“Ride On” หนังเรื่องราวชีวิตสตันท์แมน ทำให้เฉินหลงนึกถึงสมัยที่เป็นสตันท์แมน

image via Alibaba Pictures

เฉินหลง หรือ แจ็คกี้ ชาน น่าจะเป็นนักแสดงไม่กี่คนที่ชื่อของตัวเองน่าจะมีความเป็น “genre” หรือประเภทของหนังได้กลายๆ เพราะเวลาที่เราพูดว่า “หนังเฉินหลง” เราจะนึกออกว่ามันจะมีความเฉพาะตัวบางอย่างที่แตกต่างจากหนังเรื่องอื่น นอกจากการมีเขาแสดงนำ เป็นต้นว่าการเป็นหนังบู๊ตื่นเต้นที่มีมุกตลกกระจายอยู่ทั้งเรื่อง มีฉากบู๊ที่ใช้คิวบู๊ฉับไวสไตล์หนังฮ่องกง และเฉินหลงเล่นเองในทุกฉาก ยอมเสี่ยงตายเล่นฉากเหล่านั้นจนบางครั้งก็บาดเจ็บเกือบตาย และมักเอาเบื้องหลังมาให้ดูในช่วงเครดิตท้ายเรื่อง ทำให้การเล่นฉากเสี่ยงตายโดยไม่ใช้สตันท์แมนของเขาเด่นพอๆ กับการเป็นนักแสดงของเขา

การที่เฉินหลงเล่นฉากเสี่ยงตายได้เองในหนังของเขาก็มาจากการที่มีภูมิหลังเป็นสตันท์แมนมาก่อน เขาเชื่อว่าตัวเองสามารถเล่นฉากเสี่ยงตายเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องพึ่งนักแสดงแทน และก็เริ่มต้นจากหนัง “Project A” (“เอไกหว่า”) ที่ออกฉายปี 1983 จนมาถึงเรื่องล่าสุด “Ride On” (“ควบสู้ฟัด”) ที่กำลังจะเข้าฉายในบ้านเรา 26 เมษายนนี้ เฉินหลงในวัย 69 ปี ก็ยังคงยืนกรานที่จะเล่นฉากเสี่ยงตายเอง แม้ว่าเขาจะมีอายุเยอะแล้ว และเคยบาดเจ็บจากหนังในอดีตมามากมายแล้วก็ตาม

ใน “Ride On” ซึ่งกำกับโดยแลรี่ หยาง ผู้กำกับวัย 42 ปี เฉินหลงรับบทเป็นเหล่าหลัว สตันท์แมนตกอับที่กำลังจะเสียม้าคู่ใจชื่อกระต่ายแดงไปให้เจ้าหนี้ของเขาที่จะเอามันออกไปประมูลใช้หนี้ เขาจึงต้องหาทางรักษามันไว้ ซึ่งทางเดียวก็คือฝึกมันเล่นฉากบู๊กับเขาในหนังที่จะช่วยให้ได้เงินปลดหนี้ได้ นักแสดงสมทบยังประกอบไปด้วยหลิวฮ่าวฉุน, เควิน กัวะ และ อู๋จิง โดยหนังทำเงินเปิดตัวสัปดาห์แรกในจีนไปถึง 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐครับ

จากเนื้อเรื่อง น่าจะถือได้ว่ามีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับชีวิตของเฉินหลงเองเหมือนกัน เขาให้สัมภาษณ์กับ shine.cn ว่า บทหนังโดนใจเขาอย่างมาก เพราะเขาเองก็เคยอยากทำหนังเนื้อหาคล้ายกันเมื่อ 40 ปีก่อน “มันทำให้ผมนึกถึงสมัยที่ผมทำงานเล่นฉากเสี่ยงตายในหนัง”

ฉากที่เฉินหลงต้องเสี่ยงตายใน “Ride On” ก็เช่น ฉากที่เขาต้องใช้เท้ายกบันไดที่มันอาจตกใส่เขาได้ทุกเมื่อหากประคองไม่ดี ระหว่างถ่ายทำ เขาก็ลื่นจนเกือบตกจากชั้นสอง แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ หรือในฉากขี่ม้า เขาเองก็เคยหล่นจากม้าระหว่างถ่ายทำลงบนพื้น แต่ก็สามารถลุกยืนได้อย่างรวดเร็ว ไม่โดนม้าเหยียบ และบอกทีมงานทุกคนว่าเขาไม่เป็นไร และฉากที่ตัวละครของเขาประสบอุบัติเหตุขณะโดดจากชิงช้าสวรรค์ไปโหนจับเชือกที่โรยมาจากเฮลิคอปเตอร์ อันเป็นเหตุทำให้เหล่าหลัวต้องบาดเจ็บและหยุดอาชีพสตันท์แมนไป ผู้กำกับแลรี่ หยาง อยากใช้นักแสดงแทนในฉากนี้ แต่เฉินหลงก็ยืนกรานที่จะแสดงเอง จึงต้องมีการเตรียมการอย่างระมัดระวังที่สุด และมันก็ผ่านพ้นไปได้อย่างดี

ในยุคปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์ก้าวล้ำไปมาก ช่วยให้นักแสดงไม่ต้องเสี่ยงตายเท่าสมัยก่อน แต่เฉินหลงก็เชื่อว่าจิตวิญญาณของสตันต์แมนจีนจะไม่มีวันเปลี่ยน และจะส่งผ่านจากอีกรุ่นสู่อีกรุ่น

“สรุปสั้นๆ ก็คือ สตันต์แมนหนังกังฟูจะไม่มีวันบอกว่าไม่ มีข้อความหนึ่งที่ผมหวังที่จะแบ่งปันไปยังหนุ่มสาวทุกคนที่กระหายจะทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผมเคยถามตัวเองว่าผมจะเป็นอย่างบรูซ ลี ได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ ไม่มีวันที่ใครจะแทนที่ลีได้ แต่ผมคือแจ็คกี้ ชาน ข้อความที่จะบอกก็คือไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ขอแค่เป็นตัวเอง” เฉินหลงกล่าว

Leave a Reply