จา พนม กลับมาร่วมงานกับปรัชญา ปิ่นแก้ว ในภาคต่อ 3 มิติของ “ต้มยำกุ้ง 2”

นี่เป็นทั้งการปฏิเสธข่าวลือและเป็นการประกาศตัวโครงการใหม่ที่น่าสนใจไปพร้อมๆ กันครับ คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ (เสี่ยเจียง) ประธานของสหมงคลฟิล์ม นำทีมแถลงข่าวประกาศสร้างหนัง “ต้มยำกุ้ง 2” เมื่อวานนี้ และยังคงมีจา พนม กลับมาร่วมงานอีกครั้ง เป็นการยืนยันว่าจา พนม ยังอยู่กับสหมงคลฟิล์มต่อหลังจากมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะออกไปสร้างหนังเองร่วมกับเมืองนอก

อีกเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือเป็นการกลับมาร่วมงานกับผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว อีกครั้ง หลังจากมีข่าวว่าทั้งคู่มีปัญหากันจาก “องค์บาก 2” หนังยังได้พันนา ฤทธิ์ไกร กลับมาดูแลฉากบู๊ให้อีกเช่นเคย และเพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา (หม่ำ จ๊กม๊ก) ก็กลับมาร่วมแสดงด้วย จึงเป็นการกลับมาร่วมงานของทีมดั้งเดิมจาก “องค์บาก” ภาคแรกแบบครบทีม

แต่ยังไม่หมดแค่นั้น ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังบอกด้วยว่า จีจ้า ญาณิน และ ชูพงษ์ ช่างปรุง (เดี่ยว) จะมาช่วยเสริมทัพนักแสดง ในงานหนังที่จะสร้างเป็นหนังบู๊ 3 มิติ ทุนสร้าง 300 ล้านบาทครับ

และเนื่องจากยังเพิ่งเป็นการเปิดตัวโครงการ รายละเอียดของเนื้อเรื่องจึงยังไม่มี แต่ในสัมภาษณ์ที่ให้แก่ไทยรัฐนั้น คุณสมศักดิ์บอกถึงทิศทางของหนังว่า “อยากจะให้เหมือนดายฮาร์ด ภาค 3 อยากจะทำแบบนั้น ให้มันถล่มทลายเลยเป็นครั้งแรกของเมืองไทยซึ่งโลกจะต้องตะลึง” ขณะที่จา พนมพูดถึงศิลปะป้องกันตัวที่จะใช้ในหนังว่าก็จะต้องมีการคิดรูปแบบมวยแบบใหม่ครับ ส่วนในแง่ของสถานที่ถ่ายทำ คุณปรัชญาบอกว่าจะ “จะเน้นโลเคชั่นในเมืองไทย” และพูดถึงการตามหาของในหนังว่า “ก็อยากจะลบคำว่าช้างกูอยู่ไหน อยากจะเอาคำอื่นมาบ้าง

ต้มยำกุ้ง 2” มีกำหนดฉายอยู่ช่วงตรุษจีนปี 2555 ครับ แค่คงอีกสักพักกว่าจะเปิดกล้องครับ เพราะคุณปรัชญาต้องเปิดกล้อง “ช็อกโกแลต 2” ก่อนในเดือนพฤษภาคมนี้ ที่จะถ่ายทำด้วยระบบดิติตอล 3 มิติ

อ่านแบบเต็มๆ ได้ที่ไทยรัฐ และขอบคุณภาพงานแถลงข่าวจากเฟซบุคของสหมงคลฟิล์มครับ

9 comments

  1. อยากอุดหนุนหนังไทยของพี่จามากนะครับ แต่น่าจะทำบทใหม่เนื้อเรื่องใหม่หมดเลย ใช้ชื่อเรื่องเดิมแล้วตามด้วย2 เหมือนขี้เกียจทำ ไม่รู้หนังออกมาจะแนวๆเดิมหรือเปล่า(โชว์ฉากบู๊slowซ้ำไปซ้ำมา แล้วบทอ่อนมาก) อยากให้ลดฉากบู้ลง ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ ผมชอบมาก แต่อยากให้ใส่แต่เนื้อๆลงไปเพิ่มดรามาและบทดีๆลงไปเยอะหน่อย มันจะได้ตื่นเต้นกับฉากบู๊ที่ออกมาแต่ละครั้งและอยากให้ใช้งบ300ล้านให้คุ้มที่สุดครับ

  2. เหตุผลของชื่อเรื่องเดิมแต่เติมเลข 2 ผมขอเดาว่า เป็นเหตุผลทางการตลาดก็แล้วกันนะครับ เพราะมันง่ายต่อการโฆษณา ถึงแม้ในแง่ของบทภาคแรกจะแย่ แต่คำชมในด้านคิวบู๊ก็ยังหนาหูอยู่ เพราะงั้นชื่อนี้ยังพอขายได้ครับ ส่วนบทผมเชื่อว่าพวกทีมงานน่าจะรู้กระแสตอบรับตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะครับ

    ยังไงผมก็จะรอดูด้วยความตื่นเต้นละนะ ^^ ดีใจที่เห็นพวกพี่ๆเค้าหันมาทำงานด้วยกันอีก ตื่นเต้นๆ

  3. อะไรจะสุดยอดเท่ากับการได้ดูฉากบู๊มันส์ๆจากจาพนม แถมยังมีจีจ้า และเดี่ยวอีก สุดยอด รอดูอยู่ครับ แล้วหม่ำจ๊กมก ก็มา ไม่ดูได้ไง อุ่นใจครับที่พันนากำกับคิวบู๊ ล่าสุดเรื่องโคตรสู้โคตรโสก็ได้รางวัลสตั๊นท์จากอเมริกาครับ แล้วเสี่ยเจียงทุ่ม300ล้านผมแค่หวังว่าจะไม่หมดกับ3Dจนเกินไปนะครับ

  4. ดีจริงๆ นอกจากหนัง “ตำนานฯ” แล้วก็จะมีเรื่องนี้อีกเรื่อง ที่จะช่วยทำลายข้อจำกัดที่ว่า
    หนังไทยทำให้ดีมันยาก “เพราะทุนน้อย” ^_^

  5. กระแสต้มยำกุ้งที่ต่างประเทศดีกว่าที่ประเทศไทยอีก ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมวิจารณ์กันออกมาว่าบทยังไม่แข็งแรง ความต่อเนื่องลื่นไหลไม่ดี ผมว่าบทดีมากนะครับ คอนเซ็ปท์คือ ความรัก การต่อสู้ เพื่อปกป้องและช่วงชิงของที่รัก(ช้าง)คืน ใช้ช้างเป็นหลัก ผมว่าบทนี้ดีมากนะครับ ดูแล้วผมยังร้องไห้เลย คนที่ดูในโรงแล้วว่าบทไม่ดี ไปซื้อดีวีดีมาดูครับดูสัก3รอบ แล้วคุณจะประทับใจกับบท และสุดท้ายผมคาดว่าภาค2ต้องดีด้วย เป็นกำลังใจให้ครับ

Leave a Reply to GumpormanCancel reply