ด้วยต้นทุน 215 ล้านเหรียญ (น่าจะรวมงบการตลาดแล้ว) หนัง Oz: The Great and Powerful ทำรายได้ทั่วโลกไปตอนนี้ 292 ล้านเหรียญหลังจากฉายมา 3 สัปดาห์ ซึ่งเหลืออีกประมาณ 100 ล้านเหรียญ ก็น่าจะได้ทุนคืนแล้วครับ หนังอาจไม่ทำเงินให้ดิสนี่ย์มากเท่า Alice in Wonderland แต่ก็คงเป็นหนังที่ทำกำไรให้พอสมควร คะแนนจากคำวิจารณ์ก็อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ วัดจากการประเมินของ Rotten Tomatoes ที่มีนักวิจารณ์ชอบ 61% และมีคะแนนเฉลี่ย 6/10 จาก 220 บทวิจารณ์ที่รวบรวมมา
โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าหนังเรื่องนี้เน้นไปที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมวัยต่ำกว่า 13 ปีเป็นหลักครับ ผู้ชมในวัยรุ่นขึ้นไปอาจแค่พอดูเพลินๆ หรือถ้าใครอยากเห็นงานของแซม ไรมี่ ที่มีด้านมืดหน่อยก็อาจจะผิดหวัง เพราะค่อนข้างเป็นหนังสดใสพอสมควร (แม้ว่าไรมี่จะแอบใส่ลายเซ็นความเป็นหนังสยองขวัญไว้ให้ตกใจนิดๆ)
ผมไม่รู้สึกผิดหวังกับ Oz: the Grat and Powerful ครับ เพราะรู้สึกว่าหนังตีโจทย์สิ่งที่ต้องการนำเสนอได้แตก เพียงแต่หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน อย่างที่บอกว่าเน้นไปที่ผู้ชมคุณหนูคุณน้องมากกว่า และก็ไม่รู้สึกว่าเป็นหนังที่พิเศษอะไรมากมาย งานเทคนิคด้านภาพอาจจะงานบรรเจิด แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ หรือมีเสน่ห์เฉพาะตัว อารมณ์ของงานสร้างยังไม่ต่างจาก Alice in Woderland มาก
แต่สิ่งที่ทำให้ปลื้มหนังเรื่องนี้ก็คือการพยายามโยงประเด็นบางอย่างให้เข้ากับ The Wizard of Oz ที่ทำได้น่าสนใจและชวนให้อมยิ้มอยู่ตลอดสำหรับใครที่เคยดูหนังฉบับปี 1939 มาก่อน เรเชล ไวส์ซเป็นนักแสดงคนเดียวที่ผมรู้สึกว่าโดดเด่นที่สุด เป็นนางร้ายที่ดูเป็นธรรมชาติ และตัวละครนางอิจฉาในละครทีวีของบ้านเราควรเอามาเป็นแบบอย่าง
ผมให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 7.5/10 ครับ ดูกันแล้วชอบแค่ไหนครับ อยากชวนมาออกความเห็น
ครับ สำหรับความเห็นของผมอย่างที่บอกไว้ ในกระทู้ของหนังเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้
หนังไม่ได้ดีที่สุด เยี่ยมที่สุด แต่ดูได้เพลินๆ และ ชอบความเป็นคนกะล่อนนิดๆ หรือไม่นิด ของออซ..
พี่เจได ให้ 7.5 ผมให้ 8 อ่ะครับ
ปล. ยังย้ำว่า หนังเรื่องนี้ดูสนุกกว่าหลายเรื่องที่ผมไปดูก่อนหน้านี้ 55+
ไม่ผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ดีมากซะเลยทีเดียว ดูเพลินๆครับ แอบมีฉากตกใจตามสไตล์แซมจริงๆ ให้8/10ครับ
สนุกมากครับ มีฉากตื่นตาตื่นใจที่พอโอ้โหได้อยู่เหมือนกัน
เสียดายไม่ได้ไปดู 3D ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า
สำหรับเด็กๆแล้วคงเป็นหนังที่ดูสนุกอย่างที่คุณเจไดบอกไว้
แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นหนังที่เหมาะกับหนูๆน้องๆอย่างเดียวแบบนั้น
ประเด็นภาพของหนังมีความสดใสเหมาะกับเด็กนั้นก็จริงอยู่
แต่ผมว่าเนื้อหาของหนังนั้นแฝงความลึกซึ้งที่สอนผู้ใหญ่ไว้หลายๆจุดเลยทีเดียว
ถึงจะแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดแต่สำหรับเด็กอาจไม่เข้าใจเท่าผู้ใหญ่
(ต่อไปอาจสปอยล์เนื้อเรื่องนะครับ)
อย่างประเด็นเรื่องความรักกับความผิดหวังในรัก ที่อาจเปลี่ยนให้คนดีแสนดี
กลายเป็นคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่าคนที่ว่าร้ายเสียอีก
หรืออย่างการมองคน ความร้ายกาจที่แท้จริงบางทีก็แฝงมากับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
และหลอกลวงให้เราเชื่อใจ กับความร้ายกาจที่แสนเศร้าที่ภายนอกเห็นแต่ความโกรธเกรี้ยว
แต่ภายในอาจจะเป็นคนดีที่เสียใจจากการถูกกระทำ
หรืออย่างประเด็นที่ เมื่อได้มาอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์
ออสได้ใช้การเล่นกลช่วยเหลือผู้คนจนได้เป็นคนยิ่งใหญ่สมใจ
และนางเอกก็รักเค้าในแบบที่เค้าเป็น
กับการได้ช่วยตุ๊กตาน้อยๆที่ขาหัก ให้สามารถเดินได้อีกครั้ง
สะท้อนกับชีวิตจริง
ที่การเล่นกลปาหี่ทำให้เค้าต่ำต้อย ไม่สามารถทำให้หญิงสาวหันมามองเค้าได้
กับความเสียใจที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตั้งความหวังว่าอยากจะเดินได้
กับการเล่นกลหลอกๆของเขา
เหล่านี้ผมว่าเป็นความสามารถของคนเขียนบท
ที่สามารถเขียนให้ตัวละครมีความตื้นลึกน่าสนใจและยังเฉลี่ย
ความสำคัญให้กับตัวละครหลักทั้งสี่ได้อย่างสมดุล น่าชมเชย
ผมให้ 8.5/10 ละกันครับ
สำหรับงาน 3D ผมคิดว่าทำออกมาได้ดีงดงามในระดับหนึ่งเลยครับ
โดยเฉพาะฉากช่วงแรกที่เป็นขาวดำ และเปลี่ยนเป็นภาพสี
ทำให้ตื่นตาอย่างมาก และไม่เคยเห็นในเรื่องใด ถือเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร
ผมแอบผิดหวังกับบทเล็กน้อย
(สปอยยยยยยยล์)
ที่ระดับแม่มดจอมร้ายกาจแต่กลับเสียท่าง่ายไปหน่อย
ยังไงเสียก็ยังห่างชั้นจาก Alice in Wonderland ที่ป๋าทิมทำได้อาร์ตและแนวมากๆ
ครบสมบูรณ์แบบทั้งภาพ บท มุกตลก ข้อคิด
และผมแอบเอนเอียงความชอบไปที่หนังเรื่องก่อนหน้าแนวเดียวกันอย่าง Jack The Giant Slayer ที่ดูสนุก มันส์ และประทับใจตอนท้ายเรื่อง
ผมให้ Oz 6.8/10 ขณะที่ Jack ผมให้ 7.5 ครับ