Skip to content

“เพื่อน(ไม่)สนิท”: ความเห็นจากนักดูหนัง

image via GDH559

จีดีเอช559 มักมีหนังไทยเข้าฉายปีละ 2-3 เรื่อง ซึ่งในปีนี้นั้นก็มี “เพื่อน(ไม่)สนิท” เป็นหนังส่งท้ายของปีนี้ครับ เป็นผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่ อัตตา เหมวดี ที่ได้บาซ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ กับ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ รับหน้าที่ควบคุมงานสร้าง หนังเข้าฉายไปแล้วเมื่อ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าการที่ต้องชนกับหนังไทยที่กระแสดีกว่าอย่าง “ธี่หยด” และหนังไทยที่ยังกระแสดีไม่มีตกอย่าง “สัปเหร่อ” ทำให้หนังเปิดตัววันแรกไปเพียง 1.35 ล้านบาท ที่ถือเป็นรายได้เปิดตัววันแรกในลำดับที่ติดสามอันดับสุดท้ายของค่าย

หนังเล่าเรื่องราวก้าวข้ามพ้นวัยของเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่อยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่เลือกที่จะส่งหนังสั้นเพื่อให้ตัวเองได้เข้าเรียนแทนที่จะเข้าสอบเอ็นทรานซ์ แล้วได้พบว่าประสบการณ์ในการทำหนังนั้นมีเรื่องราวที่พลิกผันและหักมุมมากมายครับ เพราะหนุ่มคนนี้เลือกทำหนังสั้นว่าด้วยเพื่อนที่ไม่ได้สนิทคนหนึ่งที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร แต่ดันเที่ยวบอกใครๆ ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันอย่างมาก

หนังมี อันโทนี่ บุยเซอเรท์ (“เธอกับฉันกับฉัน”), จั๊มพ์ พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ (ซีรี่ส์ “วุ่นรักนักจิ้น”), ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์ (“เธอกับฉันกับฉัน”), ฟลุ๊ค ธนกร ติยานนท์ และ ฟ้อนด์ ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา รับบทนำ

ตอนที่ตัวอย่างหนังถูกปล่อยออกมา หนังโดนกระแสดราม่าอยู่พอสมควร แต่ความเห็นจากผู้ชมหลายคนบอกว่าอย่าตัดสินแค่จากตัวอย่างหนัง เพราะมีอะไรซ่อนอยู่ให้เซอร์ไพรส์กว่านั้น ความชื่นชมอยู่ที่เรื่องราวมิตรภาพของวัยรุ่นที่ทำออกมาได้น่าประทับใจ บ้างมองว่าเป็นจดหมายรักของการทำหนัง ขณะที่ความเห็นอีกส่วนก็มองว่าหนังไม่สามารถทำให้อินได้กับเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพของเพื่อนวัยมัธยมและหรือการเป็นจดหมายว่าด้วยการทำหนังครับ ส่วนในแง่นักแสดงนั้น ความเห็นส่วนใหญ่ชื่นชมไปที่การแสดงของพิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ ที่เล่นเป็นโจ ครับ

หนึ่งท่านที่ออกปากชมพิสิฐพล ก็คืออ.ประวิทย์ แต่งอักษร ซึ่งเขียนถึงในความเห็นหลังชมหนังว่า “ในแง่การแสดง แต่ละคนก็สวมบทกันน่ารักน่าชัง ขาดบ้างเกินบ้างก็ยกประโยชน์ได้ แต่ที่โดดเด่นกว่าเพื่อนก็คือพิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐที่เล่นเป็นโจ ผู้ซึ่งน่าเชื่อว่าสมัยเรียนหนังสือ พวกเราน่าจะเคยเจอคนแบบนี้ ทั้งในความเป็นคนป๊อปปูลาร์และเฟรนด์ลี่ย์มากๆจนน่ารำคาญ นี่เป็นแคแร็คเตอร์ที่ถูกสร้างและพัฒนาได้ชวนติดตามและนั่นรวมถึงคนทำหนังก็หาบทสรุปให้กับตัวละครนี้ได้อย่างจับใจ และพิสิฐพลก็ถ่ายทอดบุคลิกนี้ได้เปี่ยมด้วยเลือดเนื้อและความมีชีวิตชีวา”

ด้านล่างนี้คือความเห็นจากนักวิจารณ์ ผู้คนในวงการ และนักดูหนังครับ (บางความเห็นยาวกว่าที่นำมาลงไว้ สามารถอ่านฉบับเต็มได้โดยคลิกที่ลิงก์ครับ)

“…ส่วนตัวอยากจะเรียกว่ามันเป็นหนังแนวกระโปรงบานขาสั้นที่อย่างน้อย ชั่วโมงแรกของหนังก็ดูร่าเริงสนุกสนาน เบิกบานสดใส และไม่ว่าปมเรื่องจะพูดประเด็นคอขาดบาดตายยังไง ก็ไม่เคยเกินเลยไปกว่าที่ความทีเล่นทีจริงของหนังจะสามารถแก้ไขหรือเยียวยา ซึ่งบางช่วงมันก็ดูเถิดเทิงหรือแฟนเซอร์วิสไปซักหน่อย แต่ฉากที่คนทำหนังหยอกล้อกับสถานการณ์ที่ตัวเอกของเรื่องกำลังจะถูกเปิดโปงพฤติกรรมลวงโลก ก็เป็นห้วงเวลาที่ดูคล่องแคล่วลื่นไหลมากๆ…” – อ.ประวิทย์ แต่งอักษร

จัดว่า ‘นั่ลลัก’ ดีมีรสนิยม ติดตามชมหนังไทยมานานเพิ่งจะได้เห็นหนังโรงที่เล่าเบื้องหลังการทำหนัง(สั้น)อย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็เรื่องนี้ ที่ชวนให้นึกถึงหนังเยาวชนคนคลั่งหนังสร้างทำหนังอย่าง Who’s Camus Anyway? (2005) ของ Mitsuo Yanagimachi, Son of Rambow (2007) ของ Garth Jennings, Super 8 (2011) ของ J.J. Abrams, Me and Earl and the Dying Girl (2015) ของ Alfonso Gomez-Rejon, The Wolfpack (2015) ของ Crystal Moselle หรือ The Fabelmans (2022) ของ Steven Spielberg ซึ่ง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ก็นำเสนอภาพความวายป่วงบ้าคลั่งกว่าจะได้ออกมาเป็นหนังสักเรื่องได้อย่างน่ารักน่าชังดี มีทั้งส่วนที่เป็น ‘ทีเล่น’ และ ‘ทีจริง’ ซึ่งก็พยายามดิ่งลึกไปถึงอารมณ์ความรู้สึกด้านมืดของตัวละครที่ค่อย ๆ เผยพรายออกมาในช่วงครึ่งท้าย จนหมดสิ้นข้อสงสัยอีกต่อไปว่าทำไมหนังจึงได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยส่งไปลุ้นรางวัลออสการ์สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมในปีนี้…” – กัลปพฤกษ์

…เพื่อน(ไม่)สนิท คิดมาเยอะ และขยี้แล้วขยี้เล่า มิตรภาพแบบวัยรุ่นเมืองอาจจะขมกว่ามิตรภาพซื่อๆแบบแก๊งไทบ้าน แต่ก็น่าจะทำให้วัยรุ่นซาบซึ้งกัน ไปดูกันเยอะๆ ความหลากหลายมาแล้ว” – คงเดช จาตุรันต์รัศมี

เล่าเรื่องมิตรภาพวัยเด็กได้ซาบซึ้งอย่างน่าชื่นชม บทภาพยนตร์มีความแข็งแรงด้วยวิธีการเล่าที่แพรวพราว คนทำสามารถสร้างคาแรคเตอร์ที่หลากหลายและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ หากใครต้องการชมภาพยนตร์ที่มีคุณภาพในเวลานี้ เพื่อน(ไม่)สนิท ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม” – ฐาปณี หลูสุวรรณ

ถ้า Suckseed คือหนังวัยรุ่นยุค2011 #เพื่อนไม่สนิท นี่คือหนังที่จะกลายเป็นตัวแทนแห่งวัยรุ่นของยุคสมัยนี้ ใครที่เดาว่านี่คือหนังธรรมดา ผิดจ้าตย.หลอกเราไปอีกทาง มันดีแบบอยากซื้อบัตรให้ไปดู ครึ่งหลังเซอร์ไพรส์สุด พูดถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวัยอย่าง emphatyสนุกเติบโตงดงาม” – แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวC

แด่มิตรภาพ ความฝัน และภาพยนตร์ ผลงานที่งดงาม บาดลึกที่สุดจาก GDH ที่สะกิดให้เราหันกลับไปสำรวจความฝันและความสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่ยังไม่เห็นคุณค่าของมัน ตั้งตัวไม่ถูกว่าจะโดนหนังซัดจนแหลก “ยิ้มทั้งน้ำตา”” – จดอ – JUSTดูIT.

หนังทำงานกับเรามากๆ ในหลายๆจังหวะ ทั้งช่วงตลกที่จังหวะโดนเส้น และช่วงดราม่าที่ทำให้เรานึกถึงใครสักคนนึงที่ผ่านมาให้ชีวิต” – ออม | A-tis T. Asanachinda

ชอบ #เพื่อนไม่สนิท มากกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยแม้ตอนท้ายจะย้วยไปหน่อย เคมีนักแสดงดีมาก ตัวละครมีเสน่ห์มาก ชอบแก๊งห้องโสตมากๆ รู้สึกถึงความเบียวและความรักในภาพยนตร์ Love Live Cinema Bro!” – @ssummersnoww

เป็นหนัง gdh ที่ชอบที่สุดนับตั้งแต่ฉลาดเกมส์โกงเลย🥹 ไม่น่าเชื่อว่าตัวหนังมีอะไรให้เล่ากว่าที่คิดเยอะมาก ไม่ใช่หนังวัยรุ่นแค่พูดเรื่องมิตรภาพกับการทำหนังสั้นอย่างที่เราเห็นใน trailer แต่ลึกซึ้งกว่านั้น ชอบ cast นักแสดงทุกคนเลย ดูเข้าขากัน…” – hiiarbonlang

เซอร์ไพรส์มากในทางที่ดีมาก ๆ มันไม่ใช่แค่หนังวัยรุ่นตามฝัน มิตรภาพฤดูร้อน ไม่ใช่ Dear Evan Hansen, It’s a summer film ที่ทุกคนกลัว หนังรู้จักตัวเองดีพอว่าจะพูดอะไรถึงวัยรุ่นในขวบวัยของการค้นหาตัวตน เราทุกคนคือเรื่องเล่าออริจินัลที่ส่องสว่างในแบบของเราเสมอ” – Horrorclub

ชอบน้องจั๊มท์ที่เล่นเป็นโจใน #เพื่อนไม่สนิท มาก เล่นดีมีเสน่ห์แบบที่เข้าใจว่าเพื่อนจะรักอ่ะ อยากให้เขามาจีบเรา” – โจ้ ทิชากร ภูเขาทอง

“…ส่วนคุณโจ ต้องแยกมาอีกหนึ่งย่อหน้า แม่งต้องจัมป์เท่านั้น เด็กหล่อ ม ปลายยังไงให้เพื่อนไม่หมั่น 55 ก็คงต้องเป็นแบบโจ คืออยู่ได้กับทุกแก๊ง จะกิจกรรม จะดนตรี จะเลว จะเนิร์ด เบลนอินได้หมด เหมือนคาปิบาร่าในระบบนิเวศ ประโยคที่เลี่ยนๆ พอโจพูดแล้วเชื่อ มันยิ้มโลกสว่าง และจริงใจ เหมือนจะเล่นไดนามิคเดียวทั้งเรื่อง แต่คลี่ดูรายละเอียดแล้วไม่ง่ายนะ เอาจริงๆ ถ้าแคสต์ผิด จะพังเลย จัมป์คือคีย์แมน…” – ธนชาติ ศิริภัทราชัย

หนังมีพาร์ทที่สนุกและตลก แต่ท่าไม้ตายของเรื่องคือพาร์ทดราม่าน้ำตาแตก เล่าเรื่องมิตรภาพในหลายมิติที่เราคนดูคงรีเลทได้แตกต่างกันไป แบบที่ดูจบแล้วต้องคิดถึงเพื่อนสักคนแน่ๆ แต่ส่วนที่ชอบที่สุดคือหนังปลอบประโลมวัย(กำลังเป็น)ผู้ใหญ่อย่างเราได้ดีมมากๆเลย” – @mfrthms

แม้การประกาศเป็นตัวแทนชิงออสการ์ก่อนเข้าฉายทำให้เกิดข้อกังขาต่างๆมากมาย แต่เมื่อไปดูแล้วก็พบว่าหนังก็ควรค่าและสมควรแก่การเป็นตัวแทนจริงๆ ในแง่ของความลงตัวทางด้านภาพยนตร์ หนังนำเสนอความสัมพันธ์และนิยามของคำว่าเพื่อนได้งดงาม และมีแง่มุมให้กลับมาคิด” – ผู้ชายคนนั้นจากหนังเรื่องนี้

…เป็นหนังที่เล่ามิตรภาพของ “เพื่อน” ได้อย่างลึกซึ้ง และละเอียดอ่อน หนังเล่าเฉดสีเทาของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ…” – จับผิดหนัง

หนึ่งในหนังที่ห้ามตัดสินจากตัวอย่างเป็นอันขาด หนังจริงมีเซอร์ไพรส์ ดูแล้วเต็มไปด้วยความคิดถึง คิดถึงกิจกรรมที่ทำในโรงเรียน คิดถึงเพื่อน คิดถึงชีวิตวัยเด็ก น้องๆ นักแสดงเล่นเก่งมาก ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง” – รีวิวเรื่อยเปื่อย

ชอบเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่ คาดเดาไม่ได้ ทำให้สนุกจับจุดไม่ถูก รอดูว่าจะส่งอะไรมาบ้างนะ ชอบการเติบโตของความคิดและความเชื่อมโยงของเพื่อนที่ไม่สนิทของเรา มันต้องมีผ่านมาบ้างในชีวิต น้องๆ นักแสดงส่งบท ส่งพลังกันดีทุกคน มุกตลกแทรกได้ถูกจังหวะ” – อินกะหนัง

ก่อนหน้าอาจจะกังขาเรื่องที่หนัง ได้รับเลือกเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยเข้าชิง Oscars ครั้งที่ 96 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม จนกระทั่งได้เข้าไปดูด้วยตัวเองเท่านั้นแหละ Long Live Cinema! หนังสรรเสริญมิตรภาพยนตร์” – @MTmovie

1 ในหนังไทยที่ดีที่สุดของปีนี้ พรั่งพรูไปด้วยความเป็นเพื่อนและภาพยนตร์ ขยี้อารมณ์คนดูระดับเอาตาย ร้องระดับ 10 ไม่พอ หนังไปถึงระดับ 100 ให้เราขอบตาอุ่นกันไปข้างนึง และการแสดงของทีมนักแสดงระดับโกยรางวัล หนังจบอยากจะออกจากโรงและสวมกอดเพื่อนที่ขอบคุณให้เราเป็นเพื่อนกัน” – Movies Can Talk

“บอกเล่าเรื่องของตัวละครที่เดินทางเพื่อเข้าความหมายของคำว่าเพื่อน ผูกเรื่องได้กลมดี มีหลากแง่มุมเรื่องเพื่อนให้ซึมซับและอินได้ ทั้งมีเรื่องทีมทำหนังสั้น ใส่มุกหนังที่พาฮาลั่น อ้าวแล้วอ้าวอีก จนถึงฉากที่พาน้ำตาซึม งานดีจนอยากดูซ้ำ” – @PatSonic

เป็นหนังที่ทำให้กราฟความชอบของเราขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ตลอดทั้งเรื่องจนลุ้นตัวเกร็งว่าสุดท้ายตอนจบมันจะดีไหม และเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นหนังที่ทำงานแต่คนละช่วงวัยต่างกันพอสมควรขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะรีเลทได้มากหรือน้อย โดยรวมถือว่าโอเคและนักแสดงเคมีดีมาก น่ารักมากทุก ๆ คนเลย” – Closing Credits

เรื่องของทีมทำหนังใน #เพื่อนไม่สนิท เป็นส่วนประกอบที่ให้รสชาติกลาง ๆ แต่ความสัมพันธ์ของตัวละครทุกคนในเรื่อง เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้หลายคนได้หวนนึกถึงชีวิตวัยมัธยม โดยเฉพาะการนึกถึงกลุ่มเพื่อนในช่วงเวลานั้น แต่กระนั้นหนังก็เน้นตรงนี้จนเป็นโทนเดียว ด้วยสไตล์ของ GDH มันก็บันเทิงอยู่” – Kittipat Boyd

ชอบมากกกกก มากๆ อะเป็นหนัง guilty pleasure ที่เราชอบที่สุดของปีนี้เลยมััง ดูแล้วมีบางช่วงคิดถึง It’s a Summer Film! แต่มีเสน่ห์คนละแบบ เป็นหนังที่ทำให้เรากลับมาคิดถึงเพื่อน และขอบคุณทุกความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับจากเพื่อน เบียวนิดแต่มันได้หว่ะ อยากให้ไปดูกัน” – @LifeAddicts

…ในท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นหนังที่เราชอบมาก เราว่าเราเหมือนได้ทำความรู้จักกับตัวละครในเรื่องขนานกันไปกับที่พวกมันเริ่มเข้าใจกันเอง ว่าทุกคนมีมิติของตัวเองเสมอ มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกรับรู้จักเขาจากมุมไหน และภาพยนตร์สำหรับตัวละครเหล่านี้ ก็คือการ ลด-เพิ่ม-ตัด-ทอน ความทรงจำของพวกเขา ว่าจะเลือกจำ เลือกให้ทุกคนรู้จักกับโจ ในมุมไหนบ้าง” – @Cornettogod

“...สรุปชอบเลย ร้องไห้เลย ครีเชบ้าง ไม่สมู้ดบ้าง แต่ไม่มีทางเกลียดหนังเรื่องนี้เลย…” – @Siravitch_Warmz

…หนังก่อร่างบทมาได้งดงามมาก งานสร้างไม่มีอะไรให้ต้องติ จุดหักมุมสำคัญหรือการลงไปในเลือดเนื้อตัวละคร ซึ่งทำใด้สูงเกินมาตรฐานหนังสตูดิโอ ความเบียวเล็กๆของหนังที่ให้ตัวละครโอเวอร์แอคติ้งกันนิดๆ (ชอบน้องผู้หญิงห้องโสตมากๆ ในเลเวลแกงค์เชียร์หลีดเดอร์จากเมย์ไหนฯ)
อย่างไรก็ตามจุดที่ทำให้เราดีดตัวออกจากหนังคืออันที่จริงเราจะมีระยะกับการสร้างตัวละครในหนังของจีดีเอช…
” – วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา

(7/10) ต้องยอมรับว่า GDH ยังวิ่งวนอยู่กับสูตรเดิม แต่ครั้งนี้ถือว่า ‘ผิดคาด’ เพราะ ‘ตัวละคร’ ถูกคิดมาอย่างรอบคอบ ทำให้ทุกการตัดสินใจ ความเห็นแก่ตัว หรือความเทามัน Judge ไม่ลง ไม่ได้ซื้อบนแพสชั่นการทำหนัง แอบดอทคอม แต่พูดถึง ‘จังหวะชีวิต’ และ ‘ความตาย’ ได้ชวนคิดดี” – @BenjatimButton

จะบอกว่าเป็นหนังเนิร์ดของคนรักหนัง และรักเพื่อน โดยไม่สนใจว่าคุณจะสนิทกับเขาหรือไม่ หนังช่วงแรกจะสดใส ตลกโปกฮาภาษาเด็กมัธยม แต่ครึ่งหลังจะดราม่าค่อนข้างซีเรียส ทั้งเรื่องโจและหนังสั้นของพวกเขา ค่อนข้างชอบเลยทีเดียว โดยเฉพาะการตัดต่อ เรียงเรื่องได้สมบูรณ์มากๆเลย” – Sittipon

ถ้ามองแบบแยกเป็นฉาก ๆ จะเต็มไปด้วยส่วนประกอบที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของการเนิร์ดหนัง (ซึ่งก็ยังออกสายแมส) กับแง่มุมมิตรภาพในระดับต่าง ๆ แต่พอมารวมกันแล้วมันขาดความกลมของเรื่องราว ขาดความต่อเนื่องจนผลักเราออกจากหนังทันทีที่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ตัวละครไม่น่าเชื่อถือมากพอ” – @Evilviolettabel

คือหนังที่อยากจะช่วยเชียร์มาก แต่พอหงุดหงิดกับตัวละครพระเอกสุดพลัง เลยพาไม่อินกับหนังไปด้วย ช่วงท้ายๆก็ยังขัดใจอยู่ดี เลยแอบเสียดาย ทั้งๆที่ตัวละครแวดล้อมปมดีมาก ครึ่งหลังยิ่งยกระดับหนังไปอีกสเต็ปเลย ด้วยความซับซ้อนของเส้นเรื่องเลย” – Gossip Gun

คงต้องยอมรับว่าแก่แล้ว เพราะหนังเล่นทุกกระบวนท่าเพื่อให้เราซื้อมิตรภาพของเพื่อน เป็นกระบวนท่าที่สร้างสรรค์ สวยงาม แต่จนถึงตอนจบ ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรขึ้นมาในใจผมเลย แม้ตัวหนังจะสมบูรณ์ในทุกมิติก็ตาม” – ตีลังกาดูหนัง

“…มีแค่ซีนที่ค่อนไปทางท้ายเรื่องที่ทำงานกับใจเราอยู่บ้าง แต่ก็ยังพูดได้เต็มปากว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ทางเรา และเสน่ห์ของน้อง ๆ นักแสดงก็กอบกู้มันไว้ไม่ได้…” – @Noranartta

Leave a Reply

%d bloggers like this: