ข้ามไปยังเนื้อหา

JEDIYUTH’s Review: Jane Eyre

นิยาย Jane Eyre ของชาร์ล็อต บรอนเต ซึ่งถูกตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1847 ได้ถูกดัดแปลงเป็นทั้งภาพยนตร์ มินิซีรี่ส์ทางทีวี จนถึงละครเวทีมานับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่ฉบับนิยายเองก็ถูกแปลเป็นไทยหลายฉบับมาก ฉบับแปลที่เป็นที่รู้จักดีก็น่าจะเป็น “รักเดียวของเจนจิรา” ที่แปลแบบดัดแปลงโดยนิดา เพราะมีการนำไปสร้างเป็นละครทีวีของบ้านเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน ส่วนฉบับภาพยนตร์ครั้งล่าสุดก็คือปี 1996 ที่มีชาร์ล็อต แกงส์บูร์ก มารับบทเป็นเจน แอร์ ครับ

เหตุที่ถูกนำมาสร้างบ่อยคงเพราะแก่นของเรื่องที่เป็นสากลว่าด้วยความรักสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้หากยึดมั่นในศีลธรรมความดี ซึ่งบรอนเตเขียนได้อย่างงดงาม และสร้างตัวละครเจน แอร์ ให้เป็นผู้หญิงที่เก่ง ฉลาด เด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจ และ เข้มแข็ง ล้ำสมัยกว่านางเอกนิยายหรือผู้หญิงยุคนั้น จนกลายเป็นต้นแบบของตัวละครนางเอกใจเด็ดทั้งหลายแหล่ในยุคหลัง และการที่ถูกดัดแปลงบ่อยนี้ก็ทำให้เรารู้สึกว่าคงไม่มีใครเอามาเล่าใหม่ให้สดกว่าเดิมได้อีกแล้ว แต่ Jane Eyre ฉบับล่าสุดที่กำกับโดยแครี่ ฟูกุนากะ ทำได้ครับ และทำได้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพด้วย

ความน่าสนใจอย่างแรกของหนังก็คือบทหนังของมอยร่า บัฟฟีนี ที่แหกธรรมเนียมของฉบับเก่าๆ ที่นิยมเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ด้วยการเปิดฉากไปที่ค่อนหลังของเรื่องราวเลย ตอนที่เจน แอร์(มีอา วาสิโกวสกา)หนีออกจากคฤหาสน์ธอร์นฟิลด์ แล้วได้รับการช่วยเหลือให้รอดตายจากเซนต์ จอห์น ริเวอร์ส (เจมี่ เบลล์) หมอสอนศาสนาผู้ใจดี จากนั้นก็ค่อยๆ เผยให้เรารู้จักที่มาของเธอผ่านการย้อนความหลังในห้วงคำนึงเป็นระยะๆ ด้วยจังหวะที่เหมาะสม

หนังพาเราย้อนไปตอนที่เจนอายุสิบขวบ(อมีเลีย คลาร์กสัน) ที่เป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับป้าที่ใจร้าย มีลูกพี่ลูกน้องผู้ชายที่เอาเปรียบและรังแกเธอจนเลือดตกยางออก ทำให้เจนกลายเป็นเด็กสู้คนมาตั้งแต่เล็ก ต่อมา ป้าก็ลงโทษเธอด้วยการส่งไปอยู่โรงเรียนกินนอนสำหรับเด็กหญิงที่แม้ทำให้เธอได้รับการศึกษาที่ดี แต่ก็ต้องอดทนอยู่ภายใต้ความเผด็จการ เข้มงวด และการลงโทษอย่างโหดร้ายของครู สิ่งเดียวที่เป็นเสมือนบ่อน้ำกลางทะเลทรายให้เธอ คือมิตรภาพพจากเฮเลน (เฟรยา ปาร์คส์) เพื่อนรักที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอ แต่ครั้นเมื่อเฮเลนป่วยหนักและเสียชีวิตจากไป เจนต้องกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว และมันก็ทำให้เธอได้ตระหนักว่าต่อไปนี้ เธอจะต้องพึ่งตัวเองให้ได้ และต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ชีวิต

เมื่อโตเป็นสาว เจนก็ถูกส่งตัวไปเป็นพี่เลี้ยงและครูให้แก่เด็กในการอุปถัมภ์ของเอ็ดเวิร์ด รอเชสเตอร์ (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) คหบดีหนุ่มใหญ่รูปหล่อที่อารมณ์แปรปรวน เจ้าชู้ และลึกลับ ทั้งคู่ดูจะไม่ค่อยลงรอยกันในทีแรก แต่เจนก็กลายเป็นที่สนใจของคุณรอเชสเตอร์เพราะนิสัยที่กล้าพูด ฉลาด และขบถ ต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยสัมผัสมา คุณรอเชสเตอร์ยิ่งทึ่งในเจนมากขึ้นตอนที่เธอมาขอเงินเพื่อใช้เดินทางไปเยี่ยมป้า ซึ่งเธอยืนกรานที่จะรับเฉพาะค่าจ้างที่เขาติดค้างเธออยู่เท่านั้น เธอเด็ดเดี่ยวและไม่ร้องขอการช่วยเหลือใดๆ จากเขาเลย

เมื่อเวลาผ่านไป เจนเริ่มมีใจให้แก่คุณรอเชสเตอร์ ความสนิทสนมที่มากขึ้นจากการที่ได้ช่วยชีวิตกันก็เปลี่ยนความสัมพันธ์ฉันนายบ่าวให้กลายเป็นคู่รัก แม้ในทีแรกเธอจะยังสับสนอยู่บ้างเพราะไม่แน่ใจว่าคุณรอเชสเตอร์จะจริงจังด้วย แล้วไหนจะเรื่องราวความลับดำมืดในคฤหาสน์อีก แต่เมื่อเธอมั่นใจว่าเขารักเธอเต็มเปี่ยม เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา แล้วตอนนั้นเองที่ความลับในอดีตของคุณรอเชสเตอร์ก็ถูกเปิดเผย ทำให้เจนต้องเลือกความถูกต้องแล้วหนีจากเขามาจนไปพบเซนต์ จอห์น

เซนต์ จอห์นให้ที่พักและหางานสอนหนังสือให้เจนทำ และยังช่วยเจนได้รับมรดกจากลุงอีกคนที่เธอไม่รู้มาก่อนว่ายังมีญาติเหลืออยู่ เจนได้นำเงินมาแบ่งให้เซนต์ จอห์นและน้องสาวอีกสองคนของเขา แล้วผูกสมัครเป็นพี่น้องกัน แต่เซนต์ จอห์นนั้นตกหลุมรักเจน จึงได้ขอเธอแต่งงาน เจนจึงได้รู้ใจตัวเองในที่สุดว่าเธอไม่อาจลืมคุณรอเชสเตอร์ได้ เธอเดินทางกลับไปหาเขาในยามที่กำลังลำบากอยู่พอดี แล้วตัดสินใจช่วยเหลือและอยู่ดูแลเขานับแต่นั้นมา

เรื่องราวดูเหมือนจะโรแมนติกหวานซึ้ง แต่ผู้กำกับก็ยังคงบรรยากาศแบบโกธิคของฉบับนิยายไว้ได้ในทุกอณูด้วยการถ่ายภาพและจัดแสงฉากในคฤหาสน์ให้ออกมาดูน่ากลัวและน่าอึดอัดอยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งเหมือนอยู่ในหนังเรื่อง The Others ขณะที่ฉากภายนอกก็สร้างบรรยากาศให้ดูวังเวง ดิบ และทันสมัยไปพร้อมๆ กันด้วยการใช้กล้องแฮนเฮลด์ในการถ่ายทำ

งานกำกับศิลป์ของหนังก็ถือว่าสุดยอดเช่นกัน เพราะไม่เพียงสร้างบรรยากาศในสอดคล้องกับท้องเรื่อง แต่ยังสะท้อนภาวะจิตใจและอารมณ์ของเจน แอร์ ได้เป็นอย่างดี เช่นตอนที่เธอรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว บรรยากาศรอบกายก็ดูเหมือนอยู่กลางป่ารกร้าง เมื่อเธอสับสน หนังก็ให้เธอไปอยู่กลางสวนที่วกวนเหมือนเขาวงกต หรือยามที่เธอมีความรัก เธอก็อยู่ท่ามกลางพฤกษาที่ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง บรรยากาศเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เข้าใจอารมณ์ของเจน แอร์ มากขึ้น

มีอา วาสิโกวสกา ที่เราเพิ่งรู้จักเธอจาก Alice in Wonderland ของทิม เบอร์ตัน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าติดตาม เธอเป็นเจน แอร์ ในแบบที่เล่นน้อยแต่ได้มาก ขยับเพียงนิด แต่ก็ส่งพลังความรู้สึกออกมาอย่างมหาศาล แม้ตอนที่เธอหันหลังให้คนดู เราก็รับรู้ถึงอารมณ์ขมขื่น สับสน ปวดร้าว ต่างๆ นาๆ ได้ ราวกับมีรัศมีที่บ่งบอกความรู้สึกเปล่งออกมารอบตัวเธอ

ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ที่เราเพิ่งประทับใจเขาจากบทบาทแม็กนีโต ใน X-Men: First Class ก็สวมบทเป็นคุณรอเชสเตอร์ได้อย่างมีเสน่ห์ ลึกลับ และน่ากลัวไปพร้อมๆ กัน ปีนี้เป็นปีของฟาสเบนเดอร์โดยแท้ เพราะมีหนังที่มีบทบาทอันยอดเยี่ยมของเขาออกมาติดกันหลายเรื่อง บทคาร์ล จุง ใน A Dangerous Method และบทผู้ชายติดเซ็กซ์ใน Shame ที่ก็ได้รับการคาดการณ์ว่าจะทำให้เขาได้เข้าชิงออสการ์ด้วยครับ

นักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ช่วยให้หนังมีสีสันขึ้น ทั้งจูดี้ เดนช์ ในบทคุณนายแฟร์แฟ็กซ์ แม่บ้านผู้ใจดีก็ช่วยให้บรรยากาศตึงเครียดของหนังผ่อนคลายลงหลายครั้ง เจมี่ เบลล์ก็รับบทเป็นเซนต์ จอห์น ที่รักผู้หญิงข้างเดียวได้อย่างน่าเอ็นดู

เดิมที ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่จัดจำหน่าย Jane Eyre ในบ้านเราวางแผนที่จะฉายหนังในเครือเอเพ็กซ์ แต่ภายหลังเปลี่ยนใจฉายเพียงรอบพิเศษให้นักวิจารณ์ชมแล้วออกหนังเป็นดีวีดีให้ผู้ชมดูกันที่บ้านแทน จึงนับว่าน่าเสียดายที่นักดูหนังจะอดชม Jane Eyre ในฉบับทันสมัยนี้ในโรงภาพยนตร์ครับ

คะแนน 8/10

เจไดยุทธ

ข้อมูลของหนัง

ชื่อไทย: เจน แอร์ หัวใจรัก นิรันดร

ผู้กำกับ: แครี่ ฟูกุนากะ

ผู้เขียนบท: มอยร่า บัฟฟีนี

นักแสดง: มีอา วาสิโกวสกา, ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์, เจมี่ เบลล์ และจูดี้ เดนช์

เว็บไซต์ทางการ: http://focusfeatures.com/jane_eyre

1 ความเห็น »

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.