ในบรรดาหนังแฟรนไชส์จากบริษัทลูกที่ดิสนีย์มีอยู่ในมือ หนังของมาร์เวลคือหนังที่ทำเงินให้ดิสนีย์มากที่สุดก็ว่าได้ สร้างมาแล้ว 19 เรื่อง ทำเงินรวมกันในตลาดโลกถึง 16 พันล้านเหรียญ และหนังชุด Avengers ก็เป็นหนังที่ทำเงินติดอันดับโลกอันดับต้นๆ Avengers: Infinity War ก็กำลังสร้างปรากฏการณ์ด้านรายได้ครั้งใหม่ ดังนั้นทำไมจะต้องมีแค่แฟรนไชส์ชุดเดียวด้วยละ

บ็อบ ไอเกอร์ ประธานกรรมการผู้บริหารของดิสนีย์ได้บอกระหว่างการประชุมเพื่อแจ้งผลประกอบการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นว่า ดิสนีย์มีแผนขยายจักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวลออกไปอีก “เราประชุมกันอยู่เรื่อยๆ กับทีมมาร์เวลของเรา และเราได้วางแผนหนังมาร์เวลให้พาเราไปได้ด้วยดีในอีกสิบปีข้างหน้า เรากำลังจะลองของใหม่ในสิ่งที่เราจะเรียกว่าหนังแฟรนไชส์ชุดใหม่นอกเหนือจาก Avengers”

ส่วนใครที่ห่วงว่า Avengers คงจบลงหลังภาค 4 แล้ว ไอเกอร์ก็บอกว่า “แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่ได้เห็นหนังชุด Avengers อีก ในเส้นทางข้างหน้า เราแค่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเท่านั้น”

มาร์เวลประกาศอย่างเป็นทางการแค่เพียง Guardians of the Galaxy Vol. 3 ในตอนนี้ กับภาคต่อ Spider-Man ที่สร้างให้โซนีพิคเจอร์ส แต่ที่เหลือยังอยู่ในขั้นเป็นรายงานข่าวหรือยังไม่ได้ยืนยันเป็นทางการ ได้แก่ภาคต่อ Doctor Strange กับ Black Panther และหนังเดี่ยว Black Widow ซึ่งดูเหมือนว่าจะรู้แน่ชัดจริงๆ ก็หลังจาก Avengers 4 ออกฉายครับ

ไอเกอร์เสริมถึงเป้าหมายของ Avengers 4 ด้วยว่า “จะมีบทสรุปที่สำคัญ” ของเรื่องราวที่ปูมาตั้งแต่ Iron Man ภาคแรกในปี 2008 ครับ “จากความนิยมต่อตัวละครและต่อแฟรนไชส์ชุดนี้ ผมไม่คิดว่าผู้คนควรสรุปว่าจะไม่มีหนัง Avengers อีก”

แต่ผู้ชมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าเมื่อมีหนัง Avengers อีก ตัวละครที่เป็นที่นิยมตัวไหนจะอยู่ถึงตอนนั้นบ้าง

ที่มา: THR