สจ๊วร์ตเป็นเจ้าหญิงไดอาน่า ใน “Spencer” ของผู้กำกับ “Jackie”

หนังจะสำรวจตรวจค้นความสัมพันธ์อันบาดหมางกับพระสวามี และความรักอันแรงกล้าต่อโอรสทั้งสองพระองค์
คริสเตน สจ๊วร์ต เตรียมรับบทที่ท้าทายอาชีพนักแสดงของเธออีกครั้งด้วยบทของเจ้าหญิงไดอาน่า ในหนังเรื่อง Spencer ของผู้กำกับ พาโบล ลาร์เรน จาก Jackie ที่เคยส่งให้นาตาลี พอร์ตแมน ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครับ
ตามข้อมูลจากเดดไลน์ บทหนังได้สตีเวน ไนท์ จาก Eastern Promises มารับหน้าที่เขียนบทให้ โดยจะไม่ได้เล่าชีวประวัติแบบเต็มๆ ของเจ้าหญิงไดอาน่า แต่จะเล่าเพียงช่วงเวลาสามวันตั้งแต่วันก่อนวันคริสต์มาสจนถึงวันเปิดกล่องของขวัญหลังวันคริสต์มาสในช่วงต้นยุค 90 ที่ตำหนักซานดริงแฮมในเมืองนอร์ฟอล์กของประเทศอังกฤษครับ
ที่นั่นในช่วงเวลานั้นเอง ที่เจ้าหญิงไดอาน่าตัดสินใจว่าชีวิตสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คงไปกันไม่รอดแล้ว และยอมสละโอกาสที่จะพาเธอสู่การเป็นราชินีในวันหนึ่ง หนังจะไม่นำเสนอเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่าหลังจากทิ้งชีวิตในวัง แต่จะสำรวจตรวจค้นความสัมพันธ์อันบาดหมางกับพระสวามี และความรักอันแรงกล้าต่อโอรสทั้งสองพระองค์
ผู้กำกับลาร์เรนมองว่าเรื่องราวนี้เป็นด้านตรงกันข้ามกับเทพนิยายครับ “เราต่างเติบโตมา อย่างน้อยก็คนในรุ่นของผม ด้วยการอ่านหนังสือเทพนิยาย และเข้าใจว่ามันคืออะไร ปกติแล้วเป็นเรื่องราวของเจ้าชายที่ได้พบเจ้าหญิงและขอเธอมาเป็นภรรยาซึ่งท้ายที่สุดก็จะได้เป็นพระราชินี นั่นคือเรื่องราวของเทพนิยาย แต่เมื่อใครคนหนึ่งตัดสินใจที่จะไม่เป็นราชินี และพูดว่า ฉันขอเป็นตัวของตัวเองดีกว่า นั่นเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่มาก มันคือเทพนิยายที่กลับหัวกลับหาง ผมมักประหลาดใจกับอะไรแบบนั้น และคิดว่ามันคงเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก นั่นคือหัวใจของหนังเรื่องนี้”
ฟังดูแล้วเหมือนการเอาเสี้ยวหนึ่งของชีวิตมาเล่าคล้ายกับ Jackie ที่เอาช่วงพิธีศพของเจเอฟเคมาเล่าสะท้อนความนึกคิดของแจ็กเกอลีน เคนเนดี้ และก็เปรียบเทียบเชื่อมโยงกับเรื่องราวเทพนิยายเหมือนกันครับ
ในแง่การคัดเลือกสจ๊วร์ตมารับบทนำนั้น ผู้กำกับกล่าวว่า “คริสเตนเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมของยุคนี้ การที่จะให้หนังออกมาดี เราต้องมีสิ่งที่หนังเรื่องนี้ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือความลึกลับ คริสเตนเป็นได้หลายสิ่ง และเธอสามารถเป็นคนที่ลึกลับมากๆ ได้ และก็เปราะบางมาก และก็เข้มแข็งอย่างที่สุดได้เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ ส่วนผสมขององค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ผมนึกถึงเธอ การตอบสนองต่อบทหนังของเธอและการตีความตัวละครของเธอ เป็นอะไรที่น่าดูอย่างมาก ผมคิดว่าเธอจะทำสิ่งที่น่าตื่นตะลึงและน่าค้นหาได้ในเวลาเดียวกัน เธอคือพลังธรรมชาติอันรุนแรง”
หนังมีกำหนดเปิดกล้องในต้นปี 2021 ครับ จัดจำหน่ายในตลาดโลกโดย FilmNation ส่วนในบ้านเรานั้น เอ็ม พิคเจอร์ส ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่องนี้มาแล้วครับ
ที่มา: Deadline