หลังจาก ทิโมธี ชาเลาเมต์ เล่น “Call Me by Your Name” ของผู้กำกับ ลูกา กวาดาญีโน และได้รับคำชื่นชมมากมาย รวมถึงได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ เขาก็กลายเป็นเป็นนักแสดงขวัญใจ และได้เล่นหนังเด่นๆ มากมาย เป็นต้นว่า “Lady Bird”, “Little Women”, “Dune” รวมถึงหนังรวมดาว “Don’t Look Up” ของเน็ตฟลิกซ์ ที่เขาได้ประกบทั้งลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ครับ

ชาลาเมต์ได้คุยกับนิตยสารบริติชโว้ก และเปิดเผยถึงคำแนะนำด้านอาชีพจากดิคาปริโอผู้ที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมาก่อนเขาว่า “อย่าเล่นยาหนัก และอย่าเล่นหนังซูเปอร์ฮีโร่” ตอนที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในปี 2018 ครับ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าชาลาเมต์ยังทำตามคำแนะนำนั้นอยู่ เสียดายที่นิตยสารไม่ได้เจาะลึกต่อ หรือกลับไปถามดิคาปริโอต่อว่าทำไมแนะนำแบบนั้น

ดิคาปริโอนั้นขึ้นชื่อเรื่องช่างเลือกโครงการหนังที่เขาจะรับบท เขาเป็นดาวรุ่งที่จับตามองนับตั้งแต่ “This Boy’s Life”, “What’s Eating Gilbert Grape”, “The Basketball Diaries”, “The Quick and the Dead”, “Total Eclipse”, “Romeo + Juliet” และ “Marvin’s Room” แล้วกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ก้องโลกด้วยผลงานเรื่อง “Titanic” ของเจมส์ คาเมรอน ในปี 1997 เขาเลือกรับบทที่ได้แสดงความสามารถมาโดยตลอด และได้รางวัลออสการ์ในที่สุดใน “The Revenant” เมื่อปี 2016

เส้นทางอาชีพของชาลาเมต์มีความคล้ายกับดิคาปริโอตรงที่เขาได้รับความชื่นชอบจากทั้งนักวิจารณ์และจากแฟนๆ ที่ตามกรี๊ดเขาอยู่ทั่วโลก ผลงานต่อไปของเขาก็คือ “Bones and All” ของลูกา กวาดาญีโน ที่กำลังรอเข้าฉาย, หนังเพลง “Wonka” ของพอล คิง ที่มีกำหนดฉายปีหน้า และ “Dune: Part Two” ที่อยู่ระหว่างการถ่ายทำครับ

ที่มา: Variety