JEDIYUTH’s Review: Real Steel

Real Steel: หุ่นยนต์นักมวยถูกนำมารีไซเคิลใหม่

หุ่นยนต์ชกมวยตัวเอกในหนัง Real Steel ของผู้กำกับชอว์น เลวี เป็นหุ่นยนต์รุ่นเก่าที่ถูกโละทิ้งแล้ว ถูกค้นพบใหม่ ถูกนำมาปัดฝุ่นล้างน้ำ ถูกนำมาเปลี่ยนอะไหล่ แล้วได้รับโอกาสกลับขึ้นสู่สังเวียนอีกครั้ง และก็ชกคู่ต่อสู้ได้อย่างเข้าเป้าเต็มแรง ตัวหนังเรื่องนี้เองก็คล้ายกับหุ่นยนต์ตัวนี้ครับ เป็นสูตรหนังเดิมที่ถูกนำมายำใหม่ ใส่เทคนิคพิเศษให้ดูเฉี่ยวและทันสมัย เป็นนักรบรุ่นเดิมที่ถูกนำมาปรับแต่งใหม่เพื่อออกฉายในสังเวียนจอเงินอีกครั้ง ท่วงท่าลีลาในการชกอาจเดาได้ง่าย แต่ผู้สร้างสามารถใส่ “หัวใจ” เข้าไปในหนังที่คนดูรับรู้ได้ จึงทำให้หนังเรื่องนี้การออกหมัดได้อย่างโดนใจครับ

Real Steel เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2020 อนาคตที่อยู่ไม่ไกลนัก เป็นยุคที่สหรัฐเผชิญปัญหาสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ การชกมวยกลายเป็นกีฬาต่อสู้อันป่าเถื่อนและถูกสั่งห้าม ผู้คนที่ยังหลงใหลเกมกีฬานี้ก็หาทางออกโดยการสร้างหุ่นยนต์บังคับมาสู้กันแทน

ฮิวจ์ แจ็คแมนรับบทเป็นชาร์ลี แคนตั้น อดีตนักมวยชื่อดังที่หันมาหากินกับการเป็นนักบังคับหุ่นยนต์ต่อสู้แทนขึ้นชกเอง ไม่รักที่จะผูกพันกับอะไรหรือใครทั้งนั้น หรือ “อยู่กับหุ่นยนต์มากจนกลายเป็นหุ่นยนต์” ตามที่ตัวละครบางตัวเรียกเขา แต่ชาร์ลีก็แพ้ตลอด สาเหตุหนึ่งอาจเพราะไม่ได้ทุ่มเทมากพอเหมือนที่สมัยเขาเป็นนักมวย และมีเพียงเบลี่ (อีแวนเจไลน์ ลิลลี่) ลูกสาวของอดีตครูมวยของชาร์ลีที่คอยให้การช่วยเหลือและให้ค่ายมวยของเธอเป็นที่พักพิง

ชาร์ลีอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะแพ้ติดกัน แล้วทางรอดสุดท้ายของชาร์ลีก็มาในรูปของแม็กซ์ (ดาโกต้า โกโย) ลูกชายที่เขาทอดทิ้ง ซึ่งเพิ่งเสียแม่ไปแล้วต้องให้ชาร์ลีมาเซ็นยกแม็กซ์ให้อยู่ในการดูแลของป้าเดบราห์ (โฮป เดวิส) ชาร์ลีสบโอกาสเมื่อรู้ว่าสามีเศรษฐีของเดบราห์ไม่ต้องการให้แม็กซ์ไปขัดความสุขขณะไปเที่ยวอิตาลี่ จึงเรียกเงินหนึ่งแสนเพื่อแลกกับการดูแลแม็กซ์ให้แทนในช่วงฤดูร้อน แม็กซ์รู้ทันและทำให้ความสัมพันธ์ช่วงแรกของทั้งคู่เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมา ปะทะคารมกันเหมือนแลกหมัดแย็บใส่กันตลอด

แม็กซ์เป็นเด็กวัย 11 ที่ฉลาด เจ้าเล่ห์ ดื้อด้าน ปากกล้า ใจสู้ แต่ก็มีหัวใจที่บริสุทธิ์ แม็กซ์มักปากดีใส่พ่อ เถียงไม่ตกฟาก แต่ลึกๆ แล้ว แม็กซ์ก็มองว่าพ่อของเขานั้นเป็นฮีโร่ และโหยหาความรักจากพ่อ แม็กซ์หลงใหลในกีฬาหุ่นยนต์ต่อสู้ จึงบีบบังคับให้ชาร์ลีพาไปดูการแข่งขันด้วย ทำให้แม็กซ์ได้พบกับ“อะตอม” หุ่นยนต์รุ่นเก่าที่ถูกเอามาทิ้งในลานเศษเหล็ก ตอนที่แม็กซ์ไปช่วยชาร์ลีค้นหาอะไหล่ แม็กซ์ถูกชะตาอะตอมในทันทีและรบเร้าที่จะพาอะตอมไปกับเขาด้วย

อะตอมเป็นหุ่นยนต์คู่ซ้อมที่มีโปรแกรมกระจกเงา สามารถก๊อปปี้ท่าทางของผู้ที่บังคับมันได้ทุกอย่าง ซึ่งในสายตาของคนส่วนใหญ่ที่มองว่ามันเป็นหุ่นกระป๋องที่ไม่เหมาะจะขึ้นชก แต่แม็กซ์มองเห็นความพิเศษบางอย่างในหุ่นยนต์ตัวนี้ มันมีเลือดนักสู้ ต้องการโอกาสที่จะได้ขึ้นสังเวียน และได้เป็นมากกว่าสิ่งที่มันถูกสร้างมาให้เป็น แม็กซ์ได้ช่วยมันได้สู้ในสังเวียนมวยใต้ดินจนชนะ

ชาร์ลีเริ่มยอมรับความเป็นหุ่นยนต์นักสู้ของอะตอม พามันออกตระเวนชกหาเงินร่วมกับแม็กซ์ และเขาเองก็เริ่มผูกพันกับแม็กซ์จนยอมทำหน้าที่พ่อในที่สุด แม็กซ์ไม่เพียงทำให้ชาร์ลีกลายเป็นคนที่รับผิดชอบขึ้นเท่านั้น ยังได้ค่อยๆ เติมเลือดนักสู้ให้คืนกลับมาในตัวชาร์ลีอย่างช้าๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

ความโดดเด่นของอะตอมไปเตะตานางร้ายอย่างฟาร่า (โอลกา ฟอนดา) เจ้าของหุ่นยนต์แชมป์นักชกตัวใหญ่ยักษ์ที่ไม่เคยแพ้ใครนามว่า “ซูส” ที่มีทัก มาชิโดะ (คาร์ล ยูล) เป็นผู้สร้างและบังคับหุ่น ฟาร่าพยายามใช้เงินซื้ออะตอมมาจากชาร์ลี แต่แม็กซ์ไม่ยอมขาย แม็กซ์รู้ทันว่าเธอมองออกในความพิเศษจากอะตอม และก็กลัวว่าอะตอมจะพัฒนาจนเอาชนะหุ่นของเธอได้ แล้วแม็กซ์ก็ท้าให้ซูสมาสู้กับอะตอมเพื่อเชิงตำแหน่งแชมป์ต่อหน้าสาธารณชนและการถ่ายทอดทางทีวี จนนำไปสู่ศึกดวลกำปั้นระหว่างยักษ์ใหญ่กับไอ้หนูผู้หาญกล้านัดประวัติศาสตร์

จะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องจากบทหนังของจอห์น แกตินส์ นั้นหยิบยืมมาจากหลายที่และเดาทางได้ตลอด เช่นจาก Kramer vs. Kramer ตรงความสัมพันธ์พ่อลูก จาก Wall-E ตรงที่หุ่นยนต์ที่อยากเป็นมากกว่าสิ่งที่มันถูกสร้างมา และจาก Rocky ตรงเรื่องราวที่คล้ายกับแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ฉบับนักมวย กระนั้นแกตินส์ก็ใส่บทพูดที่แสบๆ คันๆ และไม่เชยเพื่อให้แตกต่าง ที่สำคัญที่สุดก็คือได้ผู้ถ่ายทอดบทพูดที่อยู่หมัดอย่างดาโกต้า โกโย

มีหลายครั้งที่หนังเดาง่าย เป็นสูตรสำเร็จเดิมๆ ได้รับการกอบกู้ด้วยบทบาทการแสดงอันยอดเยี่ยม Real Steel เป็นตัวอย่างของหนังแบบนั้นได้ดีครับ และผู้ที่กอบกู้ในที่นี้ก็คือโกโยที่เหมือนเป็นผู้เติม “ชีวิต” ให้หนังที่ซ้ำซากจนเป็นเหมือนโปรแกรมหุ่นยนต์เรื่องนี้ โกโยถ่ายทอดบทบาทของแม็กซ์ เด็กที่แกร่ง กร้าว มุ่งมั่น มีดวงตาที่เป็นประกายได้อย่างจริงใจ และน่าเอาใจช่วย หนูน้อยคนนี้ออกหมัดทางการแสดงได้จะแจ้งทุกครั้งเมื่อเขาส่งบทพูดหรือเมื่อได้อยู่บนจอ ที่สำคัญยังได้เติมชีวิตให้บทบาทที่แห้งแล้งและไม่น่าสนใจของแจ็คแมนให้มีชีวิตชีวา และเติมความน่าติดตามให้แก่หนังเมื่อเปิดตัวหนูน้อยคนนี้บนจอ โกโยยังได้ช่วยเติมชีวิตให้แก่อะตอมให้หลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีเลือดเนื้อขึ้นมา สายตาที่โกโยมองอะตอมเหมือนมีชีวิต และปฏิสัมพันธ์ที่เหมือนคุยกับสิ่งที่รับรู้เขาได้ ได้ช่วยตอกย้ำถึงความพิเศษของอะตอมว่ามีเหนือกว่าหุ่นยนต์ทุกตัวในหนัง และทำให้น่าเชื่อยิ่งขึ้นว่าหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถมีความต้องการได้

และหนังเรื่องนี้ก็ยังต้องขอบคุณผู้กำกับชอว์น เลวีที่เลือกให้แม็กซ์เป็นเหมือนไม้ตายสำคัญของหนัง เลวีสามารถทำให้คนดูสนใจตัวละครตัวนี้ได้ตั้งแต่ออกฉากแรก และรู้สึกอาทรห่วงใยตามมา ทำให้เมื่อถึงฉากหุ่นยนต์บู้กัน คนดูก็จะยิ่งลุ้นให้อะตอมเอาชนะให้ได้ ลุ้นให้ชาร์ลีพาอะตอมเอาชนะให้ได้ เพราะคนดูอยากเอาใจช่วยแม็กซ์

การออกแบบคิวบู๊ชกมวยของชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ในหนังเรื่องนี้ก็มีส่วนช่วยให้หนังตื่นเต้นและสมจริงขึ้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ดูมวยนัดที่ดุเดือด เพียงแต่ถ่ายทอดผ่านหุ่นยนต์ ซึ่งใช้เทคนิคโมชั่นแคปเชอร์มาใช้สร้างตัวละครตอนที่บู๊กัน แต่น่าผิดหวังสำหรับดนตรีประกอบโดยแดนนี่ เอลฟ์แมนที่ไม่ทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมได้เหมือนเวลาดูถ่ายทอดสดชกมวยหรือหนังนักมวยทั่วไปครับ

คะแนน 7.5/10

เจไดยุทธ

ข้อมูลเบื้องต้น

Real Steel

ชื่อไทย: ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี

บริษัทจัดจำหน่าย: วอลท์ ดิสนี่ย์ (ประเทศไทย)

กำหนดฉายในไทย: 20 ตุลาคม 2554

ผู้กำกับ: ชอว์น เลวี

นักแสดง: ฮิวจ์ แจ็คแมน, ดาโกต้า โกโย, อีแวนเจไลน์ ลิลลี่, โฮป เดวิส, เควิน ดูแรนด์, แอนโธนี แม็คกี้, โอลกา ฟอนดา และ คาร์ล ยูล

เว็บไซต์ทางการ: http://www.steelgetsreal.com/

11 comments

  1. ดูแล้วผมว่ามันคือover the topยุคดิจิตอล (เป็นคนขับสิบล้อ ใช้เวลาอยู่กับลูก และไปสู้ชิงแชมป์งัดข้อเพื่อเงิน)

  2. ผมค่อนข้างเฉยๆมากนะกับหนังเรื่องนี้ นอกจากฉากชกมวยให้ดูมันๆแล้ว ผมว่าดราม่าทุกฉากในเรื่องเป็นอะไรที่เฝือสุดๆ และที่ผมฮาสุดคือฉากที่เด็กออกมาพูดท้าทายแชมเปี้ยนฉากนี้ผมว่ามันดูเฉิ่มมากๆๆๆและไม่ได้ชวนฮึกเหิมอย่างที่มันควรจะเป็น
    สำหรับผมความสนุกของหนังเรื่องนี้อยู่การคอยลุ้นว่าหุ่นยนต์ตัวใหม่ๆมันจะมีไม้ตายหรือลูกเล่นอะไรแปลกๆมาบ้าง (ความรู้สึกเหมือนคอยดูหนังหุ่นยนต์รวมร่างของญี่ปุ่นเลยครับ) โชคดีที่หนังมีฉากแอ็คชั่นเยอะมากเลยไม่เบื่อเท่าไร
    5/10 ครับ (ให้เพราะฉากบู๊) ถ้าพูดแบบเว็บ rottentomatoes ก็ต้องบอกว่าขอโยนมะเขือเน่าให้หนึ่งลูกครับ แต่อย่างน้อยผมว่าก็ยังมีดีกว่าหนังโคตรหุ่นยนต์อย่างtransformer เยอะนะ

  3. เป็นหนังที่ชอบในต้นปีเลยคะ รู้สึกมามีอารมณ์จังหวะการดำเนินเรื่องคล้ายหนังญี่ปุ่น ประเภทสู้เพื่อฝัน หรือ พวกที่คนที่ไม่เอาไหนแต่กลับมีบางอย่างมาเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา อย่างหนัง Water boys หรือ swing girls ซึ่งปกติพวกยุโรปอเมริกาทำหนังแบบนี้ออกมาดีน้อยมาก แต่เรื่องนี้กลับทำออกมาได้ลงตัว จังหวะดราม่า แอ็กชั่น มาถูกจังหวะมาก

    ให้ 9 เต็ม 10 คะ หักคะแนนเรื่องดนตรีประกอบ ฟังแล้วไม่อิน(ชิ!)

  4. ผมเป็นอีกคนที่ไม่อินกะหนังเรื่องนี้ เด็กน้อยโกโย ไม่สามารถทำให้ผมอินกะบทดราม่าในหนังได้เลยสักฉาก

    หรือเพราะบทมันดราม่าไม่พอก็ไม่รู้ บทบู๊ก็ไม่ถูกใจเป็นเหมือนบทบู๊หนังการ์ตูน

    คือต่อให้โดนยำแค่ไหนพระเอกก็ไม่แพ้ ให้5/10 เพราะสามารถทำหุ่นเคลื่อนไหวสมจรีงดี ^_^

  5. ไปดูกับพ่อมา ท่านชอบมาก แต่ผมว่ามันไม่ได้น่าประทับใจ ตราตรึงอะไรมากอย่างที่หลายๆคนเขาอวยกันน่ะ แต่รวมๆก็โอเคในระดับนึงคับ ให้ 6/10

  6. หนังเรื่องนี้เห็นแล้ว รู้สึกถึงอารมณ์ของ Anime “ชูโอมารุ นักสู้คอมพิวเตอร์” มากๆเลยล่ะ แต่จากหุ่นขนาน 1/6 มาลุยกันแบบ 1/1 แต่เนื้อเนื้อสูตรๆไปหน่อยแต่ก็ออกมาได้ โดนมากๆ เอาไปเลย 7/10 เหมือนกัน…!!!

  7. แปลกนะ ลองถาม”ไอ้ตัวเล็ก” ว่าระหว่าง”ทราฟอร์เมอร์ส”กับ”เรียลสตีล”ชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน
    ปรากฏว่าพี่แกตอบเลยครับว่าชอบ”เรียลสตีล”มากกว่าเยอะเลย>>>ส่วนสาเหตุที่คนส่วนใหญ่เทใจให้
    โดยเฉพาะเด็กๆ ก็คือเนื้อหาที่ซาบซึ้งใจแบบลูกผู้ชายระหว่างพ่อกับลูก ที่เริ่มต้นแบบกระท่อนกระแท่น
    ก่อนจะปูเนื้อหาไปสู่ความผูกพันธ์ที่มาพร้อมกับฉากการต่อสู้ที่ดูตื่นตา ซึ่งโดดเด่นกินพื้นที่หน้าจอจนบดบัง ฮิวจ์ แจ็คแมน เสียมิดไปเลย>>>ใครที่ยังไม่ได้ดู ลองหาแผ่นมาดูนะครับ หนังดีเกินความคาดหวังมากพอสมควรครับ โดยเฉพาะสำเนียงดนตรีฝีมือคอมโพสเซอร์สุดเพี้ยนคู่บุญ ผกก.ทิม เบอร์ตัน ที่ชื่อ แดนนี่ เอลป์แมน ที่ครั้งนี้ทำดนตรีได้อย่างมีพลังและสร้างสรรค์เป็นที่สุด ถือว่าเป็นแนวคนตรีที่ทำออกมาไม่แพ้ The Kingdom !!

Leave a Reply to ponponkickCancel reply