มีกระแสข่าวว่ามาร์เวลพิจารณาจะชวนโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ กับ สการ์เลต โจแฮนสัน กลับมา

จบจาก “Avengers: Endgame” มาร์เวลประสบปัญหาอย่างหนักที่ทำให้ไม่เพียงคุณภาพของงานมีมาตรฐานต่ำลง และยังทำให้จำนวนผู้ชมลดลงด้วย หนทางแก้อย่างหนึ่งที่ทีมผู้บริหารของมาร์เวลกำลังพิจารณาก็คือ พา โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ กับ สการ์เลต โจแฮนสัน นักแสดงผู้รับบทเป็นไอร์ออนแมนกับแบล็ควิโดว์กลับคืนสู่จักรวาลภาพยนตร์แห่งนี้ครับ แม้ว่าตัวละครของทั้งคู่จะถูกฆ่าออกจากจักรวาลไปแล้ว
แต่การทำเช่นนั้นก็มาพร้อมกับต้นทุนที่สูง ค่าตัวของทั้งคู่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะดาวนีย์ที่เฉพาะหนัง “Iron Man 3” ก็มีค่าตัวมากถึง 25 ล้านเหรียญ ยังไม่รวมเปอร์เซ็นต์ที่ต้องจ่ายให้จากรายได้หนังด้วย ดิสนีย์มีปัญหาเรื่องการใช้งบสูงแล้วรายได้กลับคืนมาไม่เท่าทุนอยู่แล้ว หนทางนี้จึงเป็นหนทางที่ผู้บริหารของมาร์เวลยังไม่ตกลงปลงใจครับ ตามที่วาไรตี้รายงาน
หลังจากจบจาก “Avengers: Endgame” นั้น ก่อเกิดดิสนี่ย์พลัสขึ้นมาในช่วงที่โควิด-19 ระบาด มาร์เวลได้รับคำสั่งให้ผลิตซีรี่ส์ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันออกมามากมาย ไม่เพียงทำให้แฟนหนังเริ่มล้ากับจำนวนเนื้อหาที่ออกมามากมาย แต่ยังชวนสับสนไปกับเนื้อหาที่โยงถึงกันเต็มไปหมด
การที่ต้องผลิตงานเพิ่มมากขึ้นยังทำให้คุณภาพงานลดลงด้วย โดยเฉพาะงานเทคนิคพิเศษที่เป็นที่โจษจัน มีรายงานว่า หนัง “Ant-Man and the Wasp: Quantumania” มีอย่างน้อยสิบช็อตที่หลุดโฟกัสและทำออกมากันแบบจวนตัวเพราะตารางงานในขั้นตอนหลังการถ่ายทำถูกลดเหลือสี่เดือนครึ่ง
ความที่ได้เวลาทำงานน้อยไม่เพียงทำให้คุณภาพแย่ แต่ทำให้คุณภาพชีวิตของคนทำงานแย่ลงด้วย เพราะต้องอดตาหลับขับตานอนเพื่อเร่งงานให้ทัน จนในที่สุดทำให้ทีมเทคนิคพิเศษได้ประกาศรวมตัวกันตั้งเป็นสหภาพในที่สุดเมื่อกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ทีมงานเบื้องหลังส่วนอื่นๆ ของวงการทำตาม
ปัญหายังรวมถึงช่วงเตรียมการก่อนถ่ายทำด้วย เพราะการเร่งงานก็ทำให้บทหนังออกมาแบบครึ่งๆ กลางๆ ครับ
ในรายงานบอกด้วยว่ามาร์เวลเล็งจะทุ่มทุนให้ “X-Men” กับ “Fantastic Four” ที่เพิ่งกลับมาอยู่ในมือพวกเขา เพราะมีศักยภาพสูงที่จะช่วย “พยุง” แบรนด์เอาไว้ได้ หลังจากที่นักเขียนฮอลลีวูดได้หยุดการประท้วงแล้ว ก็ได้เริ่มมีการเรียกนักเขียนบทมาคุยว่าจะช่วยพา “X-Men” เข้าสู่จักรวาลมาร์เวลได้ยังไง
ที่มา: Variety