“Venom: Let There Be Carnage” และ “No Time to Die” ทำตัวเลขรายได้หนังพุ่ง
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหนังใหญ่เข้าฉาย 2 เรื่อง นั่นก็คือ “Venom: Let There be Carnage” เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา และ “No Time to Die” เข้าฉายในสหราชอาณาจักรและหลายประเทศในยุโรป เป็นผลให้ตัวเลขรายได้หนังโดยรวมของตลาดโลกได้พุ่งสูงขึ้นครับ
มาเริ่มที่ภาคต่อของ “Venom” ก่อน แม้ว่าคำวิจารณ์โดยรวมจะสู้ภาคที่แล้วไม่ได้ แต่หนังก็ทำเงินในสหรัฐเกินกว่าเป้าที่คาดการณ์เอาไว้ครับ โดยทำเงินในสุดสัปดาห์แรกของการออกฉายไป 90.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่มีการประเมินไว้ว่าน่าจะเป็นเปิดตัวแค่ 40-65 ล้านเหรียญ
รายได้ดังกล่าวถือเป็นรายได้เปิดตัวหนังในสหรัฐที่มากที่สุดในยุคโควิด-19 ครับ ทั้งยังมากกว่าภาคแรกที่เปิดตัวในยุคไม่มีโควิด-19 ด้วย ที่ตอนนั้นทำเงินไป 80 ล้านเหรียญ รายได้หนังโดยรวมถือในสหรัฐว่าต่ำกว่าสุดสัปดาห์เดียวกันของปี 2019 อยู่เพียง 15%
รายได้ของ “No Time to Die” ในตลาดโลกก็น่ายินดีเช่นกันครับ ทำเงินในสุดสัปดาห์แรกของการเปิดฉายไป 119.1 ล้านเหรียญ ดูแล้วใกล้เคียงกับรายได้ของ “Skyfall” แต่ต่ำกว่า “Spectre” นิดหน่อย หนังยังไม่ได้ปิดตัวในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐและจีนด้วย เอ็มจีเอ็มคงดีใจที่ตัดสินใจถูกในการเลื่อนวันฉายหนังออกมาในช่วงนี้ครับ
อีกเรื่องที่ถือว่าน่าจะทำรายได้ดีพอสมควรก็คือ “Dune” ครับ ทำเงินในตลาดโลกทะลุ 100 ล้านเหรียญไปแล้ว หลังจากการฉายมา 3 สัปดาห์ หนังรอที่จะเปิดตัวในสหรัฐและจีนอยู่เช่นกันครับ
ตลาดรายได้หนังทั่วโลกคึกคักขนาดนี้ หวังว่าในเดือนนี้ที่โรงหนังในบ้านเรากลับมาเปิดฉายแล้วจะคึกคักแบบนั้นบ้างนะครับ
ที่มา: Deadline
วาร์ปบทความนี้:
