
    ผมมีเพื่อนที่ญาติของเขาเสียไปกับสึนามิ และเขาทนดูหนัง The Impossible ไม่ได้ ต้องเดินออกจากโรง
    ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ และคนใกล้ชิดก็คงยิ่งสะเทือนใจกว่า และคงไม่ยอมให้มีฉากแบบนั้น

    • .
      คิดแบบเดียวกันเลยครับ ยิ่งทำฉากตายเหมือนกับชีวิตจริง ยิ่งไม่ให้เกรียรติ

      หนังหลายๆเรื่อง ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในขณะนั้นๆ ยังเลื่อนฉายออกไปเลย

      อย่างเช่น Collateral Damage ยังเลื่อนฉาย เพราะเหตุการณ์ 9/11 เลย

      ฝรั่งเค้าถือมากเลยนะ เกี่ยวกับการสูญเสีย กับความรู้สึกคน

      คิดว่าน่าจะถอนตัวไปแบบมีเหตุผลดีๆน่ะแหละ
      .

  7. คิดเล่นๆนะครับ เริ่มด้วยฉาก ที่ ทอเรตโต้ ไปที่โตเกียวหลังจากรู้ข่าวการตายของ ฮาน
    แล้วมีอาก็โทรมาหา ประมาณว่ามีคนบุกเข้ามาทำร้าย แล้วสายก็หลุดไป ผลคือ ไบรอันเสียชีวิต ส่วนมีอา กับลูกหนีมาได้
    (ไม่ต้องเห็นฉากการเสียชีวิตด้วย ใช้แค่เสียงอันตื่นกลัว ของมีอา) แบบนี้เลยผมว่าดูดีนะ แล้วในอนาคตอาจใช้ แจ๊ค โอคอนเนอร์
    (ลูกของ ไบรอัน) เป็นตัวเอกก็ได้อีกนะ

  8. การสร้างหนังมันต้องคิดเยอะๆครับคิดหลายมุมมองและความเหมาะสมที่สุดทุกด้านและการตลาด
    เพราะการสร้างคือการลงทุนยิ่งมีกรณีแบบนี้ควรคิดหนักสุด เพราะว่าหลากหลายสังคมและวัฒนธรรม จึงจะทำอย่างไรให้ได้ผลที่ออกมาดีที่สุด เพราะการทำหนังไม่มีกฏตายตัว

Leave a Reply to kendejizCancel reply