ถ้าใครจำ Iron Man ภาคแรกได้ ในฉากที่โทนี สตาร์ก หนีรอดออกมาจากถ้ำได้ และเมื่อมาถึงฐานทัพอากาศ เขาเรียกร้องขอสองสิ่ง นั่นก็คือการแถลงข่าวกับ “อเมริกัน ชีสเบอร์เกอร์” เมื่อตัดมาอีกฉาก เราก็เห็นสตาร์กออกมาจากรถแล้วกินชีสเบอร์เกอร์ของเบอร์เกอร์คิง ฉากนั้นอาจดูเหมือนการแอบขายสินค้าให้สปอนเซอร์อย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็มีเรื่องราวเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้รับบทเป็นโทนี สตาร์ก ครับ

ในการให้สัมภาษณ์แก่ New York Daily News เมื่อปี 2008 นักแสดงผู้สวมบทไอร์ออนแมนได้เล่าว่าฉากนั้นคล้ายๆ กับเป็นการขอบคุณเบอร์เกอร์คิงที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเขาให้ดีขึ้นด้วย

อย่างที่ใครซึ่งทราบประวัติของดาวนีย์ดี เขาเป็นนักแสดงที่ติดยาและเข้าออกสถานบำบัดเป็นว่าเล่น รวมถึงเคยติดคุกด้วยข้อหาเสพยามาก่อนจนทำให้เขาแทบไม่ได้รับโอกาสจากฮอลลีวู้ดอีกเลย แต่วันหนึ่ง ขณะที่ขับรถไปโดยมีโคเคนเป็นตันอยู่ในรถ เขาก็จอดแวะที่เบอร์เกอร์คิงและเริ่มคิดอะไรได้

“ผมต้องขอบคุณเบอร์เกอร์คิง มันเป็นเบอร์เกอร์ที่น่าขยะแขยงที่ผมสั่งมากิน ผมสั่งมันกับน้ำอัดลมแก้วใหญ่ แล้วผมก็คิดได้ว่ากำลังจะมีอะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้น” แล้วดาวนีย์ก็เล่าว่าในช่วงแห่งการรู้แจ้งนั้นเอง เขาก็โยนยาทั้งหมดทิ้งลงทะเล กลับเนื้อกลับตัว และยกให้ฉากอเมริกันชีสเบอร์เกอร์ในหนัง Iron Man เป็นการอุทิศให้เบอร์เกอร์คิงที่ช่วยชีวิตของเขา

ใน Avengers: Endgame มีการกล่าวถึงชีสเบอร์เกอร์อีกครั้ง ตอนที่แฮปปี้ โฮแกน (จอน เฟฟโร) นั่งคุยอยู่กับมอร์แกน ลูกสาวของโทนี โฮแกนถามมอร์แกนว่าหิวไหม เธอตอบว่าอยากกินชีสเบอร์เกอร์ “พ่อของหนูก็ชอบชีสเบอร์เกอร์เหมือนกัน ฉันจะเอาชีสเบอร์เกอร์มาให้หนูกินจนหนำใจเลย”

ฉากนี้ถือว่ามีแฝงนัยไว้หลายระดับ เพราะไม่เพียงแต่พาเราย้อนไปถึงฉากใน Iron Man ภาคแรกฉากนั้น และให้เห็นว่าโฮแกนรู้จักวิธีที่จะดูแลลูกสาวของโทนีอย่างดีแล้ว ยังเป็นการให้เห็นด้วยว่าโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้มาไกลขนาดไหนจากสมัยเมื่อก่อนที่ตกอับอย่างที่สุด ก่อนมีหนัง Iron Man นั้น ทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตการงานของเขาอยู่ในขั้นย่ำแย่ และเขาก็ได้ชีสเบอร์เกอร์มาช่วยให้คิดได้