หมีพูห์ออกล่าเหยื่อ ในภาพแรกของหนังสยองขวัญ “Winnie the Pooh: Blood and Honey”

ห้าเดือนหลังจากที่ลิขสิทธิ์ “Winnie the Pooh” ต้นฉบับจากเอ.เอ. มิลน์ กลายเป็นสมบัติสาธารณะ เจ้าหมีพุงพุ้ยที่ชอบกินน้ำผึ้งก็โดดสู่โลกของหนังสยองขวัญครับ ในชื่อ “Winnie the Pooh: Blood and Honey” ซึ่งสร้างโดยบริษัทหนังเล็กๆ ของอังกฤษชื่อ Jagged Edge Production
หนังได้ปิดกล้องไปแล้ว และอยู่ระหว่างตัดต่อในตอนนี้ครับ ภายใต้การควบคุมของรีส วอเตอร์ฟีลด์ ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้ร่วมสร้างหนัง
หมีพูห์ในฉบับนี้ จับคู่กับพิกเลต และออกไล่ล่าฆ่าคน “หลังจากที่ถูกคริสโตเฟอร์ โรบิน ทอดทิ้ง” เพราะต้องไปเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ชีวิตของพวกมันต้องลำบาก ต้องหาอาหารกินเอง ปกป้องตัวเองตามมีตามเกิด พวกมันจึงกลายเป็นสัตว์ดุร้าย “พวกมันจึงกลับสู่รากเหง้าเดิมที่เป็นสัตว์ พวกมันไม่เชื่องอีกแล้ว พวกมันเป็นเหมือนหมีกับหมูที่โหดร้าย ซึ่งอยากเที่ยวเล่นและตามล่าหาเหยื่อ”
หนังใช้เวลาถ่ายทำ 10 วัน ในอังกฤษ ไม่ห่างจากป่าแอชดาวน์ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ป่าร้อยเอเคอร์ในเรื่องราวของเอ.เอ. มิลน์ และแม้ว่าผู้กำกับไม่ยอมเปิดเผยทุนสร้างของหนัง แต่เขาก็ไม่อยากให้ผู้ชมคาดหวังว่านี่จะเป็นหนังที่มีงานสร้างระดับฮอลลีวู้ด
วอเตอร์ฟีลด์บอกด้วยว่าความท้าทายของหนังอย่างที่สุดก็คือ หาความสมดุลระหว่างการเป็นหนังตลกและหนังสยองขวัญ “เมื่อเราสร้างหนังแบบนี้ และมีแนวคิดที่เพี้ยนมาก มันง่ายที่จะกลายเป็นหนังที่ไม่น่ากลัวเลย และมีแต่ความขบขันและโง่เง่าอย่างเดียว แต่เราอยากได้สิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งคู่”
แม้ว่า “Winnie the Pooh” จะกลายเป็นสมบัติสาธารณะแล้ว แต่ดิสนีย์ก็ยังเป็นเจ้าของการตีความหมีพูห์กับผองเพื่อนในฉบับของตัวเองอยู่ วอเตอร์ฟีลด์จึงพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้ตัวละครในฉบับของเขาอิงจากฉบับปี 1926 เท่านั้น หมีพูห์ในฉบับนี้จึงไม่ใส่เสื้อสีแดง แต่เป็นชุดคนตัดไม้แทน ส่วนพิกเล็ตก็ใส่เสื้อผ้าสีดำ และเป็นอีกเหตุผลที่หนังไม่มีทิกเกอร์ เพราะลิขสิทธิ์ยังอยู่กับดิสนีย์ แม้ว่าจะมีฉากที่เผยให้เห็นหลุมศพของอียอร์ ลาอมทุกข์ที่ต้องกลายเป็นอาหารของพูห์กับพิกเล็ตผู้หิวโหย
ที่มา: Variety
ท่าจะ B จัด 55555555