Sex and Zen: Extreme Ecstasy – ความเห็นหลังชม

เพิ่งได้เมลจากเอ็ม พิคเจอร์ส มาวันนี้ เกี่ยวกับรายได้หนัง Sex and Zen: Extreme Ecstasy หรือ “ตำรารักทะลุจอ” ครับ ซึ่งเผยว่าหลังจากหนังออกฉายในบ้านเรานั้นทำเงินสองวันแรกสูงกว่า Super 8 อีก ทั้งที่รอบฉายน้อยกว่า และมีการจำกัดอายุผู้ชม ในเมลไม่มีแจ้งมาถึงจำนานรายได้ แต่กระแสบอกว่าเฉพาะวันแรกที่ฉายนั้นเกิน 3 ล้านเข้าไปแล้วครับ

นี่อาจแปลว่าคนดูหนังในบ้านเราชอบอะไรหวือหวา หรืออาจแปลว่าผู้ชมส่วนใหญ่ของบ้านเราที่เข้าไปดูหนังอาจเป็นคนวัยเกิน 20 ก็ได้ครับ แต่จะอะไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าเรื่อง“เซ็กซ์“ก็ยังเป็นเรื่องที่ขายได้อยู่ และพอนานๆ จะมีมาให้ชมกันทีก็เลยทำให้“ขายดี“มากๆ

มาที่ความเห็นของผู้ชมที่ได้ดูหนังแล้ว ผมไม่ได้ไปดูรอบกาล่าของหนัง และยังไม่คิดที่จะไปดูเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังแบบนี้เท่าไหร่ และยิ่งพอรู้ว่าฉาก 3 มิติ ส่วนใหญ่ดูจะเกี่ยวกับฉากต่อสู้ในหนังมากกว่าฉากเข้าพระเข้านาง เลยทำให้ยิ่งเฉยๆ ครับ

ความเห็นส่วนใหญ่ที่อ่านมา ชื่นชมการพากย์ของทีมพันธมิตรแทบทั้งนั้น นี่อาจเป็นเหตุผลหลักหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมประทับใจหนัง และชอบความเป็นหนังคัลท์ของหนังเรื่องนี้กัน ขณะที่ฉากโป๊ในหนังนั้นก็ไม่ต่างจากหนังเรต R ทั่วไปเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าพิศดารกว่า เยอะกว่า และนานกว่า

ส่วนความเห็นด้านลบก็ดูจะบอกว่าฉากต่อสู้ท้ายเรื่องเหมือนจะเป็นส่วนเกินของหนังที่ดูไม่ค่อยเข้ากับหนังอีโรติก และน่าสนใจตรงที่ความเห็นส่วนใหญ่ดูจะออกไปในเชิงนิยามหนัง และบอกว่าหนังมีอะไร มากกว่าฟันธงว่าเป็นหนังดีไหมครับ

Sex and Zen ที่เป็นฉบับวรรณกรรมนั้น ถือเป็นวรรณกรรมอมตะของจีนเรื่องหนึ่ง มีชื่อภาษาจีนว่า “โย่วผูถวน” ถูกแปลเป็นไทยในชื่อ “บัณฑิตก่อนเที่ยงคืน” จากข้อมูลที่ผมอ่านจาก O2blog บอกว่าไม่ใช่วรรณกรรมเชิงอัศจรรย์ หรือโลกีย์อะไร แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสอนชายหนุ่มมากกว่า ใครที่อยากรู้ที่มาของหนัง ลองเข้าไปอ่านจากลิงก์ดูครับ

ส่วนใครที่ได้ชมกันแล้วลองมาให้ความเห็นกันดู และลองให้คะแนนกันดูครับว่าเต็ม 10 คุณให้เท่าไหร่

5 comments

  1. สำหรับผม ไร้สาระ ไม่ค่อยมีแก่นสารเท่าไหร่ พากย์ไทยก็ฮา แต่ถ้าเทียบกับค่าตั๊วที่แพงเนี๊ย ยังไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ เหมือนดูหนังเอวีในแบบ 3D ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกติดใจอะไรเท่าไหร่ แม้แต่บรรดานักแสดงโป๊หญิงในเรื่อง ก็คงถูกใจหนุ่มๆชาวไทยทั้งนั้น แต่ด้วยความยาวที่ยาวเกินไปสำหรับหนังแนวนี้ และการใส่ความตลกที่เหมือนพาโทนหนังเพี้ยนไปด้วย ผมคิดว่าถ้าอยากลองไปทดลองกับหนัง 3D แบบนี้จริงๆ ก็ลองดูซักครั้งเป็นประสบการณ์ชีวิตได้ แต่ถ้ามีหนังแบบนี้มาฉายในโรงบ้านเราอีก ผมคงไม่ไปลองอีกเรื่องแล้วล่ะ เพราะแค่ครั้งเดียวก็เกินไปแล้วสำหรับผม!

    คาดการณ์ว่าเป็นหนังคัลต์ในอนาคตแน่ๆ เพราะเรื่องนี้เนี๊ย มีหัวใจของพวกหนัง Exploitation เกรดบีทั้งหลายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งมักจะใส่พวกความวื๋อว๋าต่างๆ (จะโป๊ หรือรุนแรง หรือตัวละครเว่อร์ๆได้สอดคล้องกัน) แต่มันก็ไม่ต่างจากหนังโป๊ทั่วไปนักนะถ้าถามผม (นี่ยังดีนะเนี๊ยที่ไปดูรอบแรกวันธรรมดา ในโรงเซนจูรี่ อนุเสาวรีย์ เหอะๆๆๆๆ คนน้อยมากๆ นี่ถ้าคนในโรงเยอะกว่านี้ล่ะก็ คงอึดอัดความรู้สึกน่าดู!) คือจริงๆตัวหนังมันก็มีเนื้อเรื่องแหละ แต่อย่างว่าความที่หนังขายเซ็กซ์ ไอ้ส่วนอื่นๆเลยลดหายไปพอสมควร ที่เราเห็นเลยเหมือนดู อะไรที่แบบว่า “ถ้าเราได้ดูคนเดียว คงจะสบายใจกว่านี้อ่ะนะ” ….. -_-“!

    ไม่รู้จะนิยามหนังเรื่องนี้ว่าอย่างไร คือใครที่ชอบพวกหนังโป๊ Exploitation เกรด B จากยุค 70 – 80 (ประมาณที่ฉายโรงหนังชั้นสอง หรือโรงหนัง Grindhouse โบราณ) น่าจะชอบเรื่องนี้ ยิ่งเป็น 3D ด้วย เชื่อว่ากลุ่มคนพวกนี้คงถูกใจแน่ๆ ส่วนตัวผม ผมยอมรับว่าก็ชอบพวกหนัง Exploitation เหมือนกันแหละ แต่ขอให้ผสมผสานอะไรต่างๆให้มันมีมิติเยอะกว่านี้หน่อยก็จะดี พูดง่ายๆคือผมชอบหนังแบบ Exploitation ที่ไม่ได้เน้นความวื๋อว๋าโจ๋มครึ่มส่วนใดส่วนนึงจนมากเกินไป น่าจะใส่หลายๆอย่าง กระจายให้มันทั่วถึง ที่มีเนื้อเรื่องพอให้สร้างความสะใจกับคนดู และสร้างอิ่มเอมใจได้ระดับนึงกับค่าตั๋วที่เราเสียไป ใครที่ได้ดู Drive Angry 3D ที่ฉายเมื่อเดือนก่อนน่าจะเข้าใจความรู้ผม เพราะนั่นคือหนัง Exploitation ที่มีทุกๆอย่างแบบที่ผมต้องการ

    ถึงอย่างไรซะ ผมจะให้หนังเรื่องนี้ 2/10 ถ้าถามผมว่าควรดูมั๊ย ก็ถ้าอยากจะมีความรู้สึกว่า เวลามีอวัยวะผู้หญิงลอยอยู่บนข้างหน้าเรา มันจะเป็นยังไง ก็ไปดูซะ ถ้าถูกใจก็เตรียมรอเรื่องต่อไป แต่ถ้ารู้สึกแบบผม (ประมาณแบบตายด้านไปแล้วเนี๊ยแหละ) ก็ถือคิดซะว่า เป็นประสบการณ์ในชีวิตครั้งนึงที่เราได้ลอง เหอะๆๆๆ แต่ขอแนะนำว่า ถ้าใครอยากดูหนังโป๊ 3D ที่สะใจจริงๆ เดี๋ยวนี้มีแผ่น BD 3D หนังโป๊ที่เริ่มขายได้ไปช่วงนึงแล้ว สำหรับดูกับ TV 3D และเครื่องเล่น Blu-ray 3D (ซึ่งเริ่มมาขายไปได้เกือบปีแล้ว) ผมแนะนำเลยว่าดีกว่า Sex And Zen 3D ที่ฉายในโรงขณะนี้แน่นอน (จะไม่ขอสานธยาย เพราะอยากบอกว่าคุณ ภาพมันสมจริงและทะลวงลึกเข้าไปยิ่งกว่า Sex And Zen 3D ซะอีก เหอะๆๆๆ)

  2. ไปดูมาแล้วครับ แบบ 3 มิติ ภาพก็สวยพอใช้ เนื้อเรื่องดูไร้สาระ จับต้นชนปลายไม่ถูก กลางเรื่องหลับไปแปปนึงด้วยครับ

    ให้ 5 คะแนนครับ

  3. ไม่ได้ดูครับ วันนี้ไปนั่งเล่นหน้าโรงหนังกับแฟน ก็นั่งขำกันตอนที่เขาประกาศให้เรื่องนี้เข้าโรง ก็มีจูงมือกันเป็นคู่ ๆ เข้าไปกัน พอสังเกตุเห็นได้ว่ามีแต่ปะป๊ารุ่นลุง ๆ เข้าไปกับสาว ๆ แต่งตัวดี ก็พอจะนึกออกว่ามันคืออะไร ไม่ก็เป็นตาลุงเข้าไปคนเดียว

    จะเห็นคู่วัยรุ่นก็มีแค่คู่เดียวเท่านั้นที่เข้าไปดู

    รอบนั้นผมนั่งสังเกตุไปเรื่อย ๆ ก็เห็นว่ามีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้นนะครับ ไม่ได้มากมายอะไร ที่ว่าทำเงินได้มากกว่า Super 8 อาจเพราะค่าบัตรมันแพงรึเปล่า (พวกผู้ใหญ่เวลาดูก็ใช้ส่วนลดอะไรไม่ได้มากเท่าวัยรุ่นด้วย)

    ความคิดเห็นส่วนตัวของผมที่ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากไปดูเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นอะไรนี่น่าอึดอัดน่าดู ที่เราต้องดูหนังพวกนี้กับคนแปลกหน้า แถมยังขืนเกิดอารมณ์ในที่สาธารณะ ผมว่าตายซะดีกว่า (ฮา ฮา)

  4. วันที่หนังทั้ง 2 เรื่องเข้าพร้อมกัน Super 8 กับ Sex and Zen ผมตัดสินใจดู Super 8 ถึงจะมีเพื่อนๆบางท่านชอบไม่ชอบครึ่งต่อครึ่ง…แต่ผมก็รู้สึกพอใจกับหนังเรื่อง Super 8 มากกว่า Sex and Zen แน่นอน….

  5. ถ้าเรื่องนี้เป็นหนัง 2D ธรรมดา.. โดยตัวหนังเอง ผมให้ระดับ ‘ผ่าน’ นะ.. คือ พอดูได้เพลินๆ ไม่ถึงกับเสียดายเวลาอะไรขะไหนหนาด
    แต่เมื่อมันเป็น 3D ที่คงไม่เอามาเป็นปัจจัยในการพิจารณาไม่ได้ เพราะมันเป็นจุดขายสำคัญของงานชิ้นนี้ (และยิ่งเทียบกับค่าตั๋วที่แพงกว่าปกติ) หนังเรื่องนี้ก็ ‘สอบตก’ ครับ

    เพราะนอกจากภาพ “นมลอยเด้ง” อยู่ตรงหน้า ซึ่งก็มีแค่ช็อตเดียว หนังโป๊เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่า ประสบการณ์ในการดูหนังโป๊สามมิติ ให้ความแตกต่างจากหนังสองมิติตรงไหน !?! .. ซึ่งอาจเป็นปัญหาด้านความคิดสร้างสรรค์ของคนทำ ที่อาจจะตีโจทย์ที่ตัวเองตั้งไว้เองไม่แตก หรือ ยังขาดมุมมองด้านภาพที่จะนำเสนอในส่วนนี้ให้ “ถึง” มากกว่านี้ได้

    แต่… ไม่ว่าจะมองในระดับ ‘ผ่าน’ หรือ ‘สอบตก’ ผมก็รู้สึกได้ว่า อย่างน้อยคนทำหนังเรื่องนี้ ก็มีความตั้งใจอยู่มากเลยทีเดียว
    คือไม่ได้สุกเอาเผากินทำแบบตีหัวเข้าบ้าน (เพราะกะว่าจุดขาย 3D ก็น่าจะเรียกคนดูได้แล้ว) เห็นได้ถึงความพยายามที่จะทำงานให้ออกมาดี (แม้ว่าที่สุดแล้วมันจะไม่ได้ดีก็ตาม) ทั้งเรื่องบท (ที่พยายามใส่เหตุและผลให้กับทุกๆส่วนและพยายามเก็บรายละเอียดที่ปูไว้แบบไม่ตกหล่น), ฉาก, ภาพ, การแสดง หรือ เทคนิคพิเศษ รวมไปถึงแง่มุมด้านสาระ คติสอนใจ — แต่ก็เป็นแบบจับยัดและออกแนวกำปั้นทุบดินไปหน่อย

    โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าหนังเรื่องไหนทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจทำแบบนี้ ก็จะช่วยหักกลบลบหนี้ (เสีย) ไปได้หลายส่วนทีเดียว ^_^

Leave a Reply