Justice League – ความเห็นนักวิจารณ์และผู้ชม

ขณะที่คะแนนเฉลี่ยของ Justice League ที่ Rotten Tomatoes ออกช้าไปหนึ่งวัน Metacritic เว็บรวมคะแนนอีกเว็บก็ได้เผยคะแนนออกมาก่อน ซึ่งเว็บนี้ต่างตรงที่จะเลือกเฉพาะคะแนนของนักวิจารณ์ชั้นนำ และให้คะแนนละเอียดกว่าครับ
คะแนนเบื้องต้นมาจาก 41 นักวิจารณ์ มีคะแนนเฉลี่ย 49/100 โดย 12 คนให้คะแนนเป็นบวก, 22 คน เป็นก้ำกึ่ง และ 7 คนเป็นลบครับ เป็นคะแนนออกมากลางๆ ดีกว่า Suicide Squad กับ Batman v Superman แต่ยังสู้ Wonder Woman ไม่ได้
ความเห็นของนักวิจารณ์ออกจะแซะแรงกว่าตัวคะแนน ด้านลบที่พูดถึงกันมากก็คือตัวร้ายที่ไม่น่ากลัวและไม่น่าเกรงขาม กับงานซีจีที่ออกมาดูค่อนข้างแย่ มีการพูดถึงส่วนผสมที่ยังไม่ลงตัวระหว่างความเป็นหนังแซ็ค สไนเดอร์ กับหนังจอส วีดอน ส่วนด้านดีของหนังอยู่ที่ทีมนักแสดง โดยเฉพาะแกล กาด็อต ในบทวันเดอร์ วูแมน, เอซรา มิลเลอร์ ในบทเดอะแฟลช และ เจสัน โมมัว ในบทอควาแมน กับส่วนที่เป็นมุกตลกดีๆ บางช่วงที่มีในหนังครับ
คะแนนสูงสุดของ Justice League ในตอนนี้มาจากริชาร์ด โรเปอร์ จาก Chicago-Sun Times ที่คะแนนเฉลี่ยออกมาราว 88/100 บอกว่า “เป็นหนังที่เล่าเรื่องการรวมทีมของซูเปอร์ฮีโร่ได้อย่างมีพลัง และสนุก” คะแนนที่สูงยังมาจากโอเว่น เกลเบอร์แมน จาก Variety ที่บอกว่า “นี่ไม่ใช่หนังเห่ยๆ มันเป็นหนังแฟรนไชส์ที่อร่อย ซึ่งสร้างระบบที่ช่วยให้หนังชุดนี้กลับเข้าที่เข้าทาง
นักวิจารณ์ที่อาจปลื้มน้อยลงมาก็คือ อีธาน แซ็คส์ จาก NY Daily News ที่มองว่าหนังมีส่วนดีอยู่พอสมควรที่ไม่ควรพลาดชม “แต่จากประวัติอันยาวนานและมากมายของตัวละครที่เป็นที่จดจำเหล่านี้บนหน้าหนังสือ หนังน่าจะทำให้เรารู้สึก…สุดยอดกว่านี้“, เช่นเดียวกับ ไท เบอร์ จาก Boston Globe ที่บอกว่า “Justice League อาจไปได้ดีกับสาวกฮาร์ดคอร์ของดีซี แต่ถ้าคุณไม่ใช่แฟน จะรู้สึกเหมือนเป็นหนังย่อยง่าย อย่างแรกคือตัวร้ายทื่อมาก
ส่วนความเห็นแรงๆ แบบสับเละก็เช่น จาก ท็อด แม็คาร์ธี นักวิจารณ์ชั้นนำของ THRมันเป็นหนังที่ฉูดฉาดจนไม่ชวนมอง และขาดจิตวิญญาณที่สร้างให้ Wonder Woman ที่ออกฉายเมื่อห้าเดือนก่อน เป็นหนังดีซีคอมมิคของวอร์เนอร์ฯ ฟอร์มใหญ่ ที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมมากที่สุดจนถึงตอนนี้ การจับซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้มารวมยำกันไม่ได้ออกมาเป็นเนื้อเดียวกันหรือทำให้เราอยากดูหนังของพวกเขาต่อในอนาคต พูดง่ายๆ ก็คือ มันไม่สนุกเอาเลย
สำหรับความเห็นของผมแล้ว ผมมองว่ามันเป็นหนังที่ทำออกมาได้น่าพอใจ แน่นอนว่าตัวละครที่โด่งดังระดับนี้ การมารวมทีมกันทั้งที่น่าจะเปรี้ยงปร้าง แต่การเริ่มต้นจักรวาลของหนังมันไม่แข็งแรงมาตั้งแต่แรก มันเป๋ตั้งแต่แรก พื้นฐานของหนังยังไม่มั่นคงพอ ผู้สร้างเหมือนรู้ตัวแล้ว และพยายามทำให้ Justice League กลับมาทรงตัวได้ มันรู้ตัวว่าตอนนี้เป็นได้แค่ซีรี่ส์การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ก็เป็นการ์ตูนให้ดีเท่าที่ทำได้ให้ดีที่สุด ไม่พยายามเป็นหนังออสการ์ ไม่พยายามเป็น The Dark Knight แล้วทำไม่ถึงให้ตัวเองเจ็บ มีแผลฉกรรจ์ มันอาจง่ายๆ ทื่อๆ กลวงๆ แต่มันก็ดูเพลินดีแหละ อยู่ในเกณฑ์สอบผ่าน
ดูแล้วนึกถึงพวกนักร้องไอดอลฝึกหัดที่พื้นฐานยังไม่แน่น แล้วได้เพลงที่เหมาะสมกับตัวเองแบบเพลง “ผ้าเช็ดหน้า” หรือ “พี่สาวครับ” แล้วใช้ทักษะกับเสน่ห์ส่วนตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุดในการให้ความบันเทิงให้เราดูแล้วยิ้มตามบ้าง ขณะที่ Batman v Superman เป็นนักร้องในระดับเดียวกัน แต่พยายามไปร้องเพลงวิทนีย์ ฮุสตัน, ซิลีน ดิออน หรือ เจนนิเฟอร์ คิ้ม แล้วเต็มไปด้วยการร้องผิดคีย์
ความเห็นเพิ่มเติมของผู้ชมอยู่ด้านในครับ

https://twitter.com/WavekUNG/status/930835399148167168

https://twitter.com/GossipGun/status/930823150715072512

https://twitter.com/DCUniverseClub/status/930820981899309056

 

 

8 comments

  1. ใครก็ได้ ตอบผมที ใน BVS ที่ แบรรี่ ย้อนเวลามาบอกให้ บรู้ซ ปกป้อง ลอยส์ แล้วบอกว่า เธอคือ กุญแจ มันคือ อัลไล?

    ไอ้เราก็นึกว่าจะเฉลย ใน จัสติกลีก …….หายจ้อย..

  2. ถ้าไม่ตัดออกจะดีมาก ผมชอบดูหนังที่มีรายละเอียดซัพพอรทตัวละคร ดีซี มีผู้บริหารแย่ ที่ชอบหั่นหนังให้สั้นลง ตั้งแต่ bvs แล้ว ยังไม่เข็ด

Leave a Reply to boboCancel reply