ขณะที่มาร์ติน สกอร์เซซี มองว่า หนังมาร์เวลเป็นเหมือนสวนสนุก ผมกับเพื่อนนักดูหนังมักแซวกันบ่อยๆ เวลานั่งคุยกันถึงหนังมาร์เวลว่ามันเป็นเหมือนซีรี่ส์ทางทีวี แต่ฉายบนจอภาพยนตร์ ทั้งที่เพราะความที่หนังแต่ละเรื่องแม้จะเล่าเรื่องซูเปอร์ฮีโร่แตกต่างกันไป แต่มันก็เชื่อมโยงกันเหมือนเป็นแต่ละตอนของซีรี่ส์เพื่อนำพาไปสู่หนังที่เป็นมหกรรมสำคัญที่จะเอาตัวละครเหล่านี้มาเจอกัน หรือนำไปสู่บทสรุปของบางตัวละคร หนังบางเรื่องทำหน้าที่เหมือนเป็นหนังตัวอย่างให้หนังแบบมหกรรมด้วยซ้ำ และก็มีบางเรื่องที่งานภาพดูเป็นงานแบบซีรี่ส์ทางทีวีมากกว่าจะมีงานภาพเป็นแบบภาพยนตร์ด้วย มันมีความเป็นซีรี่ส์ฉายทางทีวีมากๆ

แต่ดูเหมือนว่าหนังมาร์เวลในเฟส 4 ที่จะตามมานี้ จะยิ่งทำให้เส้นแบ่งของรูปแบบซีรี่ส์ทางทีวีกับภาพยนตร์เข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้นครับ เพราะเมื่อก่อน เราต้องดูหนังทุกเรื่องในจักรวาลมาร์เวลเพื่อจะได้เข้าใจบางอย่างของหนังเรื่องต่อๆ ไป หรือมองภาพรวมออก แต่ในเฟส 4 คุณจะต้องไปดูซีรี่ส์ที่ฉายทางดิสนีย์พลัสด้วย ตามที่เควิน ไฟกี ประธานของมาร์เวลสตูดิโอได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Bloomberg Businessweek

เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @loudmouthjulia ได้นำท่อนหนึ่งในบทความที่สัมภาษณ์ไฟกีจากนิตยสารดังกล่าวมาเปิดเผยดังนี้

เขาปฏิเสธที่จะพูดถึงทุนสร้างของซีรี่ส์ รวมถึงรายงานที่ว่าดิสนีย์ทุ่มทุนถึง 25 ล้านเหรียญต่อตอนเพื่อทำซีรี่ส์มาร์เวล มากกว่าที่เชื่อกันว่าเอชบีโอใช้ในการสร้าง Game of Thrones ซีซั่นสุดท้าย แต่เขาได้ทิ้งข้อมูลเด็ดอย่างหนึ่งว่า ถ้าคุณอยากเข้าใจทุกอย่างในหนังมาร์เวลในอนาคต เขาบอก คุณจะขาดการเป็นสมาชิก Disney+ ไม่ได้เลย เพราะเหตุการณ์ในซีรี่ส์ชุดใหม่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ในหนังที่จะตามมา เป็นต้นว่า Doctor Strange in the Multiverse of Madness ตัวละครสการ์เลตวิทช์จะเป็นตัวละครสำคัญในหนังเรื่องนั้น และไฟกีบอกด้วยว่าซีรี่ส์ Loki ก็จะเชื่อมโยงเข้าไปด้วยเหมือนกัน “ผมไม่แน่ใจว่าเราได้รับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อนรึเปล่า” เขาบอก “แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ”

เข้าใจว่ามีแฟนส่วนหนึ่งในบ้านเราอยากสมัครสมาชิกเพื่อการณ์นี้เหมือนกัน เพียงแต่ดิสนีย์พลัสยังไม่เปิดทำการในบ้านเรา