Skip to content

วิน ดีเซล เชื่อว่าตอนจบ Furious 7 อาจเป็นช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

เมื่อนึกถึงฉากที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ บางคนอาจนึกถึงตอนที่เวเดอร์เปิดเผยความจริงให้ลุครู้เรื่องชาติกำเนิดใน Star Wars: The Empire Strikes Back, บางคนอาจนึกถึงฉาก “O, Captain! My Captain!” ในฉากจบของ Dead Poets Society, บางคนอาจนึกถึงฉากจักรยานเหาะผ่านดวงจันทร์ใน E.T. หรือบางคนอาจนึกถึงฉากอาบน้ำใน Psycho แต่สำหรับวิน ดีเซล แล้ว เขาเชื่อว่าฉากจบใน Furious 7 อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ครับ

ฉากดังกล่าวเป็นฉากเรียบง่าย ที่ไบรอัน ตัวละครของพอล วอล์คเกอร์ ผู้ล่วงลับ ขับรถแยกกันไปคนละทางกับดอม ตัวละครของดีเซล และมุ่งหน้าสู่ตะวันตกดิน เป็นการอำลาชีวิตผจญภัยของไบรอันเพื่อที่จะได้ไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ขณะเดียวกันก็ได้ให้แฟนหนังชุดนี้ได้อำลาพอล วอล์คเกอร์ ซึ่งเสียชีวิตขณะถ่ายทำจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แฟนหนังต่างเห็นกันว่าเป็นการจัดการส่งตัวละครไบรอัน และอำลานักแสดงผู้รับบทได้อย่างใส่ใจ ได้อย่างให้เกียรติ และเป็นฉากที่จริงใจและสะเทือนอารมณ์ที่สุดของหนังชุดนี้

ระหว่างให้สัมภาษณ์เพื่อประชาสัมพันธ์หนัง Bloodshot เดือนก่อน ดีเซลถูกถามถึงฉากจบของ Furious 7 อีกครั้ง

ผมไม่อยากให้ใครใช้โศกนาฏกรรมครั้งนั้นเป็นโครงของเนื้อเรื่อง มันสำคัญต่อผมมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก แต่มันมีการปลอบประโลมใจบางอย่างจากการที่เราสามารถปกป้องไม่ให้ผู้อำนวยการสร้างที่เอาแต่ใจ หรือใครก็ตามที่บอกว่า ทีนี้คุณก็จะต้องล้างแค้นแทนตัวละคร และใช้มันเป็นเนื้อเรื่อง แต่เรากลับได้ทำสิ่งที่งดงามและมีระดับ

ดีเซลพูดต่อว่าสำหรับเขาแล้ว มันคือช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เพราะมันยอมให้ผู้ชายได้ร้องไห้

มันอาจเป็นช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่ในอาชีพของผม แต่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลย ผู้ชายทั่วโลก ทุกคนสามารถร้องไห้ได้ แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้ชายทั่วโลกสามารถที่จะร้องไห้ด้วยกันได้

ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับดีเซลไหม แต่ถ้าคุณได้ลองดูคลิปที่เขาให้สัมภาษณ์ด้านล่างนี้ จะเห็นว่าเขาพูดอย่างจริงใจ และเชื่อสุดใจ

ที่มา: The Playlist

Leave a Reply

%d bloggers like this: