ตลาดสตรีมมิ่งแข่งขันกันดุเดือดจริงๆ ครับ และทุกค่ายก็เหมือนใช้กลยุทธ์และอาวุธของตัวเองในการต่อสู้กับอีกค่ายอย่างไม่ยั้งมือจริงๆ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือการห้ามให้อีกค่ายได้ฉายโฆษณาบนสื่อของตัวเอง

มีรายงานจากเดอะวอลสตรีตเจอร์นัลว่า ดิสนีย์ได้สั่งแบนโฆษณาของเน็ตฟลิกซ์บนสถานีทีวีที่เป็นบริษัทลูก ซึ่งได้แก่เอบีซี, ฟรีฟอร์ม และ FX เป็นต้น มีเพียงช่อง ESPN เท่านั้นที่ยังให้มีโฆษณาของคู่แข่งได้อยู่

ปีที่แล้ว เน็ตฟลิกซ์ทุ่มเงินกว่า 2 พันล้านเหรียญ ในการโฆษณาผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ รวมถึงสื่อทีวี รวมถึงบนคู่แข่งอย่างแอมะซอนไพรม์ด้วย (จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นโฆษณาของเน็ตฟลิกซ์ทั้งตามบิลบอร์ด ทีวี บนยูทูบ และตามเว็บไซต์ต่างๆ แบบปูพรม)

ในรายงานบอกด้วยว่าเดิมทีดิสนีย์ ซึ่งได้เปิดตัวดิสนีย์พลัสที่เป็นคู่แข่งของเน็ตฟลิกซ์ไปแล้วนั้น ตั้งใจจะห้ามมีโฆษณาของคู่แข่งทุกค่าย แต่ตอนนี้ยอมให้มีของ Apple TV+ กับ แอมะซอนไปก่อน

กลยุทธ์นี้อาจช่วยให้ผู้ชมที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์หันไปหาดิสนีย์พลัสได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์อยู่แล้วนั้น ผลสำรวจของ CNBC บอกว่ากว่า 75% ของสมาชิกเน็ตฟลิกซ์ไม่คิดที่จะสมัครดิสนีย์พลัสหรือแอปเปิลทีวีพลัส แปลว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะยังอยู่กับเน็ตฟลิกซ์ครับ

ดิสนีย์จะปล่อยให้บริการดิสนีย์พลัส 21 พฤศจิกายนนี้ ส่วน Apple TV+ จะชิงตัดหน้าไปก่อน โดยเปิดบริการ 1 พฤศจิกายน เราจะได้เห็นเจ้าใหม่อีกในปีหน้าก็คือเอชบีโอแม็กซ์ของวอร์เนอร์มีเดียกับพีค็อกของเอ็นบีซียูนิเวอร์แซลครับ

ที่มา: WSJ