มาร์ค เว็บบ์ ขอกำกับ The Amazing Spider-Man ถึงแค่ภาค 3 พูดถึงเนื้อเรื่องภาค 2 แฮรี่ และตัวร้าย
มีนาคม 23, 2014 3 ความเห็น
เรารู้แล้วว่าโซนี่ พิคเจอร์ส จะสร้าง The Amazing Spider-Man ถึง 4 ภาค (ในตอนนี้ และยังไม่รวมภาคแยก) โดยวางกำหนดฉายภาค 3 ไว้ปี 2016 และภาค 4 ไว้ปี 2018 แต่สำหรับผู้กำกับมาร์ค เว็บบ์ ที่กำกับมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เขาดูเหมือนจะพอใจแค่ 3 ภาคเท่านั้นครับ
เมื่อไม่นานนี้ เว็บบ์ได้ให้สัมภาษณ์แก่ The Daily Beast ครับว่า การได้กำกับ The Amazing Spider-Man ทั้งไตรภาคก็ถือว่าเต็มอิ่มแล้ว “ผมอยากเกี่ยวข้องในฐานะที่ปรึกษา ผมได้คุยกับพวกเขาเรื่องนี้แล้ว แต่ในแง่ของการกำกับ มันจะเป็นการสละตำแหน่งของผม ผมสนุกอย่างมากในการได้สร้างมัน แต่หลังจากภาคสามแล้ว มันจะถึงเวลาที่จะไปหาอย่างอื่นกำกับแทน”
เว็บบ์เล่าด้วยครับว่าเขาอาจจะรับหน้าที่ที่ปรึกษาของภาคแยก Venom และ Sinister Six ด้วย ซึ่งค่ายหนังกำลังวางแผนการสร้างอยู่
นอกจากนี้แล้ว คำถามสัมภาษณ์ยังถามถึงเนื้อเรื่องของ The Amazing Spider-Man 2 ที่กำลังจะเข้าฉาย ในส่วนที่เกี่ยวกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ด้วยครับ และเว็บบ์ก็ขยายความจากที่เรารู้กันให้ฟังว่า “เขารู้ว่าเขาต้องเป็นไอ้แมงมุม และเขาก็ใคร่ครวญถึงการเสียสละที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ต้องทำ ความสัมพันธ์ของเขากับเกวนคือกลไกขับเคลื่อนหลักของหนัง แต่เฉพาะในส่วนปฏิสัมพันธ์ของตัวละครเท่านั้น เราต้องหาตัวร้ายและอุปสรรคที่ใหญ่กว่าที่เขาเคยพบ และเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับออสคอร์ปว่าเป็นตัวอันตรายกว่าอะไรที่เขาเคยคาดคิด มันเหมือนกับโยนวิบากกรรมบ้าๆ ใส่หน้าพระเอกของเรา แล้วดูว่ามันจะเปลี่ยนเขาไปยังไง และเขาจะพัฒนาไปยังไง”
วิบากกรรมบ้าๆ ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือต้องเจอกับทั้งอิเลคโตร และไรโน แต่เว็บบ์ก็ย้ำอีกครั้งว่าตัวร้ายหลักของเรื่องยังเป็นอิเลคโตร “อิเลคโตรเป็นตัวร้ายหลักจริงๆ ของหนัง ไรโนปรากฏตัวแค่ช่วงสั้นๆ”
แล้วทำไมเว็บบ์เลือกอิเลคโตรเป็นตัวร้าย “อิเลคโตรมีศักยภาพมโหฬารในแง่การสร้างภาพทางภาพยนตร์ ท่าทางของเขาดูเท่ แล้วเราจะหยุดหมอนี่ได้ยังไง ผมคิดว่าเป็นคู่ปรับที่คู่ควรสำหรับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลเสมอในหนังสือการ์ตูน เกี่ยวกับว่าเราจะแปลงมันมาเป็นภาพในหนังยังไง แต่ผมคิดว่ามันมีศักยภาพมหาศาลในแง่การเจาะลึกตัวละครของแม็กซ์ ดิลลอน ก่อนที่เขาจะกลายเป็นอิเลคโตร และทุกข์อันใหญ่หลวง เราจะรู้สึกเห็นใจหมอนี่ซึ่งถูกผลัดเข้าไปในเงามืด และไม่มีใครรับฟังเขา เขาหายหน้าและรู้สึกอับอาย แล้วเปลี่ยนแปลงผ่านการกลายร่างสู่ด้านที่มืดกว่า ทำลายล้างยิ่งกว่า ความรู้สึกอับอายและไม่มีค่าเป็นต้นเหตุอย่างเป็นสกาลของสองสิ่ง นั่นก็คือพฤติกรรมทำลายล้าง และพฤติกรรมของวีรบุรุษ พระเอกกับผู้ร้ายมีหลายอย่างที่เหมือนกัน ปีเตอร์เป็นต้นเหตุให้ลุงของเขาตาย และเขาถูกทอดทิ้งจากพ่อแม่ แต่เขานำมันไปในทางที่บวกและสร้างสรรค์กว่า”
ในแง่ความสัมพันธ์ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ กับแฮรี่ ออสบอร์น เว็บบ์เล่าด้วยว่าแตกต่างจากฉบับของแซม ไรมี่ ยังไง “ผมอยากให้เขาฉลาดเทียบเท่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เจมส์ ฟรังโก้เป็นคนที่ฉลาด แต่แฮรี่ ออสบอร์นของเขาออกจะเป็นคนทึ่มนิดๆ แต่แฮรี่ ออสบอร์น คนนี้มีไหวพริบเฉียบคมมาก แฮรี่กับปีเตอร์ผูกพันกันเพราะต่างสูญเสียพ่อเหมือนกัน และมีปมเรื่องถูกทิ้ง ในหนังของไรมี่ แฮรี่คอยพยายามปกป้องปีเตอร์จากคนที่มารังแก แต่ในหนังเรื่องนี้ พวกเขาเป็นเหมือนพี่น้องกัน”
แล้วเฟลิซิตี้ โจนส์ ล่ะ เธอแสดงเป็นตัวร้ายด้วยไหม “เธอเล่นเป็นคนที่ทำงานในออสคอร์ป … ผมบอกได้แค่นั้น”
ในข่าวที่เกี่ยวข้องกัน MTV News ได้เผยภาพนิ่งใหม่ของหนังครับ ที่เป็นภาพใหม่ของอิเลคโตร และไรโน คนละภาพด้วย คลิกชมได้ที่ด้านใน
