ความคึกคักของงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์มักเริ่มต้นด้วยรางวัลลูกโลกทองคำ ซึ่งแม้ว่ารางวัลนี้อาจไม่ใช่รางวัลที่มีอิทธิพลมากนักต่อออสการ์ที่มักถือว่าเป็นรางวัลใหญ่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่ก็ถือว่าเป็นการช่วยดันให้หนังเรื่องที่ได้รางวัลเป็นที่สนใจมากขึ้นครับ ซึ่งในปีนี้ “Oppenheimer” กวาดรางวัลใหญ่สุดมาถึง 5 รางวัล จากการเข้าชิง 8 รางวัลครับ ตามมาด้วย “Barbie”, “Poor Things”, “The Holdovers” และ “Anatomy of a Fall” ที่ได้มาเรื่องละ 2 รางวัล และ Killers of the Flower Moon” กับ “The Boy and the Heron” ได้มาเรื่องละรางวัลครับ ส่วน “Maestro”, “Past Lives” และ “May December” ไม่ได้เลยสักรางวัลครับ

ส่วนรางวัลสายทีวีนั้น “Succession” กวาดไป 4 รางวัลใหญ่ครับ ตามด้วย “The Bear” กับ “Beef” เรื่องละ 2 รางวัลครับ

สายภาพยนตร์นั้น การที่ “Anatomy of a Fall” ได้รางวัลบทยอดเยี่ยม และ “The Boy and the Heron” ที่ได้รางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม น่าจะถือเป็นการพลิกความคาดหมายระดับหนึ่งครับ ดูผลรางวัลได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

(เรื่องที่ได้รางวัลทำตัวหนาไว้)

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทชีวิต

“Oppenheimer” (Universal Pictures)
“Killers of the Flower Moon” (Apple Original Films/Paramount Pictures)
“Maestro” (Netflix)
“Past Lives” (A24)
“The Zone of Interest” (A24)
“Anatomy of a Fall” (Neon)

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทเพลงหรือตลก

“Barbie” (Warner Bros.)
“Poor Things” (Searchlight Pictures)
“American Fiction” (MGM)
“The Holdovers” (Focus Features)
“May December” (Netflix)
“Air” (Amazon MGM Studios)

ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

แบรดลี คูเปอร์ – “Maestro”
เกรตา เกอร์วิก – “Barbie”
ยอร์กอส ลานธิมอส – “Poor Things”
คริสโตเฟอร์ โนแลน – “Oppenheimer”
มาร์ติน สกอร์เซซี – “Killers of the Flower Moon”
เซลิน ซง – “Past Lives”

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

“Barbie” – เกรตา เกอร์วิก, โนอาห์ บามบาค
“Poor Things” – โทนี แมคนามารา
“Oppenheimer” – คริสโตเฟอร์ โนแลน
“Killers of the Flower Moon” – เอริก ร็อธ, มาร์ติน สกอร์เซซี
“Past Lives” – เซลิน ซง
“Anatomy of a Fall” – ฌูสตีน ทริเยต์ , อาร์ทูร์ อาราริ

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ประเภทชีวิต

แบรดลี คูเปอร์ – “Maestro”
คิลเลียน เมอร์ฟี – “Oppenheimer”
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ – “Killers of the Flower Moon”
โคลแมน โดมินโก – “Rustin”
แอนดรูว์ สก็อต – “All of Us Strangers”
แบรี คีโอแกน – “Saltburn”

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ประเภทชีวิต

ลิลี่ แกลดสโตน – “Killers of the Flower Moon”
แครี มัลลิแกน – “Maestro”
ซานดรา ฮึลเลอร์ – “Anatomy of a Fall”
แอนเน็ต เบนนิง – “Nyad”
เกรตา ลี – “Past Lives”
เคลี สแปนี – “Priscilla”

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง

แฟนตาเซีย บาร์ริโน – “The Color Purple”
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ – “No Hard Feelings”
นาตาลี พอร์ตแมน – “May December”
อัลมา ปอยส์ตี – “Fallen Leaves”
มาร์โกต์ ร็อบบี้ – “Barbie”
เอ็มมา สโตน – “Poor Things”

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง

นิโคลัส เคจ – “Dream Scenario”
ทิโมธี ชาลาเมต์ – “Wonka”
แมต เดมอน – “Air”
พอล จิอาแมตตี – “The Holdovers”
วาคีน ฟีนิกซ์ – “Beau Is Afraid”
เจฟฟรีย์ ไรต์ – “American Fiction”

นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในสาขาภาพยนตร์

วิลเลม เดโฟ – “Poor Things”
โรเบิร์ต เดอนีโร – “Killers of the Flower Moon”
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ – “Oppenheimer”
ไรอัน กอสลิง – “Barbie”
ชาร์ลส์ เมลตัน – “May December”
มาร์ค รัฟฟาโล – “Poor Things”

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในสาขาภาพยนตร์

เอมิลี บลันต์ – “Oppenheimer”
ดาเนลลา บรูกส์ – “The Color Purple”
โจดี้ ฟอสเตอร์ – “Nyad”
จูลีแอนน์ มัวร์ – “May December”
โรซามันด์ ไพค์ – “Saltburn”
ดาไวน์ จอย แรนดอล์ฟ – “The Holdovers”

ซีรี่ส์ยอดเยี่ยมประเภทชีวิต

“1923” (Paramount+)
“The Crown” (Netflix)
“The Diplomat” (Netflix)
“The Last of Us” (HBO)
“The Morning Show” (Apple TV+)
“Succession” (HBO)

ซีรี่ส์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง

“The Bear” (FX)
“Ted Lasso” (Apple TV+)
“Abbott Elementary” (ABC)
“Jury Duty” (Amazon Freevee)
“Only Murders in the Building” (Hulu)
“Barry” (HBO)

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ประเภทชีวิต

เปโดร ปาสคัล – “The Last of Us”
เคียแรน คัลกิน – “Succession”
เจเรมี สตรอง – “Succession”
ไบรอัน ค็อกซ์ – “Succession”
แกรี่ โอลด์แมน – “Slow Horses”
โดมินิก เวสต์ – “The Crown”

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ประเภทชีวิต

เฮเลน เมียร์เรน – “1923”
เบลลา แรมซีย์ – “The Last of Us”
เคอรี รัสเซล – “The Diplomat”
ซาร่าห์ สนูก – “Succession”
อิเมลดา สตอนตัน – “The Crown”
เอ็มมา สโตน – “The Curse”

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ประเภทตลกหรือเพลง

อาโย เอเดบิรี– “The Bear”
นาตาชา ลีโอนน์ – “Poker Face”
ควินตา บรันสัน – “Abbott Elementary”
เรเชล โบรนาแฮน – “The Marvelous Mrs. Maisel”
เซเลนา โกเมซ – “Only Murders in the Building”
แอล แฟนนิง – “The Great”

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ประเภทชีวิต

บิล แฮเดอร์ – “Barry”
สตีฟ มาร์ติน – “Only Murders in the Building”
มาร์ติน ชอร์ต – “Only Murders in the Building”
เจสัน ซีเกล – “Shrinking”
เจสัน ซูไดคีส – “Ted Lasso”
เจเรมี อัลเลน ไวต์ – “The Bear”

นักแสดงสมทบชายสาขาโทรทัศน์

บิลลี ครูดัป – “The Morning Show”
แมทธิว แมคเฟเดียน – “Succession”
เจมส์ มาร์สเดน – “Jury Duty”
อีบอน มอสส์-บาครัค – “The Bear”
อลัน รัค – “Succession”
อเล็กซานเดอร์ สการ์สกอร์ – “Succession”

นักแสดงสมทบหญิงสาขาโทรทัศน์

เอลิซาเบธ เดบิคกี – “The Crown”
แอ็บบี้ เอลเลียต – “The Bear”
คริสตินา ริชชี่ – “Yellowjackets”
เจ. สมิธ-คาเมรอน – “Succession”
เมอริล สตรีป – “Only Murders in the Building”
ฮันนาห์ แวดดิงแฮม – “Ted Lasso”

ซีรี่ส์ขนาดสั้น ซีรี่ส์ชนิดจบในตอน หรือภาพยนตร์สำหรับทีวียอดเยี่ยม

“Beef”
“Lessons in Chemistry”
“Daisy Jones & the Six”
“All the Light We Cannot See”
“Fellow Travelers”
“Fargo”

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ขนาดสั้น, ซีรี่ส์จบในตอน หรือภาพยนตร์ทางทีวี

แมต โมเมอร์ – “Fellow Travelers”
แซม แคลฟิน – “Daisy Jones & the Six”
จอน แฮมม์ – “Fargo”
วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน – “White House Plumbers”
เดวิด โอเยโลโว – “Lawmen: Bass Reeves”
สตีเวน ยอน – “Beef”

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรี่ส์ขนาดสั้น, ซีรี่ส์จบในตอน หรือภาพยนตร์ทางทีวี

ไรลี่ย์ คีโอห์ – “Daisy Jones & the Six”
บรี ลาร์สัน – “Lessons in Chemistry”
เอลิซาเบธ โอลเซ่น – “Love and Death”
จูโน เทมเปิล – “Fargo”
เรเชล ไวซ์ – “Dead Ringers”
อาลี หว่อง – “Beef”

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ลุดวิก เยอรันส์ซอน – “Oppenheimer”
เจอร์กิน เฟนดริกซ์ – “Poor Things”
ร็อบบี้ โรเบิร์ตสัน – “Killers of the Flower Moon”
ไมคา ลีวาย – “The Zone of Interest”
แดเนียล เพมเบอร์ตัน – “Spider-Man: Across the Spider-Verse”
โจ ฮิซาอิชิ – “The Boy and the Heron”

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ

“Anatomy of a Fall” (Neon) – ฝรั่งเศส
“Fallen Leaves” (Mubi) – ฟินแลนด์
“Io Capitano” (01 Distribution) – อิตาลี
“Past Lives” (A24) – สหรัฐ
“Society of the Snow” (Netflix) – สเปน
“The Zone of Interest” (A24) – สหราชอาณาจักร

เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

“Barbie” – “What Was I Made For?” โดย บิลลี เอลลิช และ ฟินนีส
“Barbie” – “Dance the Night” โดย แคโรไลน์ ไอเลน, ดูอา ลิป้า, มาร์ค รอนสัน และแอนดรูว์ ไวแอตต์
“She Came to Me” – “Addicted to Romance” โดย บรูซ สปริงทีน และ แพตติ สเปเชียลฟา
“The Super Mario Bros. Movie” – “Peaches” โดย แจ็ค แบล็ค, แอรอน ฮอร์วาธ, ไมเคิล เจเลนิก, เอริก ออสมอนด์ และ จอห์น สไปเกอร์
“Barbie” – “I’m Just Ken” โดย มาร์ค รอนสัน และ แอนดรูว์ ไวแอ็ตต์
“Rustin” – “Road to Freedom” โดย เลนนี คราวิตซ์

ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม

“The Boy and the Heron” (GKids)
“Elemental” (Disney)
“Spider-Man: Across the Spider-Verse” (Sony Pictures)
“The Super Mario Bros. Movie” (Universal Pictures)
“Suzume” (Toho Co.)
“Wish” (Disney)

การแสดงเดี่ยวไมโครโฟรยอดเยี่ยม

ริกกี้ เกอร์เวียส – “Ricky Gervais: Armageddon”
เทรเวอร์ โนอาห์ – “Trevor Noah: Where Was I”
คริส ร็อก – “Chris Rock: Selective Outrage”
เอมี ชูเมอร์ – “Amy Schumer: Emergency Contact”
ซาราห์ ซิลเวอร์แมน – “Sarah Silverman: Someone You Love”
แวนดา ไซค์ – “Wanda Sykes: I’m an Entertainer”

รางวัลความสำเร็จยอดเยี่ยมด้านภาพยนตร์และรายได้

“Barbie” (Warner Bros.)
“Guardians of the Galaxy Vol. 3” (Disney)
“John Wick: Chapter 4” (Lionsgate Films)
“Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One” (Paramount Pictures)
“Oppenheimer” (Universal Pictures)
“Spider-Man: Across the Spider-Verse” (Sony Pictures)
“The Super Mario Bros. Movie” (Universal Pictures)
“Taylor Swift: The Eras Tour” (AMC Theatres)

ที่มา: HFPA