วอร์เนอร์ฯ มีแผนสร้างหนังดีซีปีละ 6 เรื่อง เริ่มต้นในปี 2022

โดย 4 เรื่อง จะเป็นหนังฉายโรง และอีก 2 เรื่อง จะเป็นหนังที่ฉายทาง HBO Max พิเศษโดยเฉพาะ
นับตั้งแต่ AT&T ได้เข้าควบรวมกิจการของ Time Warner และเปิดตัว HBO Max ก็มีการระบุทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า จะมีการปรับและเปลี่ยนแปลงชุดใหญ่เรื่องการนำเนื้อหาต่างๆ ที่มีอยู่ในคลังแสงออกมาใช้ครับ วอลเตอร์ ฮามาดะ ประธานของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ฝ่ายดีซีฟิล์ม ได้ยืนยันแผนการดังกล่าวในบทสัมภาษณ์ของเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ครับ
ในบทความบอกว่า แผนการปัจจุบันก็คือจะมีการสร้างหนังใหญ่จากดีซีคอมมิคส์ออกมาฉายปีละ 6 เรื่อง โดยเริ่มต้นในปี 2022 นี้ โดย 4 เรื่อง จะเป็นหนังฉายโรง และอีก 2 เรื่อง จะเป็นหนังที่ฉายทาง HBO Max พิเศษโดยเฉพาะ
จะมีการให้ทุนสร้างสำหรับหนังฉายโรงมากกว่า ส่วนหนังฉาย HBO Max จะเป็นหนังทุนต่ำกว่า และสร้างจากเนื้อหาที่มีความเสี่ยงกว่า นี่เท่ากับจะเป็นการเพิ่มการผลิตเนื้อหาของดีซีฟิล์มในช่วงหลังให้มากกว่าปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งมักอยู่ที่ปีละ 2 เรื่อง ยกเว้นในปี 2018 ที่มีเรื่องเดียว
นอกจากนี้แล้ว ดีซีฟิล์มยังจะร่วมมือกับนักสร้างหนังในการพัฒนาซีรี่ส์ภาคแยกจากหนังที่จะลงฉายทาง HBO Max ด้วย ซึ่งเรื่องแรกคือซีรี่ส์ “Peacemaker” ของเจมส์ กันน์ ที่ผูกโยงกับหนัง “The Suicide Squad” ที่จะออกฉายปีนี้
ฮามาดะซึ่งมาทำงานกับดีซีฟิล์มในปี 2018 บอกทางหนังสือพิมพ์ว่า “หนังทุกเรื่องที่เรากำลังอยู่ในตอนนี้ เราคิดไปด้วยว่า มีศักยภาพที่จะทำภาคแยกลง Max ยังไงบ้าง”
แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เกิดขึ้นก็คือการขยายจักรวาลของหนังสไนเดอร์ เพราะไม่ได้อยู่ในส่วนหนึ่งของแผนผังใหม่นี้ ส่วนหนัง “Justice League” ในฉบับใหม่ของเขานั้นถูกให้นิยามว่าเป็น “ทางตัน” ในแง่การเล่าเรื่อง หรือไม่สามารถขยายเรื่องราวไปจากเดิมได้อีก
ฝ่ายดีซีของวอร์เนอร์ฯ ถูกกดดันอย่างหนักให้จัดระบบใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพราะช่วงสิบปีที่ผ่านมา ทำเงินทั่วโลกรวมกันไปราว 8 พันล้านเหรียญ น้อยกว่ามาร์เวลที่เป็นคู่แข่งร่วมครึ่งหนึ่งที่ทำได้ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ในบทความบอกด้วยว่า ดีซีฟิล์มจะเพิ่มแนวคิดพหุจักรวาลหรือมัลติเวิร์สลงไปในจักรวาลภาพยนตร์เข้าไปสองเท่า โดยคาดว่าหนัง “The Flash” ที่มีกำหนดฉายปี 2022 จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำร่อง แผนการนี้จะช่วยให้สามารถมีหนังสองเรื่องว่าด้วยแบทแมน ที่รับบทโดยนักแสดงคนละคน และออกฉายได้พร้อมกัน เป็นแนวคิดที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างดีในงานทีวีของดีซี ที่มีทั้งจักรวาลแอร์โรว์ และซีรี่ส์เอกเทศอย่าง “Gotham” แต่จะได้ผลหรือไม่นั้นก็ต้องตามดูกันต่อไป
มาร์เวลเองก็เริ่มต้นแผนแนวคิดมัลติเวิร์สแล้ว โดยมีซีรี่ส์ “WandaVision” เป็นตัวปูเข้าสู่เนื้อหา และคาดว่า “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” จะเอาแนวความคิดนี้ไปใช้เต็มๆ
ที่มา: The NY Times
1 ความเห็น »