ผู้กำกับนฤบดี เวชกรรม เล่าว่าจุดกำเนิดหนัง “14 อีกครั้ง” มาจากเจอเสก โลโซ ตอนติดไฟแดง

สำหรับนักทำหนังบางคนแล้ว ไอเดียของการเกิดหนังสักเรื่องก็มาจากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวในวันธรรมดาๆ ที่ไม่คาดคิดครับ ซึ่ง “14 อีกครั้ง” (I Love You Two Thousand) ของผู้กำกับนฤบดี เวชกรรม ก็มาจากเหตุการณ์ไปรับลูกชายวัย 14 ที่โรงเรียน และเจอเสก โลโซ เจ้าของเพลงที่มีชื่อเดียวกับชื่อหนัง
“เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขับรถไปรับลูกชายอายุ 14 ที่โรงเรียนเขานั่งอยู่ข้างๆ ตอนติดไฟแดงอยู่หน้าโรงเรียน อยู่ๆ ก็มีคนนึงเดินมา เหมือนเขาจะข้ามถนน รถเราอาจจะเลยล้ำที่จอดไปนิดนึง เขาก็เลยเดินมาแปะที่กระจกข้าง เราก็ตกใจเขาทำอะไร เราก็มอง เขาก็มองลูกชาย แล้วก็ยืนยิ้มอยู่แบบนั้น เราก็อ๋อ.. เราคงไปขวางทางเขา แต่เขาก็ไม่ว่าเขาก็ยืนยิ้มอยู่แบบนั้น แล้วเอามือมาแปะกระจกรถด้วย เฮ้ย…พอดูชัดๆ เขาคือ “เสก โลโซ” เราก็ยิ้ม เขาก็ยิ้มแล้วก็เดินอ้อมหน้ารถเราไป วันนั้นมันเป็นสัญญาณว่า ไอ้นี่ 14 (ชี้ไปที่ลูก) นั่นก็เสกโลโซ เพลง 14 มันเหมือนคำว่า 14 อีกครั้งมันผุดขึ้นมาในหัวเลย นั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้” ผู้กำกับเป้ นฤบดี เล่าในจดหมายข่าวที่ทางสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งมา
“แล้วก็อีกความรู้สึกนึง ปีที่แล้วเราอยู่กับลูก เรากำลังรู้สึกว่าเด็กอายุ 14 พฤติกรรมมันมีความอะไรที่วัยอย่างเราลืมไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกล้าคิดกล้าถามกล้าตัดสินใจ ไม่ค่อยสนใจว่าผลลัพธ์อจะเป็นอย่างไร เราเรียกสิ่งนี้ว่ามันเป็นความกล้าหาญนี่หว่า กล้าตัดสินใจทำอะไรรวดเร็ว มันเหมือนพวกเราที่ตอนนี้เวลาเราจะทำอะไรแต่ละทีเริ่มคิดเยอะ บางทีก็ไม่กล้าตัดสินใจ เราย้อนกลับไปดูตอนเราอายุ 14 เราทำอะไรอยู่ ในขณะที่เรามองดูลูก”
เมื่อได้ต้นคิดสำหรับเรื่องราวในหนังแล้ว ผู้กำกับก็ให้ทีมเขียนบทมาช่วยคิดเรื่องครับ “ทีมเขียนบทก็เริ่มหาข้อมูล เลยได้ประเด็นว่าเป็นช่วงวัยที่กำลังจะโต กำลังจะมีตัวตนของโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นการที่เขาจะไปไหน เขาจะไม่สนหรอกว่าสิ่งนี้ที่เกิดขึ้นมันจะทำลายตัวเขา หรือทำให้ใครว่าเขา แต่ถ้ากูคิดจะทำ ทำเลย ซึ่งถ้าเราเอามาเล่าเป็นหนัง มันสะท้อนความเป็นผู้ใหญ่ได้ ผู้ใหญ่เคยอาจจะผ่าน 14 มาแล้ว แต่ด้วยทุกวันนี้การใช้ชีวิตที่ผ่านมา ความเจ็บ ความทุกข์ที่ผ่านมา เราอาจจะกลัวมากขึ้น ถ้าเรามองย้อนกลับไปตอน 14 สิ เราอาจจะได้ความกล้าหาญกลับคืนมาก็ได้ ก็เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา มันจุดประกายออกมาเป็นเรื่อง 14 อีกครั้ง”
ทีมเขียนบทที่ว่านี้ก็คือทีมเดียวกับ “Low Season สุขสันต์วันโสด” ผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับ “ทุกคนมีความตื่นเต้นที่พอได้ยินคำว่า 14 อีกครั้ง เราก็เลยให้กลับไปทำการบ้านมาว่า เราเจออะไรมาบ้างตอนอายุ 14 ทุกคนก็เอาข้อมูลมารวมกัน เออมันก็น่าตื่นแต้นดี มันเป็นช่วงวัยที่สนุกจริงๆ”
เมื่อหนังจะพาย้อนไปตอนอายุ 14 ผู้กำกับได้เลือกปี 2000 หรือ 2546 เป็นปีในหนัง และบอกเหตุผลที่เลือกปีดังกล่าวนี้ด้วยครับ
“อีกโจทย์นึงก็คือแล้วถ้าเราจะเล่าหนังของวัย 14 ในยุคไหน ยุคที่มีเสน่ห์ที่สุดสำหรับพวกเราก็คือ ปี 2546 ก็คือปี 2000 ขึ้นมาจนถึงปี 2003 รู้สึกว่ายุคนั้นมันเป็นยุคที่มีเสน่ห์ พวกเราทำอะไรมันยังไม่มีสมาร์ทโฟน มันยังไม่ก้มหน้ากัน เวลาที่เราจะเจอจะคุยอะไรต้องนัดกัน แล้วมีสังคมที่เราต้องไปเที่ยวด้วยกัน อยากรู้อะไรก็ออกเดินทาง ออกไปผจญภัย เวลาจะเจอแฟน หรือเวลาเราจะนัดเจอมันไม่ต้องรู้ตลอดว่าเขาจะทำอะไรจะมาหรือยัง มันเป็นการรอคอย ทุกคนมีจังหวะที่ต้องรอ ต้องนัดกันเพื่อมาเจอ ยุคนั้นมันเป็นยุคที่มันยังแอนะล็อกอยู่ ทำอะไรมันก็ต้องทำไปทีละขั้นละตอน ยังไม่รวดเร็วเหมือนตอนนี้ เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าเรากลับมาเล่ายุคนี้ดีกว่า”
“14 อีกครั้ง” เล่าเรื่องราวของคนสองวัย วัยแรกคือวัยหนุ่มสาวว่าด้วยความรักที่ค้างคาของคู่ที่ตีมึนใส่กันและยังไม่ได้ลงเอยกันสักที รับบทโดย ณัฏฐ์ กิจจริต และ ณัฎฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ส่วนอีกวัยคือวัย 14 เรื่องราวของเด็กมัธยมต้นที่แอบรักกัน ไม่กล้าบอกรักกัน และทำให้เพื่อนๆ ในแก๊งต้องลุ้นหนักมาก รับบทโดย ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล, โยชิ-สุริยาวิชญ์ ถนอมชัยสนิท, เล็ก-ธีรเวช สุภาวงษ์, วีเจ-นพรุจ ตันธนวิกรัย, แฟร์รี่-กิรณา พิพิธยากร และ โมเน่ต์ BNK48-ภาริตา ริเริ่มกุล มีกำหนดเข้าฉาย 12 ตุลาคมนี้ครับ
ชมตัวอย่างของหนังอีกครั้งได้ที่ด้านล่างนี้