ตอนที่สร้าง “Titanic” ด้วยทุนสร้างราว 200 ล้านเหรียญในยุคนั้น ซึ่งถือว่ามหาศาลมาก ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าหนังจะได้กำไร แต่แล้วมันก็หลายเป็นหนังที่ทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลจนกระทั่ง “Avatar” ซึ่งเป็นผลงานเรื่องต่อมาของเจมส์ คาเมรอน ได้ทุบสถิติรายได้ลง ผมจำไม่ได้ว่าตอนสร้างเรื่องหลังนี้ คาเมรอนต้องเดิมพันแบบเดียวกับ “Titanic” ไหม แต่สำหรับภาคต่อของหนังแล้ว ถือว่าอาจมากกว่านั้นด้วยครับ
ในรายงานของ Deadline ที่พูดถึงคณะกรรมการภาพยนตร์ของนิวซีแลนด์เตรียมประกาศให้กองถ่ายหนังต่างๆ กลับมาทำงานได้อีกครั้งหลังจากที่มาตรการการปราบโควิด-19 ได้ผล รายงานดังกล่าวได้เปิดเผยถึงทุนสร้างของหนังเหล่านี้ด้วยครับ และบอกว่าภาค 2-5 ของ “Avatar” ใช้ทุนสร้างรวมกันกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ภาคแรกของหนังใช้ทุนสร้างไป 237 ล้านเหรียญ ถ้าอีกสี่ภาคหลังที่เริ่มงานในปี 2017 ใช้ทุนสร้างเท่าๆ กัน ก็แปลว่าอาจมากกว่าภาคแรกราว 20 ล้านเหรียญครับ และยังน้อยกว่า “Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides” ที่เป็นหนังแพงที่สุดด้วยทุนสร้าง 378.5 ล้านเหรียญ แต่ทุ่มเงินระดับกว่าพันล้านให้สร้างหนังสี่ภาคเลยของหนังที่มีอายุเกิน 10 ปีแล้ว และแถมภาคสุดท้ายจะฉายปี 2027 อีก น่าจะเป็นการเดิมพันที่ยิ่งกว่า “Titanic” มากขึ้นไปอีก และสิ่งที่ขึ้นบนจอจะต้องไม่ธรรมดาอย่างมากถึงจะช่วยให้ชนะการเดิมพันครั้งนี้
“Avatar 2” มีกำหนดฉายธันวาคม 2021, ตามด้วยภาคสามในปี 2023, ภาคสี่ในปี 2025 และภาคห้าในปี 2027 นำแสดงโดยแซม เวิร์ทธิงตัน, โซอี้ ซัลดานา, ซิกอร์นีย์ วีเวอร์, โจ เดวิด มัวร์, ดิลีป เรา, แมต เจอรัลด์ และสตีเฟ่น แลงก์ โดยมีนักแสดงชุดใหม่ได้แก่เคต วิน สเลต, อีดี้ ฟอลโก, มิเชล โหยว, วิน ดีเซล, เจเมน คลีเมนท์ และอูนา แชปลิน และมีนักแสดงดาวรุ่งมารับบทตัวละครรุ่นลูกอีกจำนวนหนึ่งครับ
