แอมะซอนเจรจาซื้อค่ายหนังเอ็มจีเอ็มด้วยข้อตกลงมูลค่า 9 พันล้าน$

หลังจากมีข่าวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาว่าเอ็มจีเอ็มเล็งที่จะขายบริษัท ดูเหมือนว่าค่ายสิงโตคำรามนี้อาจจะได้ผู้ที่จะมาซื้อแล้วครับ วาไรตี้รายงานว่าแอมะซอนอยู่ระหว่างเจรจาที่จะเข้าซื้อบริษัทด้วยข้อตกลงมูลค่าถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แอมะซอนเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ที่มีข่าวลือว่าสนใจที่จะซื้อเอ็มจีเอ็มมาสักระยะแล้ว ตั้งแต่รายงานที่ออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี แต่ตอนนั้น เอ็มจีเอ็มต้องการเงินถึง 10 พันล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่ามูลค่าล่าสุดตอนนี้
ในรายงานบอกด้วยว่าไมค์ ฮอปกินส์ รองประธานของแอมะซอน ไพรม์ และ แอมะซอน สตูดิโอ คือหัวหอกในการเจรจาข้อตกลงโดยมีตัวช่วยเป็นเควิน อุลริช ประธานคณะกรรมการผู้บริหารของเอ็มจีเอ็ม และผู้ก่อตั้งแองเคอเรจ แคปิตอล ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของเอ็มจีเอ็ม
ถ้าข้อตกลงบรรลุ แอมะซอนจะได้คลังเนื้อหาที่ใหญ่ที่สุดคลังหนึ่งของฮอลลีวู้ดเลย เพราะเอ็มจีเอ็มเป็นค่ายหนังที่เก่าแก่ มีอายุเกือบร้อยปี และหนังอยู่ในคลังถึงกว่า 4,000 เรื่อง เป็นต้นว่าหนังชุด James Bond, Hobbit, Rocky, RoboCop, Pink Panther, Poltergeist, Legally Blonde, รวมถึงหนังอย่าง “The Silence of the Lambs,” “The Magnificent Seven” และ “Four Weddings and a Funeral” เป็นต้น ส่วนด้านซีรี่ส์ทีวีก็มีมากกว่า 17,000 ตอน เช่นซีรี่ส์ชุด “Stargate”, “Fargo”, “Vikings”, “Fargo”, และ “The Handmaid’s Tale” เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีรายการเรียลลิตี้ดังอย่าง “The Voice”, “Survivor” และ “Shark Tank” เป็นต้น
(เอ็มจีเอ็มสร้างหนังชุด James Bond แต่ลิขสิทธิ์เป็นของ EON Productions เข้าใจว่าถ้าแอมะซอนซื้อเอ็มจีเอ็มไปก็จะได้หนังเจมส์ บอนด์ ที่เคยสร้างมาแล้วทั้งหมด แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้สิทธิ์ในการสร้างภาคใหม่หลังจากนี้ไหม)
ปัจจุบัน แอมะซอนมีสมาชิกช่องไพรม์ทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านสมาชิก และทุ่มเงินกว่าหนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านเหรียญในการผลิตเนื้อหาทั้งหนัง ซีรี่ส์ และดนตรี เฉพาะของปีที่แล้วอย่างเดียว
ที่มา: Variety