นาดาวบางกอก ประกาศปิดตัว หลังจากสร้างผลงานและศิลปินมากว่า 12 ปี

หลังจากที่เริ่มต้นด้วยการมีห้องประชุมเพียงหนึ่งห้องเป็นที่ทำงานเมื่อ 12 ปีก่อน และขยายอาณาจักรจนใหญ่โตพอสมควร ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการยกมาตรฐานให้วงการโทรทัศน์และซีรี่ส์ออนไลน์หลายเรื่อง ปั้นศิลปิน และคนทำงานเบื้องหลังเก่งๆ มาหลายคน นาดาวบางกอกได้เห็นสมควรแก่เวลาที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไป จึงได้ประกาศปิดตัวลงครับ ตามที่มีจดหมายข่าววันนี้ที่ลงนามโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ กรรมการผู้จัดการ ครับ
เนื้อความหลักของจดหมายข่าวคือเพื่อแจ้งข่าวว่า ทางนาดาวบางกอก “จะยุติบทบาทการเป็นบริษัทพัฒนาและดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่าง ๆ ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้” และขอบคุณทั้งสื่อมวลชน ทุกคนที่เคยร่วมงาน และบรรดาแฟนๆ ที่ติดตามผลงานมาตลอดครับ
ในตอนท้ายของจดหมายข่าวได้บอกถึงการเปลี่ยนแปลงและงานที่ยังค้างอยู่ด้วยว่า “อาจฟังดูเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหัน แต่ภายในเราปรึกษาเรื่องนี้มาสักระยะ และเป็นเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ ศิลปิน นาดาว บางกอก หลาย ๆ คนที่พร้อมไปดูแลตัวเอง ทยอยออกไปเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตัวเองกันแล้วนี่ไม่ใช่การกล่าวลาเพื่อสิ้นสุดลง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีอิสระเพื่อเติบโต และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตัวเอง งานต่าง ๆ ที่เริ่มต้นค้างไว้ในชื่อ นาดาว บางกอก เช่น ซีรีส์ จะถูกส่งต่อไปยังโปรดิวเซอร์ หรือผู้กำกับ ให้ไปทำต่อบนการตัดสินใจของพวกเขาเอง ส่วนงานเพลงจะดำเนินต่อไปในนามของศิลปินคนนั้น ๆ และน้อง ๆ นักแสดงแต่ละคนจะถูกพาไปแนะนำในสายงานที่ เขาสนใจ ฝากติดตาม และให้กำลังใจในก้าวต่อ ๆ ไปของพวกเราทุกคนด้วยนะครับ”
ตลอด 12 ปี นาดาวได้สร้างผลงานที่กลายเป็นกระแสในตลาดมากมาย ได้บุกเบิกและฉีกแนวเนื้อหาให้เป็นที่ดำเนินตาม เป็นต้นว่า “เลือดข้นคนจาง”, “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น”, “My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” และ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” เป็นต้น (โดยส่วนตัวชอบ “Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ” มากๆ แม้ว่าอาจไม่ใช่ซีรี่ส์ที่ดังที่สุดของค่าย) ขณะเดียวกันก็ได้สร้างศิลปินที่มีชื่อขึ้นมาหลายคน เป็นต้นว่า แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์, ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร, โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, สกาย วงศ์รวี นทีธร, ตั้ว เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์, บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ และ เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังได้ทีมเบื้องหลังที่ได้จากการให้โอกาสของนาดาวอีกหลายคน เป็นต้นว่า นฤเบศ กูโน ผู้กำกับ “Side by Side พี่น้องลูกขนไก่” และ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ”, พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับ “SOS Skate ซึม ซ่าส์ สเกตบอร์ด“, ทศพร เหรียญทอง ผู้เขียนบท “เลือดข้นคนจาง” และผู้กำกับ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2” และ ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร ที่กลายเป็นโปรดิวเซอร์มือดีในผลงานหลายเรื่องครับ
จดหมายข่าวฉบับเต็มจากนาดาวอยู่ที่ด้านล่างนี้ครับ
ที่มา: @NadaoBangkok