“Mission: Impossible 7” และ “Indiana Jones 5” อาจขาดทุนถึง 100 ล้านเหรียญ

ปีนี้อาจไม่ใช่เป็นปีที่ดีของหนังแฟรนไชส์หลายเรื่อง ซึ่งในจำนวนนั้นคือ “Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One” ของทอม ครูส กับ พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และ “Indiana Jones and the Dial of Destiny” ของดิสนี่ย์ ที่แฮริสัน ฟอร์ด นำแสดงครับ เพราะตามรายงานจากวาไรตี้บอกว่าทั้งคู่อาจต้องขาดทุนถึงราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากรายได้จากการฉายโรง
“Mission: Impossible 7” นั้น ทำเงินทั่วโลกไปแล้วกว่า 523 ล้านเหรียญ จากการฉาย 5 สัปดาห์ ส่วน “Indiana Jones 5” ทำเงินทั่วโลกไป 375 ล้านเหรียญ จากการฉาย 6 สัปดาห์ ทั้งสองเรื่องนั้นถือได้ว่าทำเงินมากกว่า 300 ล้านเหรียญ ที่ตามรายงานบอกว่าเป็นทุนในการสร้างหนัง แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้ได้ทุนคืนเมื่อรวมการหักเปอร์เซ็นต์ให้โรงหนังและรวมกับค่าการตลาดที่น่าจะใช้เรื่องละราว 100 ล้านเหรียญครับ อย่างไรก็ดี ทั้งคู่ก็มีแนวโน้มที่จะได้ทุนคืนจากการฉายในรูปแบบดิจิตัลและสตรีมมิ่ง รวมถึงพวกบลูเรย์กับดีวีดี เพียงแต่ต้องรอไปอีกในระยะยาว
จากบทความวิเคราะห์ว่าเหตุที่หนังทำเงินไม่เปรี้ยงปร้างก็เพราะการที่ต้องเลื่อนฉายข้ามปี อันเป็นผลพวงของโควิด-19 ที่ทำให้โรงหนังต้องปิดตัวชั่วคราว เมื่อได้มาฉายในปีนี้ก็ทำให้หนังขาดความสดใหม่ ทั้งยังเป็นต้นเหตุให้งบงานสร้างบานปลายจากมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ระหว่างการถ่ายทำเพื่อป้องกันโรคและไม่ให้ต้องหยุดถ่ายทำด้วยครับ อีกสาเหตุก็คือผู้ชมติดการดูหนังอยู่ที่บ้านมากขึ้นกว่ายุคก่อนโควิด
แต่แม้สองเรื่องนี้จะต้องเผชิญกับรายได้ที่ถดถอย หนังใหม่อีกสองเรื่องกลับทำเงินระเบิด ทั้ง “Oppenheimer” และ “Barbie” ที่ฉายต่อจากทั้งสองเรื่อง โดยออกฉายในวันที่ 21 กรกฎาคมพร้อมกัน และความนิยมของสองเรื่องนี้ก็กลายเป็นคู่แข่งทางรายได้ที่สำคัญจนตอกประตูปิดฝาโลงให้รายได้ของทั้งหนังอินดี้และหนังพยัคห์ร้ายสายลับครับ
ที่มา: Variety