ถ้าจะมีสักเหตุผลให้หนัง Mad Max: Fury Road ไม่ได้สร้างภาคต่อ ก็อาจจะเพราะด้วยข้อพิพาทนี้ระหว่างผู้กำกับจอร์จ มิลเลอร์ และ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ครับ ซึ่งหลังจากที่หนังฉายมา 2 ปีแล้ว ได้คำวิจารณ์ด้านดีมากมาย ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 6 สาขา และทำเงินทั่วโลก 378.9 ล้านเหรียญ (ซึ่งถือว่าขาดทุน) มิลเลอร์ได้ฟ้องเรียกเงินโบนัสจากวอร์เนอร์ฯ 7 ล้านเหรียญ

ในรายงานของ SMH บอกว่า เคนเนดี้ มิลเลอร์ มิทเชล ซึ่งเป็นบริษัทสร้างหนังของมิลเลอร์ได้ฟ้องวอร์เนอร์ฯ ต่อศาลสูงของประเทศออสเตรเลียด้วย 2 ประเด็นด้วยกันครับ ประเด็นแรกคือเรื่องเงินโบนัส 7 ล้านเหรียญที่วอร์เนอร์ฯ ไม่ยอมจ่ายให้ ตามข้อตกลงในสัญญาที่ระบุว่า หากมีการคำนวณค่าใช้จ่ายสุทธิในการสร้างหนังออกมาแล้วไม่เกิน 157 ล้านเหรียญ

ทางบริษัทของมิลเลอร์กับวอร์เนอร์ฯ ขัดแย้งกันในเรื่องการคำนวณ “งบสุทธิ” นี้ครับ โดยวอร์เนอร์เห็นว่าหนังใช้งบเกิน ขณะที่ทางมิลเลอร์มองว่า การที่หนังใช้งบเกินมาจากการตัดสินใจในหลายๆ เรื่องของวอร์เนอร์ฯ เองที่ทำให้โครงการหนังต้องเปลี่ยนแปลงหลายครั้งและต้องล่าช้า ทำให้งบบานปลายและต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย แล้ววอร์เนอร์ฯ นำการตัดสินใจเหล่านี้ไปร่วมคำนวณด้วย หากตัดงบส่วนนี้ออกไป ทางเคนเนดี้ มิลเลอร์ มิทเชล มองว่า หนังใช้งบต่ำกว่าเป้า

ไม่เพียงแค่นั้น ทางบริษัทของมิลเลอร์ยังอ้างด้วยว่า ทางวอร์เนอร์ฯ “ทำให้หลงเข้าใจผิดและกระทำการหลอกลวง” โดยไม่แจ้งว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแผลงการตัดสินใจและการทำให้ล่าช้าของวอร์เนอร์ฯ เอง จะถูกนำไปคำนวณเป็นทุนที่ใช้สร้างหนัง

ส่วนอีกประเด็นก็คือ เคนเนดี้ มิลเลอร์ มิทเชล ละเมิดข้อตกลงในสัญญาที่ระบุว่าหากต้องการหาผู้ร่วมลงทุนในการสร้างหนังเรื่องนี้ วอร์เนอร์ฯ ต้องยื่นข้อเสนอให้แก่บริษัทของมิลเลอร์ก่อน แต่วอร์เนอร์ฯ กลับไป RatPac Entertainment เข้ามาร่วมลงทุนก่อน 12.5% ของทุนสร้างหนัง

ทางเคนเนดี้ มิลเลอร์ มิทเชล นั้นอยากที่จะร่วมงานกับวอร์เนอร์ฯ แต่จากการพยายามยื่นเรื่องคุยกันมาตลอดหนึ่งปีกลับไม่ได้ทางออกที่น่าพอใจ จึงต้องยื่นเรื่องให้กฎหมายมาดำเนินการให้

ทางวอร์เนอร์ฯ ตอบเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า “เราไม่เห็นด้วยและจะต่อสู้การกล่าวอ้างนี้อย่างถึงที่สุด”