น่าจะเป็นบทความสุดท้ายของปี 2018 สำหรับเว็บแล้วครับ เพราะไม่แน่ใจว่าช่วงค่ำวันนี้จะได้อัพเดทอะไรไหม ถ้าไม่ก็คงได้กลับมาเล่าข่าวอีกทีพรุ่งนี้หรือมะรืนเลย และอยากใช้บทความสุดท้ายของปีนี้ด้วยการให้ผู้อ่านเว็บไซต์ช่วยกันเขียนครับ โดยให้เล่าถึงหนังที่ท่านประทับใจในปีที่ผ่านมา จะกี่เรื่องก็ได้ จะเรียงลำดับหรือไม่เรียงก็ได้ จะให้เหตุผลหรือแค่บอกชื่อหนังก็ได้ครับ
เรามีของที่ระลึกจากค่ายหนังตอบแทนให้เล็กน้อยด้วย (แต่ยังไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรและมีจำนวนเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้ขอความอนุเคราะห์จากค่ยหนัง ฮ่าๆ) เขียนเสร็จแล้วก็ใส่บัญชีทวิตเตอร์หรือเฟซบุกสำหรับติดต่อกลับด้วยนะครับ เพื่อจะได้แจ้งกลับได้ง่ายๆ ให้เวลาเขียนถึงวันที่ 7 มกราคมครับ จะประกาศในสัปดาห์ต่อไป (จะใช้วิธีจับฉลากแบบจับฉลากของขวัญปีใหม่ครับ)
สำหรับผม ได้ดูหนังในปีที่ผ่านมา 57 เรื่อง และเรื่องที่ประทับใจโดยเรียงลำดับตัวอักษรอยู่ด้านล่างนี้
American Animals
A Quiet Place
A Star is Born
Get Out
Lady Bird
Mission: Impossible – Fallout
One Cut of Dead
Phantom Thread
Roma
Shadow
Shoplifters
The Square
ปีนี้ดูในโรงไปประมาณ 150+ เรื่องครับ ของเดือนสุดท้ายยังไม่ได้นับให้ละเอียด
ลิสต์หนังที่ผมชอบประจำปี 2018 ที่ดูในโรง
The Florida Project รักที่สุดของปีนี้ นักแสดงเด็กทุกคนเล่นเป็นธรรมชาติมาก ฉากจบร้องไห้ตาม
I Tonya หนังชีวประวัติที่สนุกมาก การแสดงระดับเอกอุคู่ควรกับรางวัล เพลงติดหูทุกเพลง
Molly’s Game ประเดิมงานกำกับครั้งแรกของ แอรอน ซอว์กิ้น ที่โคตรเทพ บทหนังเดือดมาก อัดไดะล็อครัวๆแทบอ่านซับไม่ทัน
Phantom Thread ละเมียด ละมุนละไม แฝงความบิดเบี้ยวของอารมณ์ แดเนียลสมควรชนะรางวัลออสการ์
Ready Player One งานบันเทิงคุณภาพ คืนฟอร์มสปีลเบิร์กอย่างยิ่งใหญ่ งานกำกับและภาพสวยมาก เซอร์วิสงานจากยุคเก่าๆอีกเพียบ คนดูฟิน
Tonight, At Romance Theater สั้นๆ ประทับใจกับความสวยงามของโลกภาพยนตร์
Incident In A Ghostland ประสบการณ์ในโรงหนังที่โคุณเหนื่อย ลุ้นหนักมาก หักมุมหัวทิ่มตั้งแต่กลางเรื่อง
Ghost Stories หนังผีเชยๆ แต่สร้างบรรยากาศหลอนๆได้ผลมาก สะดุ้งทุกจังหวะที่หนังต้องการ ตอนจบคือดีงาม
A Simple Favor เก๋ที่สุดในสามโลก ทำให้หนังสืบสวนดูชิคๆคูลๆกับแฟชั่นได้ บทและได้อะล็อคกวนประสาท บวกแอคติ้งของทุกคนที่ส่งเสริมหนังอย่างดี
One Cut of the Dead ขำกระทืบเท้ากันทั้งโรง!! ลองเทคที่ปูแล้วกลับมาขยี้ทุกจุด เสียดสีวงการหนังเบาๆ ไม่มีอะไรมาก งานนี้เน้นฮา!!5555
Blindspotting ฉากสุดท้ายที่พระเอกแร็ปเพลงระบายสิ่งที่อยู่ในใจ คือตราตรึง และสุดยอดที่สุดของปี 2018
Facebook : Chanatip Sirimongkol
E-Mail : nescafe27761@hotmail.com
ชอบฉากแอคชั่นต่างๆในเรื่อง ที่ทำออกมาดูทันสมัย สนุกครบรส แอคชั่นจัดหนักเต็มพิกัด ทำออกมาได้ดี ดุดัน และสมจริงมากๆ การสร้างฉาก การจัดแสงและสีก็สวยงาม โดยเฉพาะช่วงที่เป็นฉากสงคราม คือสื่ออารมณ์ของสมรภูมิรบออกมาได้อย่างดีลุ้นระทึกตลอดเวลามันส์และดูบันเทิงแบบไม่ต้องหยุดพัก มีสอดแทรกมุขตลกใส่ความฮามาให้ขำเป็นระยะ ใส่ความโรแมนติกที่มีดราม่าปนนิดๆเข้ามาเสริม การนำมุมการเมืองและศาสนามานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ สะท้อนเรื่องการฉ้อโกงที่มีอยู่ในทุกสมัยออกมาได้น่าสนใจพาเราอินตามไปด้วย การใช้ธนูเป็นอาวุธในเรื่องทำออกมาได้สวยงามและเท่สุดๆ อีกเรื่องที่เด่นไม่แพ้กันคือด้านนักแสดง ที่ทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบต่างทำหน้าที่ของตัวเองกันได้โดดเด่นและเหนือชั้นเกินความคาดหมายมาก เท่เกินคำบรรยาย เป็นสุดยอดหนังที่ชอบมากที่สุดในปี 2018 “ROBIN HOOD พยัคฆ์ร้ายโรบินฮู้ด” นายแน่มาก
FB : Natthakon Kamonlakhon
ผมขอไม่รวมกับหนังปี 2017 ที่ได้ฉายไทยในปี 2018 นะครับ และขอไม่เรียงตามลำดับความชอบด้วย นึกเรื่องไหนได้เขียนก่อน
1. One Cut of the Dead
2. Roma
3. Mission Impossible: Fallout
4. Hereditary
5. A Quiet Place
6. Anihilation
7. Black Panther
เสียใจมากที่ยังไม่ได้ดู A Star is Born, Shoplifter, Shadow, Spider-man Into Spdier Verse และอีกหลายๆเรื่อง ไม่งั้นอาจจะได้ครบ 10 เรื่องพอดี
Facebook : Tanakorn Prompitakporn
เป็นอีกปีที่ดูหนังโรง/หนังเข้าใหม่น้อย หลังจากที่น้อยลงเรื่อยๆ มาทุกปี (เริ่มแก่ ๕๕๕+)
ปีนี้พลาดไปหลายเรื่องมากกกกก ล่าสุดก็นี่เลย Bohemian Rhapsody ที่อยากดูในโรง แต่คงจะไม่ได้ดูแล้ว…
ส่วนใหญ่ก็จะได้ดูแต่หนังฮิตๆ ดังๆ ดูง่ายๆ ตามใจคนที่บ้าน (๖๖๖+)
ส่วนหนังไม่ตลาด ดูยากๆ ก็จำต้องข้ามๆ ไปก่อน (>_<)
เรียงลำดับตามที่นึกขึ้นได้นะครับ
1.Mission Impossible: Fallout — หนังตระกูล MI ที่ยกระดับให้หนังแอ็คชั่นสายลับไปอีกเวล ที่นอกจากจะยังมีการหักเหลี่ยมเฉือนคม หักมุม บู๊ระห่ำแล้ว ยังมีจังหวะดราม่าชวนอึ้ง ซึ้ง อยู่หลายซีนเลยทีเดียว
2.Ready Player One — 80 รำลึก ไม่ชอบ ไม่ได้แล้ว ^^
3.Ant-Man and the Wasp — สนุกเล็กๆ ตามสไตล์
สงสัยจะมีแค่นี้แหละครับ สำหรับปีนี้….
เริ่มไม่ค่อยได้ดูหนังในโรงแล้ว หลังจากย้ายมาอยู่บ้านนอก ส่วนใหญ่ที่ดูเลยเป็นพวกซีรีส์ กับสารคดีไป หากนับเฉพาะหนังที่ได้ดูปีนี้รวมใหม่เก่าน่าจะไม่ถึง 20 เรื่อง เลือกมาแบบไม่เรียงลำดับก็ได้ตามนี้ค่ะ
1. Annihilation
2. Searching
3. Shoplifters
4. The Invisible Guest
ปีนี้จะพยายามหาเวลาไปดูให้มากขึ้น
Email : lynn.ple.karn@gmail.com
ที่ชอบมีหลายเรื่องคับ แต่ที่แบบที่ประทับใจ
มี2เรื่อง Ready player one กับ Aquarman
ปีที่ผ่านมาได้ดูหนังในโรงน้อยมากเลยครับ ตกแล้วประมาณ 10 เรื่องนิดๆ
ส่วนเรื่องที่ชอบจริงๆ ขอเรียงลำดับสัก 5 เรื่องตามนี้เลยครับ
1. Bohemian Rhapsody ช่วงท้ายๆนี่น้ำตาไหลเฉย 555+
2. Avengers: Infinity war
3. A star is born
4. Ready Player One
5. Black Panther
Facebook: Wachira Saswattawong
เอาเฉพาะภาพยนตร์ที่ได้ดูในโรงภาพยนตร์นะครับ ไม่เอาที่ดูผ่าน Netflix หรือ แผ่น แบบไม่เรียงอันดับ
A Quiet Place
Ant-Man and the Wasp
Aquaman
Bumblebee
Deadpool 2
Hereditary
Incredibles 2
Mission: Impossible – Fallout
Ralph Breaks the Internet
Searching
10 เรื่องด้านบนเป็นหนังที่รู้สึกว่าให้ความบันเทิงดี ขนะที่ตัวหนังเองก็แข็งแรงพอประมาณดีด้วย สำหรับผมนะครับ
FB : Nattapong Kongaium
ขอบคุณครับ
ปีนี้ดูหนังในโรงค่อนข้างน้อย หลายเรื่องที่อยากดูก็ไม่เข้าโรงใกล้บ้าน ขออนุญาตนับรวมที่ดูที่บ้านด้วยแล้วกันครับ เรียงตามตัวอักษรนะครับ
American Animals – โดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องตัดสลับตัวจริงกับนักแสดงแบบเก๋ๆ และมีฉากไคลแม็กซ์ที่พีคและเรียลสุดๆ
First Man – เต็มไปด้วยงานด้านเทคนิคที่น่าประทับใจมากๆ เสียดายที่เลือกนำเสนอพระเอกแบบนิ่งไปหน่อย ทำให้อินไม่สุดกับฉากบนดวงจันทร์ เสียดายอีกอย่างคือไม่ได้ดู IMAX ครับ
First Reformed – ชอบการแสดงของอีธาน ฮอว์กมากๆ ชอบประเด็นที่ตัวละครในเรื่องถกกัน อยากเห็นฉากคุยกันอีกเยอะๆ แต่ก็จบแบบไม่ทันตั้งตัว
Isle of Dogs – เวส แอนเดอร์สัน + สต็อปโมชัน
Lady Bird – เป็นหนังออสการ์ปี 2018 ที่ชอบมากที่สุด อินมากที่สุด เสียน้ำตามากที่สุด (ยังไม่ดู Phantom Thread) รู้สึกรีเลตกับนางเอกในแง่การตามหาตัวเอง ถึงนิสัยและวัยจะค่อนข้างต่างกัน 55555
Love, Simon – หนังรอมคอมวัยรุ่นที่ชอบที่สุดในรอบปี ดูแล้วมีความสุข ชอบเคมีของพระเอกกับเพื่อน (Katherine Langford) มาก น้ำตารื้นหลายฉากเลย
Mission: Impossible – Fallout – จัดหนักฉากเสี่ยงตายให้ได้ใจหายใจคว่ำกันเต็มที่ ยิ่งตอนท้ายนี่พีคสุดๆ เสียดายมากๆ ที่ไม่ได้เข้าชิงออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษ
Mamma Mia! Here we go again – ส่วนตัวแล้วค่อนข้างไม่ชอบภาคแรก เนื้อเรื่องดูมั่วมาก แต่ภาคนี้ดูแล้วมีความสุขมาก ดีกว่าเดิมเยอะ แคสต์ใหม่มาเพิ่มสีสันได้อย่างดี เล่าเรื่องลื่นไหลกว่าเดิม เสียดายแค่ว่า Amanda กับ Lily น่าจะได้ร้องคู่กันมากกว่านี้ (ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับหนังโดยตรงแต่ชอบมากคือ คำบรรยายของคุณ jediyuth นั้นลื่นไหลและไพเราะมากๆ เข้ากับจังหวะเพลงสุดๆ แทบจะร้องตามเป็นเวอร์ชันไทยได้เลย)
Paddington 2 – สานต่อความฟีลกู๊ดของภาคแรก หนังกลมกล่อมมากๆ เต็มไปด้วยพลังด้านบวก และ Hugh Grant ในบทตัวร้ายมีสีสันมาก
Searching – ไม่คิดว่าจะการเล่าเรื่องผ่านหน้าจออย่างเดียวจะลุ้นได้ขนาดนี้ แถมเรื่องยังพลิกแล้วพลิกอีก
Three Billboards outside Ebbing, Missouri – บอกสั้นๆ ว่าเดือดมาก
email: time.chutiwat_chot@hotmail.com
1.Three Billboards outside Ebbing, Missouri
2.Searching
3.Bird Box
4.Ready Player One
5.A Quiet Place
ยังมีหลายเรื่องที่เก็บไม่หมด ถ้าได้ดูอาจมีการแทนที่เกิดขึ้น เรื่องที่ชอบมีดังนี้ครับ
1.Red Sparrow เป็นหนังสายลับที่ชอบตั้งแต่ Tinker Tailor Soldier Spy
2.samui song ปีนี้ดูหนังไทยไม่กี่เรื่อง ขอเลือกเรื่องนี้ละกัน
3.Pacific Rim Uprising หนังหุ่นยนต์ต้องยกให้เรื่องนี้
4.Ready Player One กดในโรงไปสามรอบสำหรับเรื่องนี้ ครบทุกรสชาติ
5.A Quiet Place พลอตเรื่องเอเลี่ยนสดใหม่
6.Deadpool 2 ฮาทุกมุก นึกว่าดูหนังตลกอยู่
7.A Simple Favor หนังพลิกไปมา ดักพวกเดาทางหนังซะไปไม่เป็น
8.Bohemian Rhapsody ดูโรงไอแมก หนังดูมีพลังมากจนขนลุก(หนังบิ้วต์อารมณ์จนมาระเบิดในฉากคอนเสิรต์)
9.Searching เป็นหนังปีนี้ ที่ดูแล้วเซอร์ไพร์สมาก มีอะไรมากกว่าปกหนัง
10.Aquaman เจมส์ วาน ทำหนังดีซีต่อเหอะ ขอร้อง
facebook/Gee kang
ปีนี้ดูหนังช่วงปลายปีเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีที่ชอบมากเป็นพิเศษ ที่คิดว่าน่าสนใจก็อยู่ปีนี้หน้าหมด ลิสต์หนังที่ชอบเลยออกมาแบบงงๆ เพราะหนังที่มีคนบอกว่าดีๆกัน ดันเข้าโรงในช่วงที่ไม่ว่างพอดี ปีนี้เลยพลาดหลายเรื่องมาก
First man
Green book
I, tonya
Mission : impossible – fallout
Molly’s game
Ready player one
Roma
The wife
Twitter : @karn0506
เรื่องที่ดูแล้วมีความสุขที่สุดในปีนี้คือ One Cut of the Dead
เรื่องที่ดูแล้วระทึกที่สุดในปีนี้คือ A Quiet Place
เป็นสองเรื่องที่ระลึกถึงมากที่สุดของปีนี้ครับ
ขออนุญาติเรียงตามตัวอักษรดังนี้ ครับ
Aquaman – อลังการยิ่งใหญ่ ตัวละครมีเสน่ห์ แสดงวิสัยทัศน์ของผู้กำกับในการเปิดโลกจักรวาลได้อย่างน่าอัศจรรย์ หนังพุ่งไปข้างหน้าแบบไม่น่าเบื่อเลย
Black Panther – สร้างโลกที่มีเอกลัษณ์ มีเสน่ห์น่าค้นหาได้สำเร็จ อยากไปเที่ยววาคันด้าสักครั้ง
Bumblebee บัมเบิ้ลบี – หนังที่ดูแล้วหัวใจพองโต อบอุ่น นักแสดงทำหน้าที่ได้ดี ฉากบู๊ไม่ต้องเยอะ แต่ชัดเจนและกลมกล่อม ใส่แต่ละเพลงมา อย่างโดน
Darkest Hour – ชอบหนังการเมืองช่วงสงครามอยู่แล้ว เรื่องนี้เข้มข้น แค่ดูการแสดงที่แสนมีเสน่ห์และดึงดูดของแกรี่ โอลด์แมนก็คุ้มแล้ว
Deadpool2 – ความบันเทิงที่แสนเกรียน มีลูกล่อลูกชนตลอดเวลา มีความซึ้งของกลุ่มคนแปลกๆที่มารวมตัวกัน กลุ่มนี้ได้ใจในความเป็นพวกพ้องมากกว่าทีมฮีโร่ไหนๆเลย
Fantastic Beasts and Where to Find Them: The Crime of Grindelwald – สารภาพว่ารอบแรก สาปมาก เพราะเล่าเรื่องได้อืดจนหลับ แต่ไปดูรอบสองในวันที่ไม่ง่วง พบว่า เป็นการปูเรื่องที่มีรายละเอียดน่าติดตามฝุดๆ ฉากที่สุสานท้ายเรื่องคือ ปรุงมาได้อีพีคและตราตรึง
Jurassic World: Fallen Kingdom – หนังแบ่งพาร์ทชัดเจน พาร์ทแรกให้ความรู้สึกโหยหาอดีตที่ไม่อาจหวนกลับ ทำออกมาได้น่าเศร้าใจ แต่ประทับใจในการเล่าเรื่องและสื่อสารเป็นภาพออกมา อลังการจัดเต็มมาก พาร์ทสองเป็นหนัง thriller ที่น่าหวาดหวั่น น่ากลัว และสนุก
Mission: Impossible – Fallout – มันส์ ชิป หาย
Ready Player One – ดูจบแล้วอยากกรี้ดดังๆในความ 80s อยากไปเล่น oasis สักครั้ง แสดงความเก๋าเกมในการเป็นคนเล่าเรื่องที่เก่งกาจ พร้อมวิสัยทัศน์ด้านภาพที่เฉียบขาดของสปีลเบิร์กได้ดีเยี่ยมจริงๆ
Peter Rabbit – ดูแล้วอยากไปอยู่ชนบทอังกฤษ หนังใส่เพลงมาได้อารมณ์ดี มีความขำและฮาไปกับสัตว์น้อยใหญ่ ที่อนิเมทมาได้น่ารัก และสมจริงๆมากๆ
Ralph Breaks the Internet: Wreck-It Ralph 2 – หนังย้อนยุควัยเด็กอีกเรื่องในคราบหนังการ์ตูน เป็นหนังที่เอาไปใส่ในหลักสูตร internet เบื้องต้นให้เด็กๆดูและเข้าใจการทำงานของโลกอินเตอร์เน็ตได้เลย
Facebook/natawaruchapet
Email : natawaruchapet@gmail.com
หนังที่ชอบมากที่สุดของปี 2018 คือ หนังเรื่อง Keys to the Heart พี่หมัดหนัก กับน้องอัจฉริยะสุดป่วน ค่ะ /ตอนแรกที่ลองดูตัวอย่างหนังจบแล้วแบบ.. อ่อเรื่องนี้น่าสนใจแหะ ถ้าเข้าโรงยังไงก็ต้องไปดูแน่ๆ… แล้วบังเอิญมีโอกาสได้บัตรไปดูรอบสื่อมวลชน…( เป็นความโชคดีมากๆที่ได้ไปดูหนังที่เราอยากดูก่อนเข้าโรง) แล้วทีนี้ ชวนเพื่อนไปดู เพื่อนก็เท ชวนพี่ไปดู พี่ก็ไม่ว่าง ชวนผู้ไปดู ผู้ก็ยังเทอีก Natasha Garrido Chamai Nui Pitchy Kanpitcha เลยตัดสินใจ นั่งรถไปดูคนเดียว ถือตั๋ว2ใบไปนั่งดูคนเดียวเงียบๆ (น้ำตาจิไหล) แต่หนังก็สนุกและซึ้งมากจริงๆ ดูแล้วอิ่มใจค่ะ….แนะนำว่าใครที่ไม่มีพี่น้องควรไปดูเรื่องนี้ หรือใครที่มีพี่น้องยิ่งควรต้องไปดูเรื่องนี้ค่ะ ตัวหนังก็นำเสนอออกมาได้ดีมาก… เพราะไม่ว่าเราจะนิสัยเป็นแบบไหน ทะเลาะกันกับคนในครอบครัวมาหนักมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วครอบครัวยังไงก็คือครอบครัวเหมือนเดิมและตลอดไป (มันคือความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้)… ความเป็นพี่น้องก็เช่นกัน สายใยเเห่งความผูกพันมักจะผูกแน่นเสมอ ♡
FB Chacha Waraporn
Bohemian Rhapsody หนัง2018ที่ประทับใจมากที่สุด
เพราะ ด้วยความเป็นวงดนตรีในตำนานและมีหลายเพลงผลงานที่เราชื่นชอบจึงทำให้ผมต้องตีตั๋วมาชม เพื่อมารับรู้เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมา นี่คือหนังที่สร้างความตื่นเต้นได้ดีมากๆ นับตั้งแต่ต้นเรื่องที่ เฟรดดี เมอร์คิวรี เข้ามาอยู่ในวงควีน ได้เห็นความพิเศษของเขาเสมือนได้เข้าไปอยู่ในยุคนั้นเลยทีเดียว รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีคาแรคเตอร์ที่สมจริง จนดูๆ ไปแล้วแอบขนลุกเบาๆ หนังมีความลึกซึ้งกินใจ การนำเสนอความเป็นมาของแต่ละเพลง ที่ทำให้เรารู้สึกอินตื่นตะลึงไปกับมัน แต่ละเพลงที่ถูกเลือกออกมานำเสนอนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงฮิตและอยู่ในตำนาน การแสดงให้เห็นถึงความสามารถและพรสวรรค์ของเฟรดดี ที่สุดยอดมากจริงๆ ยิ่งฉากคอนเสิร์ตไลฟ์เอดในตอนท้ายเรื่องนั้นพีคมากๆสมจริงเหลือเกินจนเราอยากลุกมาร้องและปรบมือตามจังหวะไปด้วยเลย เป็นหนังที่เราประทับใจตราตรึงหัวใจเราเหลือเกิน
FB : Joey Panorama
ไม่น่าเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ผมตระหนักถึงบุญบาปได้มากถึงขนาดนี้ ปกติแล้วถ้าดูหนังสร้างแรงบันดาลใจ เราจะอยากทำดี เป็นคนดี แต่หลังจากดูหนังเรื่อง Along With The Gods The Last 49 จบผมกลับเริ่มตระหนักในความเลวของตัวเองแทน และเริ่มที่จะแก้ไขมันอย่างจริงๆ จังๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะกลัวความเจ็บปวดในนรก แต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากที่เทพเจ้านั้นมีเมตตา ให้โอกาสมนุษย์อย่างเราได้ปรับปรุงตัวเสมอ เลยรู้สึกมีกำลังใจที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นี้คือหนัง2018ที่ดีต่อใจมากที่สุดเลย
FB : Sek Deesonchan
มันคือหนังสยองขวัญเขย่าใจทีเงียบที่สุดเท่าที่เคยดูมา ตอนดูเนี้ยรอจังหวะนานมากกว่าจะเคี้ยวปอปคอรนสักคำ อั้นตดนานเป็นชั่วโมง หนังดำเนินเรื่องได้สนุกน่าสะพรึงดีมาก กดดันลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่องเล่าเรื่องราวแบบก้าวกระโดดแต่ไม่ได้ทำให้เข้าใจยาก ขอชื่นชมนักแสดงทุกคนเพราะการถ่ายทอดทางสีหน้าอาการเข้าถึงคนดูอย่างเรา ๆ ได้ดีจริงครับ ว่าเจ็บปวดเพียงใดต้องอดกลั้นขนาดไหน กับหนังประทับใจในปี 2018 ของผมคือ A Quiet Place(ดินแดนไร้เสียง) จึงเป็นหนังสยองขวัญ แบบไม่พูดมากเจ็บคอ ที่สนุกมากได้ทั้งความน่ากลัวลุ้นระทึกกดดัน โดยไม่ต้องเน้นขายตุ้งแช่ มีดราม่าเล็ก ๆ เล่าเรื่องได้ดี ไม่ต้องมากซีจี ไม่ต้องมากคนแสดง ไม่ต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล ได้ข่าวว่าจะมีภาคต่อ ดีใจมากๆรอๆๆอยากดูๆ
หนังประทับใจในปี 2018
Be With You ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน …
เป็นหนังรักที่ตราตรึงกินใจเราจริงๆ หนังเล่าถึง พ่อลูกคู่หนึ่งที่สูญเสียภรรยาและแม่ของลูกไป แต่ก่อนเธอจะจากไปเธอได้เขียนนิทานฝากเอาไว้ให้ลูกน้อยว่า ฤดูฝนปีหน้า เธอสัญญาจะกลับมาหา 1 ปีผ่านไปฤดูฝนเวียนมาถึง เธอก็กลับมาตามสัญญาจริงๆ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง หรือความฝัน หรือเป็นปาฏิหาริย์หนึ่งในล้าน แต่สองพ่อลูกก็ยินดีรับมันไว้ และเฝ้าภาวนาให้ฤดูฝนนี้มันยาวนานต่อไปอีกสักนิดด้วยเถอะ…หนังมีฉากจำเด่นๆหลายฉากที่สวยงามมีพลัง จุดเด่นของหนังรักที่ผสมผสานกับพล๊อตได้อย่างแนบเนียน สอดแทรกความอบอุ่นซาบซึ้งเมโลดราม่าสไตล์ ไปเลยเต็มตัว หนังเล่าเรื่องได้ลื่นไหล ทั้งยังดูง่ายและมีความสนุกความสุข ทำให้เราได้มุมมองระหว่างการ “ทำตามสมอง” กับการ “ทำตามหัวใจ”มันอาจไม่มีคำตอบถูกผิดที่แน่ชัดในสถานการณ์นี้ แต่เราอาจต้องคิดดูให้ดีๆ… ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ ว่าหนทางไหนกัน ที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียใจในภายหลังหากไม่เลือกมันขึ้นมา เพราะบางครั้ง เราอาจใช้ชีวิตไปจนถึงจุดที่ได้เจอกับปาฏิหาริย์ก็ได้
FB- Todsakorn Sornpuek
หนังประทับใจในปี 2018
Be With You ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน …
เป็นหนังรักที่ตราตรึงกินใจเราจริงๆ หนังเล่าถึง พ่อลูกคู่หนึ่งที่สูญเสียภรรยาและแม่ของลูกไป แต่ก่อนเธอจะจากไปเธอได้เขียนนิทานฝากเอาไว้ให้ลูกน้อยว่า ฤดูฝนปีหน้า เธอสัญญาจะกลับมาหา 1 ปีผ่านไปฤดูฝนเวียนมาถึง เธอก็กลับมาตามสัญญาจริงๆ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง หรือความฝัน หรือเป็นปาฏิหาริย์หนึ่งในล้าน แต่สองพ่อลูกก็ยินดีรับมันไว้ และเฝ้าภาวนาให้ฤดูฝนนี้มันยาวนานต่อไปอีกสักนิดด้วยเถอะ…หนังมีฉากจำเด่นๆหลายฉากที่สวยงามมีพลัง จุดเด่นของหนังรักที่ผสมผสานกับพล๊อตได้อย่างแนบเนียน สอดแทรกความอบอุ่นซาบซึ้งเมโลดราม่าสไตล์ ไปเลยเต็มตัว หนังเล่าเรื่องได้ลื่นไหล ทั้งยังดูง่ายและมีความสนุกความสุข ทำให้เราได้มุมมองระหว่างการ “ทำตามสมอง” กับการ “ทำตามหัวใจ”มันอาจไม่มีคำตอบถูกผิดที่แน่ชัดในสถานการณ์นี้ แต่เราอาจต้องคิดดูให้ดีๆ… ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ ว่าหนทางไหนกัน ที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียใจในภายหลังหากไม่เลือกมันขึ้นมา เพราะบางครั้ง เราอาจใช้ชีวิตไปจนถึงจุดที่ได้เจอกับปาฏิหาริย์ก็ได้
FB- Todsakorn Sornpuek