โซนี่ก็เป็นอีกรายที่อยากซื้อฟ็อกซ์
นับตั้งแต่ 21st Century Fox ต้องการลดขนาดของกิจการเหลือเพียงงานข่าวและกีฬาเท่านั้น ก็กลายเป็นเหมือนหญิงสาวที่มีมหาเศรษฐีหลายคนมาตามจีบพร้อมๆ กัน และรายล่าสุดที่เข้ามาก็คือโซนี่ พิคเจอร์ส ครับ
เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่าโซนี่ได้ยื่นเจตจำนงค์อย่างเป็นทางการต่อฟ็อกซ์ว่า อยากที่จะเจรจาซื้อกิจการที่ฟ็อกซ์ต้องการจะขาย หลังจากที่ฟ็อกซ์ได้เจรจากับทั้งดิสนี่ย์และคอมแคสต์ไปแล้ว การพูดคุยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่เข้าใจว่าโซนี่ต้องการข้อตกลงเดียวกับที่เจรจากับดิสนี่ย์ นั่นก็คืองานส่วนผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ครับ
โซนี่มีปัญหาด้านการผลิตผลงานในระยะหลังมานี้มากๆ และหากการเจรจากับฟ็อกซ์สำเร็จ ก็จะทำให้ได้งานภาพยนตร์ของฟ็อกซ์มาเสริมทัพให้การผลิตของตัวเองให้มั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คงเป็นหนังชุด X-Men ครับ
อย่างไรก็ดี แม้โซนี่จะมีข้อตกลงกับมาร์เวล สตูดิโอ ในการร่วมกันสร้างหนังชุด Spider-Man ก็ไม่ได้แปลว่าจะร่วมกันสร้าง Fantastic Four หรือ X-Men ด้วยกัน หรือนำเข้าสู่จักรวาลมาร์เวล หากได้งานส่วนนี้มาจากฟ็อกซ์ครับ มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างเอง หรือให้ข้ามมาเจอกันในจักรวาล Spider-Man ของตัวเองมากกว่า
ที่มา: The Washington Post
ถ้างั้น…ได้โปรด ดิสนีย์ซื้อฟ็อกซ์ไปที
ขออย่าเป็นโซนี่เลย เห้อออ
ใครก็ตามที่ซื้อ Fox ไป แล้วไม่ใช่ Disney ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นครับ
disneyก็เยอะอยู่แล้วแบ่งให้เจ้าบ้างก็ได้น่ะ
มองแต่อะไรแคบๆนะครับ
Disney ได้ Fox ไปอีกนี่แทบจะผูกขาด อุตสาหกรรมหนังไปเลย
Disney มีทั้ง marvel มีทั้ง Lucus film ใหนจะในตลาดแอนนิเมชั่น ปัจจุบันแทบจะครองตลาดเบ็ดเสร็จ
ในวงการโทรทัศน์ก็มี ABC อีก
Disney ใหญ่มาก ได้ Fox ไปอีก คราวนี้ จะได้ Avatar ไปด้วย
ยังไงก็ไม่สนับสนุนให้ Disney ได้ Fox ไป ติ่งซุปเปอร์ฮีโร่อาจจะฟิน แต่ผมว่าการผูกจาดเป็นเรื่องไม่ดีมากๆ
อีกอย่างหนังตระกูล X-Men หนังๆ Fox ก็ทำออกมาได้ดีมาก Sony ได้ Fox ไปเชื่อว่าแนวทางจะไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่ถ้า Disney ได้ไป แนวทางจะถูกแปลี่ยนแน่นอน เป็นหนังตลก ฮีโร่ ดาดๆ ตามนโยบาDisney
ไม่อยากให้ดิสนี่ย์ได้นะ
เดี๋ยวจะผูกขาดเกินไป
ภาพที่ใช้ เหมือน สไปดี้ กำลังชักใยดึงมาหาตัวเบย
เบื่อดิสนี่ย์ ค่ายอื่นซื้อๆไปเถอะ Universal ไม่อยากให้ XMEN เป็นหนังตลกเฮฮา
เชียร์ดิสนี่ย์
ใจนึงก็อยากเห็นนะว่า ถ้า x-men ถูกจัดการด้วย มาเวล/ดิสนี่ย์ จะออกมาประมาณไหน แล้วแจม mcu ที่มีตัวละครเยอะน่าจะสนุก แต่ปัญหาคือ ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยถูกใจรสนิยมในการสร้างหนังฮีโร่ส่วนใหญ่ของดิสนี่ย์นัก ผมชอบค่ายดิสนีย์นะ แต่ชอบที่อะไรที่สมตัวกับสไตล์ของค่าย อย่างการ์ตูนเด็ก หรือหนังผจญภัยสดใสน่ารัก แต่พอดิสนี่ย์เอาสไตล์เด็กดีของตัวเองมาผสมผสานทำหนังฮีโร่ กลับรู้สึกว่ามันดูติ๋มๆ เกย์ๆ แนวๆ ไงก็ไม่รู้ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่นแคสติ้ง โทนภาพ จังหวะของมุกตลก การสร้างบุคลิกตัวละคร คือในความเป็นหนังมันเป็นหนังที่ดีนะ ไม่ได้มีอะไรผิด แต่ในด้านรสนิยมแล้วส่วนตัวไม่ชอบเท่าไหร่ หนังที่ดิสนี่ย์ซื้อมาทำแล้วคิดว่าเวิร์คคือ สตาวอร์ มากกว่า แต่ถ้าเฉพาะ f4 ก็เหมาะดิสนี่ย์อยู่นะ
เหมือนกำลังดูถูกรสนิยมคนที่ชอบหนังมาเวลภายใต้การควบคุมของดิสนี่ย์ว่าเป็นพวก ติ๋ม เกย์ เลยนะครับ จักรวาลมาเวลในปัจจุบันมีมูลค่ามากที่สุดในโลกถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ ดังนั้นผมว่าคุณควรเช็ครสนิยมตัวเองดูซักหน่อย
มุมมองของแต่ละคนต่อสื่อที่รับมันไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ และผมก็ไม่อยากหลอกตัวเองและคนอื่น ไม่ว่าจะแสดงออกมาหรือไม่คนเรามันมี ลบ บวก อยู่ในใจทั้งนั้นแหละ แม้แต่คุณก็ต้องมีรูปแบบที่ไม่ชอบหรือรู้สึกว่ามันเห่ยสำหรับคุณ ไม่ว่าจะแสดงออกมาหรือไม่ อีกอย่างมันก็ไมได้หมายความว่าใครที่ไปชอบอะไรที่ผมว่าแย่แล้วมันต้องแย่ตามไปด้วยซะหมดนี่ คนปัจจุบันส่วนใหญ่จะค่อนข้างแคร์ว่าคนจะดูถูกรสนิยมตัวเองว่าไม่เท่ ไม่ดี ต้องการให้สังคมยอมรับสไตล์ตัวเองแบบไปในทิศทางเดียวกันค่อนข้างสูง
แต่คนเรามันมีปม มีเทสต์ มีเลือกที่รักมักที่ชัง ต่างกันไปอยู่แล้ว แล้วยิ่งรสนิยมผมนี่ยิ่งค่อนข้างสวนทางกับคนหมู่มากในปัจจุบันอยู่แล้ว ดังนั้นยิ่งจะไปอ้างอิงรสนิยมกับเรื่องรายได้หรือความชอบของคนหมู่มากนี่ยิ่งแปลกไปใหญ่ แต่ไม่เป็นไร ถ้าจะว่ารสนิยมเห่ยหรืออะไรก็ได้ครับ ไม่ซีเรียส ปกติเรื่องมุมมองความชอบไม่ค่อยจะอะไรกับปัจจัยภายนอกอยู่แล้ว แล้วนี่ก็ไม่ได้ไม่ชอบไปหมดขนาดนั้นนะ มันอยู่ที่ว่าเรื่องไหนสลัดติ๋มหลุดรึเปล่า อย่างล่าสุด Thor Ragnarok ผมก็ยังชอบเลยนะ
การที่คุณไม่ซีเรียสกับการโดนดูถูกรสนิยมไม่ได้หมายความว่าคุณจะไปดูถูกรสนิยมใครต่อใครก็ได้นี่นา
ผมเข้าใจว่าคนเรามีรสนิยมต่างกัน และถูกอย่างคุณว่าครับ คนเราทุกคนมีทั้ง บวก ลบ อยู่ใจใน มีรูปแบบที่ชอบหรือไม่ชอบ แต่เราทุกคนควรมีอะไรบางอย่างในใจ เพื่อใช้ในการกรองว่าอะไรควรแสดงออกและอะไรไม่ควรแสดงออก หรือแสดงออกอย่างไรให้มันไม่กระทบหรือพาดพิงผู้อื่น
ซึ่งจริงๆ แล้วผมเห็นด้วยกับที่คุณเขียนมาเกือบทั้งหมดนั้นแหล่ะ สะดุดแค่ตรงที่คุณเลือกใช้คำในการเปรียบเทียบ ซึ่งมันดูไม่ดีเลยครับ
ครับ คือ อย่างผมที่แสดงออกแบบนี้เพราะส่วนตัวมองว่ามันแฟร์ดีถ้าหากต่างฝ่ายได้แสดงออกหรือรับรู้ในทุกแง่ คือถ้าบางส่วนอุบเก็บไว้ หรือดัดแปลงสิ่งที่เราจะสื่อมากไป กลัวว่ามันจะเป็นการทำให้ผู้รับเข้าใจผิดไปยิ่งกว่า โดยอย่างยิ่งกับที่สำหรับแสดงความเห็นอย่างนี้ด้วย
ที่จริง บางคำที่มันดูแรง จริงๆมันมีรายละเอียดต่างๆที่จะมารองรับหรือมาขยายคำเหล่านั้นในแบบที่น่าจะทำให้เข้าใจที่มาที่ไปแล้วดูซอฟท์ลง แต่เห็นว่ามันจะยาวเกิน พอพยายามตอบให้สั้นอารมณ์คำมันเลยดูแรงขึ้นมา แล้วอีกอย่างมองว่าต่อให้อธิบายยาวกว่านี้มันก็มาจากมุมมองของคนๆนึงซึ่งย่อมต้องมีคนไม่เห็นด้วยหรือหมั่นไส้ในทิศทางของเราบ้างอยู่แล้ว มันยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในโลกของความแตกต่าง ก็พูดยากครับ เรื่องพวกนี้ เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อยแล้วว่าคนทำ แต่ก็ต้องห่วงด้วยว่าจะกระทบใจคนชอบกินรึเปล่า แต่บางทีมันก็อยากแชร์ความรู้สึกน่ะ
ก็ไม่อยากให้ซีเรียสมากกับเรื่องของรสนิยมครับเพราะ โลกของความชอบไม่ชอบ มันก็หาบรรทัดฐานยากที่จะมาบอกว่าอะไรถูกผิดอย่างแท้จริง บางทีมันก็มาจากค่านิยมของแต่ละยุคสมัยนั้นๆ เวลาได้ยินได้ฟังอะไรแล้วเคืองใจก็อยากให้รับฟังบ้างปล่อยวางบ้าง อย่างผมกับเพื่อนก็รสนิยมต่างกันไปครับ เรื่ิองหนังก็เช่นกัน มีอะไรบางทีก็จิกกัดกันตรงๆ บ่อยๆ แต่ก็อยู่กันมาได้ ก็อยากให้เข้าใจครับ แต่ก็ไม่เป็นไร แล้วแต่หลักการของแต่ละคนครับ
อื่มม ก็ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ ผมก็คงไปบังคับให้ใครคิดแบบไหนไม่ได้ และใครก็คงมาบังคับให้ผมคิดแบบไหนไม่ได้เช่นกัน ก็แชร์กันไปสนุกดี ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะด่ากันยับไปแล้ว 5 5 ผมชอบในความใจเย็นและมีสติของคุณ ขอบคุณครับ