DC เปิดเผย 10 รายชื่อหนังและซีรี่ส์ที่เตรียมสร้าง และจะออกฉายเรื่องแรกในปี 2025

image via DC Comics

เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน ประธานและประธานกรรมการผู้บริหารของดีซีสตูดิโอที่วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี แต่งตั้งให้เข้ามาคุมการผลิตเนื้อหาหนังและซีรี่ส์ซูเปอร์ฮีโร่ดีซี ได้ประกาศรายชื่อหนังและซีรี่ส์ชุดใหม่ที่ได้วางแผนสร้างภายใต้การบริหารและวางวิสัยทัศน์ของพวกเขาครับ

ทั้งหมดมีด้วยกัน 10 เรื่อง ซึ่งกันน์ตั้งชื่อว่า “Chapter 1: Gods and Monsters” แปลเป็นไทยได้ว่า “บทที่ 1: เทพเจ้ากับอสุรกาย” ซึ่งอาจมีการประกาศเพิ่มเติมออกมาอีกหลังจากนี้ นี่เป็นแค่รายชื่อชุดแรกครับ

กันน์บอกด้วยว่า เกือบทุกเรื่องจะเกิดขึ้นในจักรวาลเดียวกัน และถือเป็นเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกัน “เรารับปากว่า ทุกอย่างตั้งแต่โครงการแรกนับแต่นี้จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”

ในแง่ของการคัดเลือกนักแสดง กันน์บอกว่าบางเรื่องจะเลือกนักแสดงใหม่ และบางเรื่องจะใช้นักแสดงเดิม เพราะทั้งหมดนี้เป็นมัลติเวิร์ส หรือพหุจักรวาล โครงการไหนที่ถูกสร้างเป็นอนิเมชั่นอาจถูกเอามาสร้างเป็นฉบับคนแสดงได้ และจะคัดเลือกนักแสดงโดยคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย

ทั้ง 10 โครงการมีดังนี้ครับ

Creature Commandos: ซีรี่ส์อนิเมชั่นที่จะ “นำเข้าสู่หนังคนแสดงและกลับมาเป็นอนิเมชั่น เป็นการเล่าเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และมหาศาลโดยไม่ต้องทุ่มเงินให้ตอนละ 50 ล้านเหรียญ” กันน์บอก และเปิดเผยด้วยว่าเขาได้เป็นคนเขียนบทและเขียนบทเสร็จแล้ว เล่าเรื่องราวของหน่วยทหารยอดมนุษย์ที่มีมนุษย์เป็นหัวหน้าหน่วย และมีมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ แฟรงเกนสไตน์ และกอร์กอน เป็นสมาชิก กันน์บอกด้วยว่าเจ้าวีเซลจากหนัง “The Suicide Squad” จะสมทบในซีรี่ส์ชุดนี้ด้วย ทีมซูเปอร์ฮีโร่นอกคอกนี้อยู่ในหนังสือการ์ตูน “Weird War Tales” เล่มที่ 98 ตีพิมพ์พฤศจิกายน 1980 สร้างสรรค์โดย เจ.เอ็ม. ดีแมตเทียส กับ แพท บรอเดริก

Waller: ซีรี่ส์ฉบับคนแสดงทาง HBO Max ภาคแยก “Peacemaker” ที่จะนำแสดงโดยวิโอลา เดวีส “เราจะใช้นักแสดงชุดเดียวกัน และเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจาก Peacemaker” ซึ่งกันน์จะสร้างออกมาขั้น Peacemaker ซีซั่น 2 ระหว่างที่เขาทำหนัง Superman โดยมีคริสตัล เฮนรี่ (“Watchmen”) เขียนบทร่วมกับเจเรมี คาร์เวอร์ (“Doom Patrol”)

Superman Legacy: จะเป็นหนังเปิดจักรวาลภาพยนตร์ดีซี (DCU) ซาฟรานบอก ซึ่งโครงการหนังได้มีการประกาศออกไปก่อนหน้านี้แล้ว กันน์รับหน้าที่เขียนบท ยังไม่มีการวางตัวผู้กำกับ แต่ซานฟรานบอกว่ากำลังกระทุ้งให้กันน์กำกับ “จะไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิด หนังจะเล่าเรื่องราวที่ซูเปอร์แมนพยายามรักษาสมดุลความเป็นมนุษย์ดาวคริปโตกับการได้รับเลี้ยงดูมาแบบมนุษย์ เขาเป็นจุดรวมของความจริง ความยุติธรรม และวิถีแห่งอเมริกัน เขาเป็นคนใจดีในโลกที่คิดว่าความใจดีเป็นของล้าสมัย” มีกำหนดฉายในสหรัฐ 11 กรกฎาคม 2025

Lanterns: ซีรี่ส์คนแสดงทาง HBO Max “วิสัยทัศน์ของเราต่อซีรี่ส์นี้คือ True Detective มีเหตุการณ์หลักๆ อยู่บนโลก เรามีกรีนแลนเทิร์นคนโปรดของเราสองคน คือ ฮาล จอร์แดน กับ จอห์น สจ๊วร์ต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวหลักที่จะเล่าข้ามผ่านหนังและซีรี่ส์ทางทีวี นี่เป็นซีรี่ส์ที่สำคัญอย่างมากกับเรา” ซาฟรานบอก และย้ำด้วยว่าจะแตกต่างจากซีรี่ส์ที่เกร็ก เบอร์แลนติ กำลังพัฒนา ซึ่งอย่างหลังนี้จะมีความเป็นลิเกอวกาศ

The Authority: จะเป็นภาพยนตร์ที่ “ใช้ตัวละครเจ๋งๆ ของ WildStorm (บริษัทหนังสือการ์ตูนในเครือดีซี) ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน และเราจะเอามาใช้ร่วมในจักรวาลภาพยนตร์ของดีซี” กันน์บอก เขารักหนังสือการ์ตูนชุดนี้เพราะมีส่วนผสมของทั้งฮีโร่ขบถที่ชอบลงมือจัดการอะไรเอง แม้ว่ารัฐบาลจะแนะนำอีกอย่าง เป็นเรื่องราวของทีมซูเปอร์ฮีโร่ที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตสมาชิกของสตอร์มวอตช์ ซึ่งเป็นกองกำลังต่อต้านการรุกรานของต่างดาว ได้ถูกทำลายลง

Paradise Lost: ซีรี่ส์ฉบับคนแสดงทาง HBO Max ซึ่งซานฟรานบอกว่า “จะเป็นเรื่องราวแนว Game of Thrones ในดินแดนเทอมีสคีร่า บ้านของเหล่านักรบแอมะซอนและบ้านเกิดของวันเดอร์วูแมน นี่จะเป็นเรื่องราวอันตื่นเต้นเบื้องหลังสังคมที่มีผู้หญิงทั้งหมด” โดยเรื่องราวจะเกิดขึ้นก่อนที่ไดอาน่าหรือวันเดอร์วูแมนเกิด

The Brave and the Bold: จะเป็นหนังแบทแมนในฉบับที่อยู่คนละโลกกับที่แมต รีฟส์ ได้สร้างไว้ “หนังจะนำเสนอเรื่องราวของแบทแมนกับลูกชายของเขา เดเมียน เวย์น ผู้เป็นโรบิน ที่มีความเป็นเด็กเปรตตัวเล็กๆ” กันน์บอก “เขาถูกเลี้ยงดูให้มามือสังการและฆาตกร และเป็นลูกชายแท้ๆ ของแบทแมนที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีในช่วง 8-10 ปีแรกของลูก มันเป็นเรื่องราวแปลกๆ ว่าด้วยความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกชาย ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนชุด Batman ของแกรนต์ มอร์ริสัน”

Booster Gold: ซีรี่ส์ทาง HBO Max เล่าเรื่องราวของไอ้ขี้แพ้จากโลกอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีอนาคตเพื่อแสร้งมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในยุคปัจจุบัน กันน์อธิบายว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีภาวะรู้สึกสงสัยในความสามารถตัวเอง (imposter syndrome)

Supergirl: Woman of Tomorrow: หนังดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนปี 2022 ของทอม คิง “ในเรื่องราวของเรา เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างซูเปอร์แมนที่ถูกส่งมายังโลกตอนที่เป็นทารกน้อยและได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่ให้ความรัก ซึ่งแตกต่างจากซูเปอร์เกิร์ลที่เติบโตมาอย่างยากลำบากบนดาวคริปตัน แล้วต้องเห็นทุกคนรอบตัวเธอต้องตายลงไปและถูกฆ่าในช่วง 14 ปีแรกของชีวิตเธอ จากนั้นก็มายังโลกตอนที่เป็นเด็กสาวแล้ว เธอจะมีความฮาร์ดคอร์กว่า ไม่เชิงเป็น Supergirl ที่เราเคยเห็นกัน” กันน์บอก

Swamp Thing: ภาพยนตร์ที่จะพาไปสืบเรื่องราวต้นกำเนิดอันดำมืดของอสุรกายแห่งหนองน้ำ โทนของหนังจะแตกต่างจาก Superman และ Batman and Robin ตัวละครจะมีความดาร์คกว่าตัวละครกระแสหลักของดีซีแล้วต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน

ที่มา: Deadline

Leave a Reply