รายชื่อผู้เข้าชิงลูกโลกทองคำ 2021: สตรีมมิ่งและนักทำหนังผู้หญิงมาแรง
ด้วยความที่ปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้สตูดิโอภาพยนตร์ในสหรัฐเลื่อนการฉายหนังโปรแกรมเด่นมาอยู่ในปีนี้แทนแทบทั้งหมด หรือไม่ก็ขายให้สตรีมมิ่งเอาไปฉายแทน ส่วนในภาคทีวีนั้นก็ต้องหยุดการถ่ายทำเพราะมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ผู้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำประจำปี 2021 หรือครั้งที่ 78 กลายเป็นผู้เข้าชิงของค่ายสตรีมมิ่งมากที่สุด ทั้งจากเน็ตฟลิกซ์, แอมะซอน, ฮูลู แม้แต่ Shudder ที่เป็นค่ายสตรีมมิ่งเล็กๆ ที่ฉายเฉพาะหนังสยองขวัญก็ยังมีโอกาสได้เข้าชิงด้วยครับ
ค่ายที่เข้าชิงมากที่สุดก็คือเน็ตฟลิกซ์ ได้ชิงทั้งในสาขาภาพยนตร์กับทีวีรวมกันถึง 42 ผู้เข้าชิง นอกจากนี้ หนังและซีรี่ส์ที่ได้เข้าชิงมากที่สุดก็ยังเป็นของเน็ตฟลิกซ์ด้วย นั่นคือ “Mank” ของผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ เรื่องราวเสี้ยวชีวิตของเฮอร์แมน เจ. แมงคิวิกซ์ ผู้เขียนบทหนังฮอลลีวู้ดคลาสสิค “Citizen Kane” ได้เข้าชิง 6 รางวัล และซีรี่ส์ “The Crown” ว่าด้วยชีวิตส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ ได้เข้าชิงมากที่สุดในส่วนของทีวีที่ 6 รางวัลครับ
หนังที่ได้เข้าชิงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือ “The Trial of the Chicago 7” ที่เดิมทีเป็นของพาราเมาท์ แต่โควิด-19 ได้กระทบแผนการฉายโรง ทำให้พาราเมาท์ต้องขายให้เน็ตฟลิกซ์ ได้เข้าชิงที่ 5 รางวัล
ความน่าสนใจของผู้เข้าชิงด้านภาพยนตร์ในปีนี้ยังอยู่ที่สาขาผู้กำกับด้วย เพราะมีผู้กำกับหญิงได้เข้าชิงในปีนี้ถึง 3 คน ประกอบไปด้วย โคลอี้ เจ้า จาก “Nomadland”, เรจินา คิง จาก “One Night in Miami” และ เอ็มเมอรัลด์ เฟนเนลล์ จาก “Promising Young Woman” ทั้งสามถือเป็นผู้กำกับหญิงรายที่หก, เจ็ด และแปด ที่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ต่อจาก บาร์บรา สไตรแซนด์ (1984), เจน แคมเปียน (1994), โซเฟีย คอปโปลา (2004), แคธริน บิเกโลว์ (2010 และ 2013) และ เอวา ดูเวอร์เนย์ (2015) โดยโคลอี้ เจ้า ถือเป็นผู้กำกับหญิงเอเชียคนแรกที่ได้ชิงในสาขานี้ครับ
รางวัลลูกโลกทองคำมักถูกแซวว่าชอบให้นักแสดงดังๆ ได้เข้าชิง (แต่อาจไม่ได้รางวัลในที่สุด) เพื่อให้งานพรมแดงและให้งานประกาศรางวัลของตัวเองมีสีสัน ผู้เข้าชิงในปีนี้ก็ดูเหมือนจะทำให้ถูกแซวเช่นนี้ได้อีกเหมือนกัน (ทั้งที่ปีนี้ไม่มีพรมแดนและต้องจัดในรูปแบบออนไลน์) เช่นให้เจมส์ คอร์แดน จากหนังเพลง “The Prom” ได้เข้าชิง ทั้งที่ถูกนักวิจารณ์สับเละ หรือซีรี่ส์ตลก “Emily in Paris” ของผู้สร้าง “Sex and the City” กับนักแสดงนำ ลิลี่ คอลลินส์ ได้เข้าชิง ทั้งที่เป็นซีรี่ส์ที่ได้คะแนนวิจารณ์ก้ำกึ่ง
ขณะเดียวกัน ลูกโลกทองคำก็ขึ้นชื่อให้ผู้เล่นใหม่ๆ ในวงการได้มีโอกาสแจ้งเกิด เราจึงได้เห็นซีรี่ส์ “The Flight Attendant” ของเอชบีโอ ได้เข้าชิงถึง 2 รางวัล หรือทาฮาร์ รามิน และ มาเรีย มากาโลวา ได้เข้าชิงในสาขานักแสดงของภาพยนตร์
นอกจากนี้ การที่รางวัลลูกโลกทองคำมีรางวัลมอบให้ทั้งสาขาด้านทีวีและโทรทัศน์ และในสาขาการแสดงก็มีการแบ่งเป็นประเภทชีวิตกับประเภทตลกหรือเพลง จึงทำให้เกือบทุกปีจะต้องมีนักแสดงหนึ่งคนได้เข้าชิงมากกว่า 1 รางวัล ในปีนี้มีนักแสดงที่ได้เข้าชิงในลักษณะนี้ถึง 3 คน คือ อันยา เทย์เลอร์-จอย ที่ได้เข้าชิงจากซีรี่ส์ฮิตของเน็ตฟลิกซ์ “The Queen’s Gambit” และจากหนัง “Emma“, ซาชา บารอน โคเอน ได้เข้าชิงจากหนัง “ Borat Subsequent Moviefilm” และ “The Trial of the Chicago 7” และ โอลิเวีย โคลแมน ได้เข้าชิงจากหนัง “The Father” และซีรี่ส์ “The Crown” ส่วนผู้ที่ได้รับการคาดการณ์ว่าน่าจะได้เข้าชิง และได้รางวัลจากที่อื่นมาก่อน แต่กลับพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อก็คือหนัง “Da 5 Bloods” ของผู้กำกับสไปค์ ลี ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ รวมถึงเดลรอย ลินโด นักแสดงนำของหนังครับ
ก่อนหน้านี้ รางวัลลูกโลกทองคำถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเพราะกฎของตัวเองที่กำหนดว่า หนังที่จะเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ประเภทชีวิตและตลกหรือเพลง จะต้องมีการใช้ภาษาอังกฤษในหนังมากกว่า 50% ทำให้หนังคำวิจารณ์ดีอย่าง “Minari” ที่ได้รางวัลมาแล้วจากที่อื่น และเป็นหนึ่งในหนังตัวเก็งรางวัลออสการ์ หมดโอกาสที่จะได้เข้าชิง และเข้าชิงได้ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศแทน ทั้งที่สร้างโดยบริษัทหนังอเมริกัน (A24) มีนักแสดงอเมริกันหลายคน และกำกับโดยลี ไอแซ็ค ชุง นักสร้างหนังชาวอเมริกัน หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของชาวเกาหลีใต้อพยพที่ไปตั้งรกรากในอเมริกา ซึ่งใช้แรงบันดาลใจจากชีวิตวัยเยาว์ของผู้กำกับเอง หนังยังพลาดการได้เข้าชิงในสาขาตัวเก็งอื่นๆ เช่นนักแสดงนำชาย และสมทบหญิงด้วย
สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำฮอลลีวู้ด ซึ่งเป็นผู้จัดรางวัลลูกโลกทองคำ มีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 100 กว่าคน และทั้งหมดก็ล้วนเป็นคนที่ไม่ได้เป็นผู้ให้คะแนนของรางวัลออสการ์ที่มีอยู่หลายพันคน ดังนั้น รางวัลลูกโลกจึงไม่ใช่รางวัลที่ถือกันว่าจะทำนายผลรางวัลออสการ์ได้ ดูได้จากปีที่แล้วที่ “1917” กับ “Once Upon a Time in Hollywood” ได้รางวัลใหญ่ของลูกโลกทองคำไป แต่กลายเป็น “Parasite” ที่ได้รางวัลใหญ่ออสการ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า รางวัลลูกโลกทองคำอาจมีอิทธิพลในแง่ทำให้เกิดความสนใจต่อหนังและกลายเป็นที่พูดถึงก่อนรางวัลออสการ์จะมาถึงครับ การประกาศผลรางวัลจะจัดขึ้นในเช้าวันที่ 1 มีนาคม ตามเวลาของบ้านเรา
สรุปรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำประจำปี 2021 มีดังนี้
ประเภทภาพยนตร์
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทชีวิต
“The Father” (Sony Pictures Classics)
“Mank” (Netflix)
“Nomadland” (Searchlight Pictures)
“Promising Young Woman” (Focus Features)
“The Trial of the Chicago 7” (Netflix)
ผู้กำกับภาพยนตร์
เอ็มเมอรัลด์ เฟนเนล จาก “Promising Young Woman” (Focus Features)
เดวิด ฟินเชอร์ จาก “Mank” (Netflix)
เรจินา คิง จาก “One Night in Miami” (Amazon Studios)
แอรอน ซอร์กิน จาก “The Trial of the Chicago 7” (Netflix)
โคลอี้ เจ้า จาก “Nomadland” (Searchlight Pictures)
นักแสดงนำหญิงในภาพยนตร์ประเภทชีวิต
วิโอลา เดวีส (“Ma Rainey’s Black Bottom”)
แอนดรา เดย์ (“The United States vs. Billie Holiday”)
วาเนสซา เคอร์บี้ (“Pieces of a Woman”)
ฟรานเชส แมคดอร์มานด์ (“Nomadland”)
แครี่ มัลลิแกน (“Promising Young Woman”)
นักแสดงนำชายในภาพยนตร์ประเภทชีวิต
ริซ อาเหม็ด (“Sound of Metal”)
แชดวิก โบสแมน (“Ma Rainey’s Black Bottom”)
แอนโธนี ฮอปกินส์ (“The Father”)
แกรี่ โอลด์แมน (“Mank”)
ทาฮาร์ รามิน (“The Mauritanian”)
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง
“Borat Subsequent Moviefilm” (Amazon Studios)
“Hamilton” (Walt Disney Pictures)
“Palm Springs” (Neon)
“Music” (Vertical Entertainment)
“The Prom” (Netflix)
นักแสดงนำหญิงในภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง
มาเรีย มากาโลวา (“Borat Subsequent Moviefilm”)
เคต ฮัดสัน (“Music”)
มิเชล ไฟเฟอร์ (“French Exit”)
โรซามันด์ ไพค์ (“I Care a Lot”)
อันยา เทย์เลอร์-จอย (“Emma”)
นักแสดงนำชายในภาพยนตร์ตลกหรือเพลง
ซาชา บารอน โคเอน (“Borat Subsequent Moviefilm”)
เจมส์ คอร์เดน (“The Prom”)
ลิน-มานูเอล มิแรนดา (“Hamilton”)
เดฟ พาเทล (“The Personal History of David Copperfield”)
แอนดี้ แซมเบิร์ก (“Palm Springs”)
นักแสดงสมทบชายประเภทภาพยนตร์
ซาชา บารอน โคเอน (“The Trial of the Chicago 7”)
แดเนียล คาลูยา (“Judas and the Black Messiah”)
จาเรด เลโต (“The Little Things”)
บิล เมอร์เรย์ (“On the Rocks”)
เลสลี โอดอม จูเนียร์ (“One Night in Miami”)
นักแสดงสมทบหญิงประเภทภาพยนตร์
เกลน โคลส (“Hillbilly Elegy”)
โอลิเวีย โคลแมน (“The Father”)
โจอี้ ฟอสเตอร์ (“The Mauritanian”)
อแมนดา เซย์ฟรีด (“Mank”)
เฮเลนา เซนเกล (“News of the World”)
ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ
“Another Round” (Samuel Goldwyn Films) จากเดนมาร์ก
“La Llorona” (Shudder) จากหัวเตมาลา
“The Life Ahead” (Netflix) จากอิตาลี
“Minari” (A24) จากสหรัฐ
“Two of Us” (Magnolia Pictures) จากฝรั่งเศส
บทภาพยนตร์
เอ็มเมอรัลด์ เฟนเนลล์ จาก “Promising Young Woman” (Focus Features)
แจ็ค ฟินเชอร์ จาก “Mank” (Netflix)
แอรอน ซอร์กิน จาก “The Trial of the Chicago 7” (Netflix)
ฟลอเรียน เซลเลอร์, คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน จาก “The Father” (Sony Pictures Classics)
โคลอี้ เจ้า จาก “Nomadland” (Searchlight Pictures)
ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม
“The Croods: A New Age” (Universal Pictures)
“Onward” (Walt Disney Pictures)
“Over the Moon” (Netflix)
“Soul” (Walt Disney Pictures)
“Wolfwalkers” (Cartoon Saloon)
เพลงประกอบภาพยนตร์
“Fight for You” จาก “Judas and the Black Messiah” (Warner Bros.) โดย H.E.R., เดิร์นส เอมิล ที่สอง, เทียรา โธมัส
“Hear My Voice” จาก “The Trial of the Chicago 7” (Netflix) โดย แดเนียล เพมเบอร์ตัน, เซเลสต์
“Io Si (Seen)” จาก “The Life Ahead” (Netflix) โดย ไดแอน วอร์เรน, ลอรา พูซินี, นิคโคโล อาเกลียร์ดี
“Speak Now” จาก “One Night in Miami” (Amazon Studios) โดย เลสลี โอดอม จูเนียร์, แซม แอชเวิร์ธ
“Tigress & Tweed” จาก “The United States vs. Billie Holliday” (Hulu) โดย แอนดรา เดย์, ราฟาเอล ซาดิก
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
“The Midnight Sky” (Netflix) โดย อเล็กซองดร์ เดส์ปลาต์
“Tenet” (Warner Bros.) โดย ลุดวิก เยอรันส์ซอน
“News of the World” (Universal Pictures) โดย เจมส์ นิวตัน โฮเวิร์ด
“Mank” (Netflix) โดย เทรนต์ เรซเนอร์, แอตติคัส รอส
“Soul” (Pixar) – โดย เทรนต์ เรซเนอร์, แอตติคัส รอส, จอน แบสตีสต์
ประเภทโทรทัศน์
ซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทชีวิต
“The Crown” (Netflix)
“Lovecraft Country” (HBO Max)
“The Mandalorian” (Disney Plus)
“Ozark” (Netflix)
“Ratched” (Netflix)
นักแสดงนำหญิงในซีรี่ส์ประเภทชีวิต
โอลิเวีย โคลแมน (“The Crown”)
โจดี้ โคเมอร์ (“Killing Eve”)
เอ็มมา คอร์ริน (“The Crown”)
ลอรา ลินนีย์ (“Ozark”)
แซร่าห์ พอลสัน (“Ratched”)
นักแสดงนำชายในซีรี่ส์ ประเภทชีวิต
เจสัน เบตแมน (“Ozark”)
จอช โอคอนเนอร์ (“The Crown”)
บ็อบ โอเดนเคิร์ก (“Better Call Saul”)
อัล ปาชิโน (“Hunters”)
แมทธิว รายส์ (“Perry Mason”)
ซีรี่ส์ทางทีวียอดเยี่ยม ประเภทตลก
“Emily in Paris” (Netflix)
“The Flight Attendant” (HBO Max)
“The Great” (Hulu)
“Schitt’s Creek” (CBC)
“Ted Lasso” (Apple TV Plus)
นักแสดงนำหญิงในซีรี่ส์ทางทีวี ประเภทตลก
ลิลี่ คอลลินส์ (“Emily in Paris”)
แคลีย์ คูโอโค (“The Flight Attendant”)
เอลล์ แฟนนิ่ง (“The Great”)
เจน เลวี (“Zoey’s Extraordinary Playlist”)
แคทเธอรีน โอฮาร่า (“Schitt’s Creek”)
นักแสดงนำชายในซีรี่ส์ทางทีวี ประเภทตลก
ดอน ชีเดิล (“Black Monday”)
นิโคลัส โฮลต์ (“The Great”)
ยูจีน เลวี่ (“Schitt’s Creek”)
เจสัน ซูไดคีส (“Ted Lasso”)
เรมี ยุสเซฟ (“Ramy”)
นักแสดงนำหญิงในประเภทมินิซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ทางทีวี
เคต แบลนเชตต์ (“Mrs. America”)
เดซี เอ็ดการ์-โจนส์ (“Normal People”)
ไชรา ฮาส (“Unorthodox”)
นิโคล คิดแมน (“The Undoing”)
อันยา เทย์เลอร์-จอย (“The Queen’s Gambit”)
นักแสดงนำชายในภาพยนตร์หรือมินิซีรี่ส์ทางโทรทัศน์
ไบรอัน แครนสตัน (“Your Honor”)
เจฟฟ์ แดเนียลส์ (“The Comey Rule”)
ฮิวจ์ แกรนต์ (“The Undoing”)
อีธาน ฮอว์ค (“The Good Lord Bird”)
มาร์ค รัฟฟาโล (“I Know This Much Is True”)
มินิซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ทางทีวียอดเยี่ยม
“Normal People” (Hulu/BBC)
“The Queen’s Gambit” (Netflix)
“Small Axe” (Amazon Studios/BBC)
“The Undoing” (HBO)
“Unorthodox” (Netflix)
นักแสดงสมทบชายในซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ทางทีวี
จอห์น โบเยกา (“Small Axe”)
เบรนแดน กลีสัน (“The Comey Rule”)
แดน เลวี่ (“Schitt’s Creek”)
จิม พาร์สัน (“Hollywood”)
โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์ (“The Undoing”)
นักแสดงสมทบหญิงในประเภทซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ทางทีวี
จิลเลียน แอนเดอร์สัน (“The Crown”)
เฮลานา บอนแฮม คาร์เตอร์ (“The Crown”)
จูเลีย การ์เนอร์ (“Ozark”)
แอนนี เมอร์ฟี (“Schitt’s Creek”)
ซินเธีย นิกสัน (“Ratched”)
JEDIYUTH 