Skip to content

“No More Bets” หนังอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำเงินกว่า 500 ล้านเหรียญในจีน

image via Dirty Monkey Films

No More Bets” หนังอาชญากรรมว่าด้วยเรื่องราวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังทำเงินกระหึ่มในจีนครับ โดยออกฉายครั้งแรกตั้งแต่สิงหาคมที่ผ่านมา และทำเงินอันดับหนึ่งบนตารางหนังทำเงินปีนี้ของจีนสามสัปดาห์ซ้อน รวมรายได้เฉพาะการฉายในบ้านไปกว่า 547 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการฉาย 31 วันครับ ถือเป็นหนังทำเงินมากที่สุดอันดับสองของจีนในปีนี้ ตามรายงานของวาไรตี้

หนังอ้างว่าสร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ที่คนจีนจำนวนมากถูกลักพาตัวและพาไปยังโรงงานและบ่อนคาสิโนในเมียร์นมากับกัมพูชา เล่าเรื่องราวของหนุ่มโปรแกรมเมอร์ชาวจีนกับนางแบบสาวที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วถูกลักพาตัวเพื่อพาไปคุมขังให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกเงินจากเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่พวกเขาไม่รู้จักอีกที หนังเป็นผลงานกำกับของ เซินเอา (Shen Ao) จาก “My Dear Liar” นำแสดงโดย จางอี้ชิง (“Ex-Files 2: The Backup Strikes Back”) หรือเลย์ สมาชิกวงบอยแบนด์ EXO, จีน่า จิน (ซีรี่ส์ “Legend of Nine Tails Fox”), เหม่ยหยง (นักแสดงเจ้าของรางวัลหมีเงินของเทศกาลหนังเบอร์ลินจาก “So Long, My Son”) และ อีริก หวัง

ความน่าสนใจอย่างมากของหนังเรื่องนี้ คล้ายกับตอนที่ “Lost in Thailand” หรือ “แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์” ออกฉายในปี 2012 แล้วทำให้นักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาเที่ยวในไทย แต่ครั้งนี้ตรงกันข้ามครับ มีรายงานว่าหนังได้สร้างผลกระทบทางวัฒนธรรมต่อคนจีนในประเทศอย่างมากจนทำให้ชาวจีนมากยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่อาเซียนนี้เพราะกลัวจะถูกลักพาตัวไปเข้าในเมียร์นมาและกัมพูชาเพื่อให้ไปทำงานผิดกฎหมาย

ในรายงานของ AFP ที่ไปสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวในกรุงเทพนั้น บางคนบอกว่าถูกพ่อแม่และญาติพี่น้องเตือนไม่ให้มาเที่ยว แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าความกังวลเรื่องนี้เกินจริงไปหน่อย “เพื่อนของฉันทุกคนบอกว่า เธอไปลองดูก่อน ถ้าโอเคแล้วเราจะตามไป” พยาบาลชาวจีนวัย 44 เล่า

ตั้งแต่เริ่มปี 2023 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาในไทยแล้วราว 2.3 ล้านคน ซึ่งห่างกันมากจากปี 2019 ที่มียอดนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์มากถึง 11 ล้านคน ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ได้บอกในรายงานของ AFP ว่า กระแสเรื่องที่ไม่ดีทางออนไลน์นั้นมีผลให้ยอดตัวเลขลดลง “เหตุการณ์ไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็ตกเป็นเป้า” นายกสมาคมฯ กล่าว

หลังจากที่ทำเงินอย่างมากในจีนไปแล้ว ก็ได้รับการซื้อจากผู้จัดจำหน่ายของฮ่องกงกับสหราชอาณาจักรไปฉายต่อด้วยครับ ส่วนในกัมพูชานั้นได้มีการสั่งแบนหนังเรื่องนี้ เนื่องจากสร้างภาพด้านลบให้ประเทศครับ ตามที่ Wierdkaya รายงาน

ในบ้านเรา ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการเข้าฉายของหนัง ชมตัวอย่างหนังได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

Leave a Reply

%d bloggers like this: