Skip to content

6 เรื่องลึกชวนรู้ของจระเข้ใน The Pool นรก 6 เมตร

หลังจากตัวอย่างแรกของ The Pool นรก 6 เมตร เผยออกมา ก็มีคำถามน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และเราได้พูดคุยกับคุณอมรเทพ สุขมานนท์ ผู้เป็น Project Development Manager และ Producer ของทีโมเมนต์ เพื่อล้วงลึกข้อมูลน่าสนใจของหนังออกมาก่อนที่เราจะได้ดูหนังกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งเราขอนำเสนอด้วย 6 ประเด็นน่าสนใจของสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดของหนังกันก่อนครับ นั่นก็คือ “จระเข้”

หลายคนสงสัยว่าจระเข้ไปอยู่ในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง จระเข้มีบทบาทแค่ไหน ผู้สร้างใช้วิธีใดบ้างในการสร้างจระเข้ขึ้นมา เป็นจระเข้จริงหรือหลอก และนี่คือ 6 เรื่องของจระเข้ในหนัง The Pool นรก 6 เมตร ที่เราได้สัมภาษณ์มาครับ


1. จากเรื่องย่อในโบรชัวร์ที่คานส์บอกชัดว่า เป็นเรื่องราวการเอาตัวรอดในสระที่มีจระเข้เป็นอุปสรรคสำคัญ แต่ตอนเผยเรื่องย่อฉบับไทยกลับไม่พูดถึงเลย ให้คนดูเดาไปต่างๆ นานา ผมเห็นบางคนเดาว่าอาจเป็นสัตว์ประหลาดต่างดาวด้วย อันนี้เป็นลูกเล่นทางการตลาดอะไรรึเปล่าครับ

ตอบ: ไม่ได้ตั้งใจครับ (หัวเราะ) คืออันนั้นเป็นการไปเปิดบูธขายหนังที่ต่างประเทศ มันเลยไม่สามารถบอกอะไรทีละสเต็ปได้น่ะครับ ซึ่งจะต่างจากวิธีโปรโมตในบ้านเรา ที่กว่าหนังจะเข้าเราสามารถค่อยๆ เผยอะไรเป็นลำดับได้ แล้วพอดีเรื่องนี้มันเป็นหนังที่มีตัวละครน้อยด้วย ถ้าบอกทุกอย่างหมดในคราวเดียว ก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเอาเวลาที่เหลือไปทำอะไร ถ้าใครคิดว่าจะได้เจอสัตว์ประหลาดก็ต้องขออภัยด้วย (หัวเราะ)

 

2. เมื่อเปิดเผยเรื่องจระเข้ออกมาบนใบปิดและหนังตัวอย่างแล้ว มีคนสงสัยกันเยอะมากว่าจระเข้ไปอยู่ในสระ หรือขึ้นมาจากท่อได้ยังไง ในหนังจะมีการอธิบายตรงนี้ไหมครับ

มีครับ แต่ที่มาก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอก คือตอนต้นจะมีปูไว้นิดหน่อยว่ามันมีเหตุการณ์น้ำท่วมแล้วมีจระเข้หลุดพอดี แต่จระเข้ไม่ได้เข้ามาในสระทางท่อระบายน้ำนะครับ ฉากที่เห็นในตัวอย่างนั่นอยู่เกือบกลางเรื่องแล้ว เพียงแต่เราไม่สามารถใส่ฉากเปิดตัวจระเข้จริงๆ ไว้ในหนังตัวอย่างได้ เพราะมันจะต้องการการปูอะไรอีกพะรุงพะรังพอสมควร

 

3. จระเข้ปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้เยอะไหมครับ

จระเข้หล่นลงมาในสระตั้งแต่นาทีที่ 25 ครับ แล้วก็อยู่กับเรื่องไปจนจบ เพียงแต่สถานะในช่วงแรกจะเป็นผู้ประสบภัยเหมือนกับพระเอกนางเอก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นศัตรูคู่อาฆาตตอนประมาณกลางเรื่อง

 

4. เห็นในเบื้องหลังว่ามีการใช้จระเข้จริงในการถ่ายทำด้วย แล้วจระเข้ในหนังจะเป็นของจริงกี่เปอร์เซนต์ ซีจีกี่เปอร์เซนต์ครับ

ตอบเป็นเปอร์เซนต์อาจจะยากหน่อย เพราะหลายคัทผมก็ไม่แน่ใจครับว่าเป็นของจริงหรือซีจี (หัวเราะ) คือจริงๆ ตอนแรกพี่พิงคิดจะใช้จระเข้จริงเป็นหลัก เพราะไม่อยากให้เป็นภาระของทางฝั่งซีจีเกินไป หลายคัทก็เลยจะถ่ายแบบใช้จระเข้จริงมา แต่ปรากฏว่าพอช็อตที่เป็นซีจีทยอยทำเสร็จออกมา ปัญหาคือเค้าทำมาเหมือนกว่าของจริงเสียอีก คือพอนึกออกมั้ยครับว่า เวลาดูหนังเราจะคิดว่าจระเข้มันต้องขยับ ต้องหายใจแบบนี้ คำรามแบบนี้ แต่จริงๆ จระเข้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ธรรมชาติของมันชอบอยู่นิ่งๆ อาจเพราะตอนถ่ายอากาศร้อนมากด้วย มันก็คงขี้เกียจทำงานน่ะครับ (หัวเราะ) ผลก็คือพอจระเข้ซีจีเสร็จ จระเข้จริงดูเหมือนจระเข้ยางไปเลย สุดท้ายทาง Riff Studio ก็เลยต้องกลับไปไล่เปลี่ยนจระเข้จริงให้กลายเป็นซีจีเกือบทั้งหมด

 

5. จากภาพในหนังตัวอย่างที่ออกมา จระเข้ก็ค่อนข้างดูดีเลยนะครับ

ช็อตที่อยู่ในหนังตัวอย่างเป็นจระเข้ซีจีทั้งหมดครับ โปรเจกต์นี้ตั้งแต่ที่อ่านบทจบเราก็เรียก Riff มาคุยทันทีว่าเค้าทำจระเข้ได้เหมือนแค่ไหน ซึ่งตอนนั้นเครื่องหมายการค้าของ Riff ยังเป็นแอนิเมชั่นอยู่ แต่เค้ายืนยันว่าทำได้ แล้วทำได้เหมือนด้วย ซึ่งทางเราก็ให้เครดิต Riff อยู่แล้ว ถ้า Riff ยืนยันอย่างนั้นเราก็พร้อมให้ไฟเขียว โปรเจกต์ถึงได้เปิด แต่ก็ยอมรับนะครับว่าการนั่งดูเคนปล้ำกับอะไรเขียวๆ ในกอง บางทีเราก็ชักสับสนเหมือนกัน ว่าตกลงนี่เรากล้าหรือเราบ้ากันแน่ (หัวเราะ) แต่ในวันที่งานเสร็จ ผมยังแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าซีจีบ้านเราจะดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว ด้วยทุนที่แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยในหนังต่างประเทศด้วยซ้ำ

 

6. สัปดาห์หน้าหนังก็จะฉายแล้ว ตอนนี้กระแสของหนังเป็นยังไงบ้างครับ หลังจากปล่อยตัวอย่างและใบปิดที่เผยจระเข้ออกไป

ในแง่ของการรับรู้ถือว่าค่อนข้างโอเคเลยครับ ดีสุดในบรรดา 3 เรื่องที่ทำมา แม้เสียงวิจารณ์จะค่อนข้างหลากหลาย บางคนบอกอยากดูเพราะจระเข้ บางคนบอกมีจระเข้เลยไม่อยากดู (หัวเราะ) แต่อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับหนังที่ไปในกลุ่มแมสมากๆ แต่อาจจะมีติดบ้างกับบางความเห็นที่บอกว่า หนังเรื่องนี้ไม่ลงทุนเพราะถ่ายแค่โลเกชั่นเดียว อันนี้คือเค้าพูดไปโดยไม่มีความรู้เรื่องโปรดักชั่น เค้าคงไม่รู้ว่าการปิดสระน้ำลึก 6 เมตร เป็นเวลา 1 เดือนเต็มเพื่อถ่ายหนัง ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ แค่ค่าปล่อยน้ำอย่างเดียวก็หลายแสนแล้ว ไหนจะเซ็ตเป็นสระร้าง แล้วพอถ่ายเสร็จก็ต้องเคลียร์สระเติมน้ำคืนให้เขาอีก เบ็ดเสร็จแล้วเป็นตัวเงินประมาณล้านกว่า เพื่อให้เค้ามาบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ลงทุนค่าโลเกชั่น ผมค่อนข้างเป็นกังวลกับความเห็นพวกนี้มากกว่า เพราะมันสร้างทัศนคติที่ผิดๆ ให้คนดูหนังไทยได้

2 Comments »

Leave a Reply

%d bloggers like this: