“Indiana Jones and the Dial of Destiny” อาจขาดทุนในระดับเดียวกับ “John Carter”

แม้ว่าในปีนี้ ดิสนีย์มี “Guardians of the Galaxy Vol. 3” ของมาร์เวล เป็นหนังทำเงินมากถึง 843.3 ล้านเหรียญ แต่ก็ไม่ทุกเรื่องที่ทำเงินระดับนี้ และอาจขาดทุนหนักด้วย เป็นต้นว่า “Indiana Jones and the Dial of Destiny” ครับ
จนถึงตอนนี้ หนังทำเงินทั่วโลกไปเพียง 307 ล้านเหรียญ แต่ด้วยทุนสร้าง 300 ล้านเหรียญ ยังไม่รวมงบการตลาดที่น่าจะถึง 100 ล้านเหรียญ และการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้โรงหนังอีก 50/50 หนังต้องทำเงินถึง 800 ล้านเหรียญ ถึงจะเท่าทุน ซึ่งมีโอกาสน้อยมากในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีหนังอย่าง “Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One”, “Oppenheimer” และ “Barbie” เข้ามาครองโรงหนัง
หนังได้รับการประเมินว่าจะทำเงินไม่ถึง 400 ล้านเหรียญ เมื่อสิ้นโปรแกรม นั่นเท่ากับหนังอาจขาดทุนระดับเดียวกับ “John Carter” ที่ขาดทุนถึง 282.7 ล้านเหรียญ และเป็นหนึ่งในหนังขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือระดับรองลงมาอย่าง “The Lone Ranger” ซึ่งขาดทุนราว 190 ล้านเหรียญ แต่นั่นก็ถือว่าขาดทุนระดับหายนะครับ
ลางบอกว่าหนังจะขาดทุนระดับนี้มาตั้งแต่ตอนเปิดตัว ที่ทำเงินสุดสัปดาห์แรกในบ้านไปเพียง 60 ล้านเหรียญ ขณะที่รายได้ในตลาดนอกบ้านก็อยู่ในระดับเดียวกันครับ
“Indiana Jones and the Dial of Destiny” เป็นการกลับมารับบทอินเดียนา โจนส์ ครั้งที่ห้าและครั้งสุดท้ายของแฮริสัน ฟอร์ด หนังยังมีนักแสดงสมทบได้แก่ ฟีบี้ วอลเลอร์-บริดจ์, แอนโตนิโอ แบนเดรัส, จอห์น รีส-เดวี่, โธมัส เคร็ทช์มัน, ชอเนตต์ เรเน่ วิลสัน, โทบี้ โจนส์ และ โอลิเวียร์ ริชเตอร์ส กำกับโดยเจมส์ แมนโกลด์
ที่มา: /Film