นักวิจารณ์ได้ชมหนัง Star Wars: The Last Jedi กันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่งได้รับอนุญาตให้ปล่อยบทวิจารณ์ออกมาได้ในวันนี้ครับ ก่อนหนังฉายไม่กี่วัน และดูเหมือนว่าหนังจะได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม
ก่อนที่จะเจาะไปที่ความเห็นของนักวิจารณ์ มามองภาพรวมจากคะแนนที่เว็บไซต์ประเมินบทวิจารณ์ทำออกมาก่อนครับ เริ่มจาก Rotten Tomatoes ที่รวบรวมบทวิจารณ์มาในตอนนี้ 156 แหล่ง มีนักวิจารณ์ให้หนังสอบผ่าน 94% ด้วยคะแนนเฉลี่ย 8.3/10 เทียบกับ The Force Awakens ตอนที่มี 378 บทวิจารณ์แล้ว ถือว่าสูงกว่านิดหน่อย ซึ่งทำคะแนนไป 8.2/10 และ 93% คะแนนในตอนนี้ยังมีโอกาสเพิ่มหรือลดครับ เพราะยังมีบทวิจารณ์อีกครึ่งที่ยังไม่เข้ามา แต่จากแนวโน้มแล้วน่าจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
คะแนนจากการประเมินของ Metacritic ก็สูงกว่านิดหน่อยเช่นกัน โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 85/100 จาก 44 บทวิจารณ์ มากกว่า The Force Awakens ที่ได้คะแนนอยู่ที่ 81/100 และสูงกว่า Rogue One มากๆ ซึ่งคงคะแนนอยู่ที่ 65/100
ความเห็นของนักวิจารณ์สอดคล้องกับคะแนนตรงที่หลายคนชอบมากกว่า The Force Awakens ครับ และมีบางคนยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ Empire Strikes Back เลย โดยส่วนที่ดีที่ได้รับคำชมมากที่สุดก็คือการเล่าเรื่องได้ถึงอารมณ์ ทั้งสุขและเศร้าของผู้กำกับไรอัน จอห์นสัน
บทวิจารณ์จากนิตยสาร Time ชมว่า “หนังของผู้กำกับไรอัน จอห์นสัน มีอารมณ์ขันเกี่ยวกับตัวเอง และอารมณ์ของความสุข แต่ความมหาศาลของอารมณ์ในตัวมันนี้แหละ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางงานที่ใช้กรีนสกรีนยิ่งใหญ่อลังการ คือเทคนิคพิเศษที่ดีที่สุดของหนัง”
indieWire ให้เกรดหนังที่ A- และชมผู้กำกับว่า “ความสามารถของจอห์นสันในการสร้างสิ่งที่สดใหม่และสร้างอารมณ์ที่ให้รู้สึกร่วมได้ จากหนังที่เป็นอสุรกายของบริษัทยักษ์ใหญ่บอกเราว่า ไม่ใช่นักเล่าเรื่องที่มีจิตใจอันเสรีทุกคนจะถูกครอบงำด้วยด้านมืดของฮอลลีวู้ดได้ และบางคนยังให้ความหวังใหม่อีกด้วย”
จาก LA Times บอกว่า “The Last Jedi ที่เขียนและกำกับโดยผู้กำกับอินดี้ที่มีพรสวรรค์อย่างไรอัน จอห์นสัน สร้างสมดุลได้อย่างเป๊ะทั้งในแง่ความแปลกใหม่และการหวนนึกถึงของเก่า ในการเล่าเรื่องที่น่าพึงพอใจกว่าเดิม”
จาก Chicago Tribune บอกว่า “เป็นหนังที่ยาวที่สุดของหนังชุดนี้ แต่กลับไม่รู้สึกแบบนั้น ผมไม่เคยรู้สึกร่วมกับหนัง Star Wars เท่านี้นับตั้งแต่การโต้กลับของจักรวรรดิใน The Empire Strikes Back”
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ปลื้มกับหนังมากนัก บทวิจารณ์ของ CNN ดูเหมือนจะชอบหนังน้อยกว่าภาคที่แล้วในบางแง่ “ขณะที่ The Force Awakens ทำหน้าที่ได้น่าพอใจในการสืบทอดหนังชุดนี้ด้วยการสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมา แต่ Last Jedi กลับติดขัดในเรื่องนี้ หนังมีส่วนที่เท่กว่าก็จริง แต่ไม่อาจมีพลังในตอนจบมาชดเชยได้ ข้อเสียยังชวนให้แคลงใจต่อความมั่นใจของลูคัสฟิล์มที่ประกาศออกมาก่อนหนังฉายในการให้ไรอัน จอห์น ส่วนเป็นพลังเบื้องหลังไตรภาคใหม่ที่จะสร้างแยกออกไปในจักรวาลอันไกลโพ้นด้วย”
CNN สงสัยชอบ Star Trek ละมั้ง เสียงส่วนใหญ่หยบกลบเสียงส่วนน้อยอยู่แล้ว
Day 1 อยู่แล้ว
ว่าแต่แปลกใจนะเนี่ย ผมนึกว่า Rogue One จะถูกใจแฟนสตาร์วอร์สมากกว่าซะอีก เพราะมีท่านเวเดอร์บู๊แบบโหด ๆ ให้เห็นซะที
คาดว่ายืนโรง2เดือนเป้นแน่แท้(สงสารหนังไทยอย่าง9ศาสตราในเวลานั้นจริง กลัวพ่อแม่จะจูงมือลูกไปปดูสตาร์วอร์แทนนี่ซิ)
โอ้ว โร้ควัน ผมชอบมากๆเลยนะนั่น ทำไมได้คะแนนน้อยจังหว่า
ถ้าลุคพูดว่า ทำไมเราย้งไม่วาร์ป คงได้คะแนนสูงกว่านี้แน่ๆ
“ทำไมเรายังไม่วาร์ป”
“ไฮเปอร์ไดรฟ์เสีย ซ่อมแพพ”
มีความสร้างสรรค์ในบทดีครับ ไม่ยึดติดตามสูตรสำเร็จที่คนดูจะเดาทางได้หมด
อาจมีความเนิบๆ ช้าๆ บ้างในช่วงแรกๆ แต่ก็จำเป็นเพื่อปูอารมณ์คนดีในช่วงท้ายๆ เรื่อง
คนดู
เห็นด้วยครับ บทดูสดใหม่ เคารพในแนวทางเดิมๆแต่ไม่เดินตาม ผู้กำกับมีวิธีถ่ายทอดเรื่องราวในแบบตัวเอง ดูมีกึ๋นกว่าภาค 7 ของ J.J. ซะอีก มีความเป็นหนังดิสนี่อยู่เข้มพอสมควรแต่ดันเดาทางยาก พลิกไปพลิกมา ครบเครื่องดี
สุดท้าย ลุคก็คือลุค ดีใจที่ได้เห็นลุคทำตัวเป็นเด็กอีกครั้ง 555555
ภาคนี้ดูเพลิน และพลังของเจไดนี่เมพจริง ๆ
ไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งจักรวาลถึงมีแต่คนศรัทธา ยำเกรง
เรียกว่าใครสามารถเป็นเจไดได้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ฮาๆๆ
แนวคิดลึกซึ้งขึ้น
แม้จะมีส่วนที่ติดขัดไปบ้างบางช่วง
และดูมีความขัดแย้งกันระหว่าง
หนังสตาร์วอร์สเก่า กับ ทิศทางใหม่นี้
แต่ที่แน่ๆ ฉากเทพๆ ติดตาเยอะมาก
มากจนถ้าเอามาถ่ายเพิ่มอีกครึ่ง-1ชั่วโมง
พี่ทำเป็นภาคควบ 8-9 จากภาคนี้ภาคเดียวได้เลย
ฉายปีละครึ่ง
เต็มอิ่มเลยครับ ครบทั้งดราม่า ตลก แอคชั่น อิพิค (แต่ส่วนตัวชอบ Force awaken มากกว่านิดหน่อย) แต่ก็ชอบภาคนี้มากๆสมกับที่รอคอย รายละเอียดเยอะ ช่วงต้นๆจังหวะเดินเรื่องมันแปลกๆหน่อย พอหลุดออกมากลาง จนถึงไคลแม็กซ์แล้ว สนุกมาก เดาทางไม่ถูกจริงๆหลอกไปหลอกมา มีฉากเซอร์ไพรส์เยอะมาก ผกก.ใส่สไตล์การเล่าเรื่องแบบใหม่ๆมาสู่แฟรนไชส์นี้ได้ลงตัวเลยครับ ติอีกนิดคือตอนจบไม่ได้ดึงให้เราอยากดูภาคต่อไปมากพอครับ ไม่เหมือนภาคที่แล้ว แต่สรุปว่าผ่านครับ ชอบมากๆอยากดูอีกรอบ ….
อิ่มจริง ยืนยัน เซอร์ไพรซ์แบบ อึ้งก็เยอะ ตัวร้ายกระจอก นึกว่ามาลาคิดแห่งธอร์ เจไดตามตำราไม่มีอีกแล้ว ภาคนี้ดีกว่าภาคที่แล้ว แต่ฉากดวลดาบอย่าไปคาดหวัง ไม่มีอะไรพิเศษ
ผมว่าแม้แต่ดวลดาบก็สนุกนะ
ต้นฉบับคือซามุไร
1-3 คือ หนังจีน
นี่คือ fight for life
แถมผมมองว่า hologram Luke
ดวลกับ Ren ยิ่งเทพของเทพ
ฉากลุคกับเรนนี่ดีมากเลยนะ ถึงแม้จะสั้นแต่ดีไซน์ได้ดีมากๆ ทั้งเท่ทั้งลุ้น
จะคาดหวังการควงดาบใส่กันรัวๆแบบ prequel ไม่ได้หรอก เนื้อเรื่องมันคนละยุคกัน ถ้าอยู่ดีๆภาคนี้มีคนควงดาบรัวๆใส่คงจะงงว่ามันไปฝึกมาจากไหนกัน เจไดเก่งๆมันหายไปหมดทั้งจักรวาลแหล่วววว
@impascetic เห็นด้วยครับ อย่าง ภาค1-3 เจไดมีอารยธรรมอยู่ ทุกคนได้รับการฝึก ภาค4-6 ถึงจะดูเหมือนฟันเฉื่อยๆ แต่ก็เหมาะสมกับวัย(โอบีวัน)และลุคที่เพิ่งเรียนการฟันดาบ มาไตรภาคหลัง ก็สู้แบบที่เหมาะสมดี
เจได ได้อภิญญาแถมนิพพานได้เองอีกด้วย ถึงร่างไม่อยู่แล้วแต่จิตวิญญาณจะยังคงอยู่กับเรย์ ดั่ง โยดากับลุค
5555