สปีลเบิร์กคิดว่า “The Dark Knight” ควรได้ชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์

ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดของสตีเวน สปีลเบิร์ก หนึ่งในตำนานของฮอลลีวู้ด หลังรู้ผลการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 ผู้กำกับที่เคยได้รางวัลออสการ์มาแล้วสามตัว นั่นก็คือจากการกำกับ “Saving Private Ryan” หนึ่งตัว และได้จาก “Schindler’s List” อีกสองตัวในสาขากำกับและสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เขายังคงดีใจที่ผลงานล่าสุด “The Fabelmans” ได้เข้าชิงในปีนี้ด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้าชิงในสาขาด้านเขียนบทครับ
“ผมเพิ่งอายุ 76 เมื่อไม่นานนี้ ที่เขาพูดกันว่า เราจะเหลืออะไรให้ทำสำเร็จอีก แล้วทันใด ผมก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเป็นครั้งแรกในชีวิตผมจากออสการ์ในฐานะผู้ร่วมเขียนบท (กับโทนี คุชเนอร์) ของรางวัลบทยอดเยี่ยม มันทำให้ผมรู้สึกว่าวิชาภาษาอังกฤษและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่เรียนมาไม่เสียเปล่า” สปีลเบิร์กบอก
ในฐานะผู้กำกับจากหนังใหญ่ที่ได้ชิงออสการ์อย่าง “Close Encounter of the Third Kind”, “E.T.” และ “Raiders of the Lost Ask” สปีลเบิร์กดีใจที่หนังใหญ่ซึ่งทำเงินอย่างมากอย่าง “Top Gun: Marveick” และ “Avatar: The Way of Water” ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์ด้วย
“ผมรู้สึกมีกำลังใจจากเรื่องนี้จริงๆ มันมาช้าเกินไปสำหรับหนังที่ควรได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เมื่อหลายปีก่อนอย่าง The Dark Knight ของคริสโตเฟอร์ โนแลน หนังเรื่องนั้นจะต้องได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์ในวันนี้แน่ๆ ดังนั้น การมีหนังยักษ์สองเรื่องนี้ได้รับการนำเสนออย่างแข็งขันให้อยู่ในรายชื่อสิบอันดับเป็นสิ่งที่เราควรเฉลิมฉลองกันมากๆ”
กล่าวกันได้ว่าการที่หนัง “The Dark Knight” พลาดการได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2009 คือต้นเหตุที่สถานบันศิลปะและวิทยาการได้ขยายจำนวนหนังที่ได้รับการเสนอชื่อเพิ่มเป็น 10 เรื่อง หลังจากนั้นนั่นเอง ในช่วงแรกยังใช้เกณฑ์ว่า ถ้ามีหนังเรื่องไหนที่คะแนนถึงเกณฑ์ก็จะได้ติดโผหนึ่งในสิบเรื่อง แล้วพอในปี 2022 ก็ได้มีการปรับเกณฑ์ใหม่อีกครั้ง โดยให้หนังที่ได้คะแนนมากที่สุดสิบอันดับแรกได้เข้าชิงเลย ไม่จำเป็นว่าต้องผ่านเกณฑ์คะแนนที่ตั้งไว้หรือไม่ หลังจากนั้นก็มีรายชื่อหนังเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแบบเต็มอัตราครับ
ที่มา: Deadline