Justice League ทำรายได้เปิดตัวในสหรัฐ $94 ล้าน และจากตลาดนอกบ้าน $185.5 ล้าน

นักวิเคราะห์ของฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจค่อนข้างเชื่อถือได้จริงๆ ถ้าไม่แม่นยำก็ใกล้เคียง จากตัวเลขรายได้วันศุกร์ที่ Justice League ทำเงินไปราว 38 ล้านเหรียญ ก็ประเมินได้ว่าหนังไม่น่าจะเปิดตัวถึง 100 ล้านเหรียญ และก็ไม่ถึงจริงๆ ครับ รายได้เปิดตัวของหนังในอเมริกาเหนืออยู่แค่ $94 ล้าน (ต่ำกว่าตัวเลขประเมินเบื้องต้นที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่าได้ $96 ล้าน) ถือเป็นรายได้ที่น่าผิดหวังถ้าเทียบกับการทุ่มเทงบประมาณในด้านงานสร้างและการตลาดไปจำนวนมาก และเทียบกับวัตถุดิบที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีอย่างซูเปอร์แมน, แบทแมน, วันเดอร์วูแมน และเดอะแฟลช
$94 ล้านนี้ถือเป็นตัวเลขรายได้เปิดตัวในบ้านที่ต่ำที่สุดในบรรดาหนังของจักรวาลภาพยนตร์ดีซีเลย ยังไม่ต้องไปเทียบกับคู่แข่งอย่างมาร์เวลสตูดิโออย่าง Thor: Ragnarok ที่เปิดตัวในบ้านไปสองสัปดาห์ก่อนด้วยรายได้ $122.7 ล้าน
อย่างไรก็ดี รายได้นอกบ้านนั้นดีกว่าพอสมควรครับ ทำเงินไปราว $185.5 ล้าน จาก 65 ประเทศ และได้จากจีนไปสูงสุด $51.7 ล้าน รวมแล้วทำรายได้เปิดตัวทั่วโลก $281.5 ล้าน (ต่ำกว่าที่คาดการณ์ในทีแรกว่าจะทำเงินเปิดตัวทั่วโลกระดับ $325 ล้านขึ้นไป
วอร์เนอร์ฯ พยายามดึงผู้ชมเพศหญิงให้มาดูหนังโดยพยายามชูกัล กาด็อต และวันเดอร์วูแมนอย่างหนัก แต่ในรายงานบอกว่าผู้ชมผู้หญิงกลับไม่ได้มาชมตามเป้า หนังมีผู้ชมในสหรัฐส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ชาย 63% (เทียบกับ Thor: Ragnarok ที่มีผู้ชาย 57%)
สำหรับคะแนน CinemaScore จากผู้ชมหลังจากดูหนังแล้วได้ไประดับปานกลางครับ นั่นคือ B+ ค่อนข้างดีกว่าคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์
ด้วยรายได้เปิดตัวระดับนี้ วอร์เนอร์ฯ คงต้องหืดขึ้นคอเพื่อให้คุ้มกับทุนสร้างที่มีรายงานว่าใช้ไปราว 300 ล้านเหรียญครับ
ที่มา: THR

 

 

 

20 comments

  1. น่ากลัวว่าวอร์เนอร์จะถอดใจไม่สร้างหนังฮีโร่ต่อแล้ว อควาแมนเป็นเรื่องสุดท้าย จากนั้นก็พักยาวไป 10 ปี

    • ที่แน่ๆว่าทำต่อ คง wonder woman ครับ โกยเงินขนาดนั้น

      หลัง อะควาแมน ยังมี shazam ที่เริ่มแคสท์ดาราแล้ว

      แต่ กลัวใจว่า วอร์เนอร์ อาจล้มเลิก ความคิดจะพัฒนา จักรวาล ดีซี บนหนังโรง ต่อเนี่ยสิ แล้วไปทำหนัง stand alone ที่ไม่โยงหากัน เช่น หนังเดี่ยวๆของ joker หรือ แบทแมนภาค 50 …..my god

    • ความจริงที่วันเดอร์วูเมน ทำเงินเยอะนี่แหละ ที่จะยิ่งทำร้ายซีรี่ย์หนักเข้าไปอีก เพาะมันจะกลายเป็นส่งสัญญาณผิด ๆ ว่าให้ทำฮีโร่หญิงนำมาก ๆ ขึ้นไป

      • ผมชอบนะ ฮีโร่หญิงนำเนี่ย

        แต่ผมว่าถ้าอยากดึงผู้หญิงให้ดูเยอะๆ มันต้องเน้นคู่จิ้นมากกว่านะ ดูธอร์สิ เพียบ

      • อีดิทไม่ได้ เลยต้องตอบต่อ

        ที่พูดแบบนี้เพราะต่อให้ไม่มีหนัง DC วอร์เนอร์ก็ไม่ได้เจ็บหนักเท่าฟ๊อกซ์ไม่มี X-Men หรือ โซนี่ไม่มีสไปเดอร์แมน ช่วง 2-3 ปีมานี่ วอร์เนอร์สร้างแฟรนไชล์ใหม่ขึ้นมาได้อยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่อาจจะเทียบไม่ได้กับแฟรนไชล์พันล้านแบบมาเวล หรือสตาร์วอร์ส เท่านั้นเอง

        คือหวังว่าวอร์เนอร์จะแยกการควบคุม DC Entertainment ให้ออกจากการควบคุมของสตูดิโอนะ แต่ดูจากคำสัมภาษณ์ เควิน ซึจิฮาระ ที่ดูจะมี Passion กับหนัง DC มากเป็นพิเศษกว่าแฟรนไชล์อื่นแล้วก็น่าจะยาก เจฟ จอห์น เลยเป้นได้แค่ที่ปรึกษา ซึ่งก็น่าเสียดายนะ เพราะบทที่แกเขียนให้วีดีโอเกม Arkham-Knight มันดีจริง ๆ ทำเป็นหนังได้เลย

      • ให้ฮีโร่หญิงนำมากๆ ไม่ได้เป็น “สัญญาณผิดๆ” อย่างที่คุณทึกทักเอาหรอกนะ ทั้งหมดถ้าบทมันดีเรื่องมันสนุก มันก็ไปรอดได้ ให้ฮีโร่หญิงนำมากขึ้นก็ดี ดูแต่ฮีโร่ชายนำมาตั้งนาน น่าเบื่อแล้ว

  2. มีโอกาสสูงครับที่ WB จะถอดใจ คือ JL2 น่าจะยากมากๆแล้ว เต็มที่คือ WM ครบไตรภาคไปเลย หนังเรื่องอื่นที่ประกาศสร้างไปแล้วก็ดำเนินการแบบแยกเดี่ยวไม่เชื่อมกันมากนัก ถ้าแบบสร้างสรรค์หน่อยก็เอาWM เป็นแกนในการขยายจักรวาลออกไป หรือไม่ก็ใช้ Flashpoint มารื้อจักรวาลใหม่แต่ว่าจะไปทางไหนดีล่ะ

    • ผมไม่ขัดข้องนะ ถ้าวอร์เนอร์จะทำหนังฮีโร่เดี่ยว ๆ ไปหลาย ๆ ปีก่อนแล้วค่อยหาทางรวมทีมอีกที เพราะตอนนี้ก็ต้องยอมรับแล้วว่า Batman v Superman มันเร่งรีบ และฝืนธรรมชาติของหนังมากเกินไปจริง ๆ

      แต่เกรงว่าวอร์เนอร์จะยกเลิกทิ้งทั้งหมด แล้วหาทางรีบู๊ตใหม่หมดอีกทีในอีก 8 – 10 ปี มากกว่าน่ะสิ

  3. ผมว่าไม่ผิดที่ ผกก ทั้งสองหรอกครับ แต่ผิดที่ผู้บริหารของทั้งวอเนอร์และดีซี ที่กล้าหาญดัน JL ออกมาก่อนโดยไม่ปูพรมตัวละครมาก่อน คือมีวัตถุดิบเยอะ แต่เหมือนจะขี้เกียจทำ แยกแต่ละอย่าง เลยเอามายำรวมกันจนเละ ถ้าถามว่า ผมรอ JL ฉบับทีมีการปูตัวละครมาก่อนแล้ว รอได้ไหม รอได้ครับ ดีกว่าแบบนี้ ดีกว่ามีอะไรก็ยัดลงหม้อจนแดกไม่ได้ ถ้าหนังขาดทุนผมเศร้าไม่ ไม่เศร้า มันก็สมเหตุผลที่หนังจะเป๊ก เพราะผู้บริหารยังขาดวิสัยวิสัยทัศน์ให้คนดูได้อิน กับตัวละครมาก่อน

  4. ผมว่าดีซีไม่มีผู้นำเก่งๆอย่าง เควิน ไฟกี ของมาร์เวล หวังพึ่งแต่หนังสไตล์แซ็คซึ่งพอทำออกมาจริงๆแล้วก็เข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้าง

    • ดีซี เอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ได้มีหน้าที่สร้างหนังครับ งานสร้างหนังเป็นของวอร์เนอร์ล้วน ๆ วอร์เนอร์เคยให้ แซค สไนเดอร์ เป็นหัวเรือเหมือน เควิน ไฟกี้ ครับ แซคคือคนตัดสินใจโดยผ่านการอนุมัติของ CEO เหมือน เควิน ไฟกี้ ช่วงทำเฟส 1 ครับ ดังนั้น ต้องบอกว่า DC มีผู้นำแล้วนั่นคือ แซค สไนเดอร์ แต่วิสัยทรรศน์ของแซค มันดันไม่ค่อยได้รับความนิยมวงกว้างมากเท่านั้นเอง แต่สำหรับแฟนแบบผมนี่ค่อนข้างชอบวิสัยทรรศน์ของเขานะ แต่ก็เข้าใจว่าเมื่อความเป็นจริงคนส่วนมากไม่ชอบก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

  5. ก็ต้องรอจนจบโปรแกรมนะครับว่ารายได้จะเท่าไร ตอนนั้นคงชัดเจนขึ้น แต่คิดว่า wb ไม่ทิ้งหรอก แต่คงต้องเปลี่ยนแผนยกใหญ่ หนังบางเรื่องที่คิดว่าจะมีอาจไม่มี แต่คิดว่า อความแมน เจมส์ วาน น่าจะรายได้ดีมากๆ

  6. รายได้ไม่ถึงกับแย่จนถอดใจครับ แต่วิสัยทัศน์ยังไม่แน่น ผมว่า WB ต้องทำการบ้านหนักกว่านี้ ถึงจะกลับมายืนได้ ส่วนตัวแล้วหนัง DC ไม่ควรออกมาสดใสมาก มันควรเน้นความหนักแน่นและอิมแพคแบบที่ ww ทำคือการเล่าเรื่องที่เด็ดขาด และจริงจังสไตล์ DC แน่ตอนนี้เหมือนแค่อยากไแเงิน เลยลืมพื้นฐานกันไปเลย ยังรอดูความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นครับ

  7. ทำ Teentitan นะถ้าไม่อยากให้เรื่องไม่จริงจังมากแล้วใส่มุกตลกขายวงกว้าง เรต PG แต่ JL นี่รุ่นใหญ่ขอโทนจริงจังหน่อย

Leave a Reply to MiKiJuNaJa (@MIKIJUNaJa1)Cancel reply