ความเห็นแรกต่อหนัง Justice League ออกมา “โอเค”

วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้เชิญบล็อกเกอร์กับนักวิจารณ์กลุ่มหนึ่งไปชม Justice League เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งขณะที่อนุญาตให้ปล่อยบทวิจารณ์ได้เพียง 1 วัน ก่อนหนังฉายในสหรัฐ ความเห็นต่อหนังที่จะเขียนลงบนทวิตเตอร์นั้นได้รับการอนุญาตให้ลงได้วันนี้ครับ
ความเห็นที่ผ่านตาโดยรวมบอกว่า ดีกว่า Suicide Squad และ Batman v Superman แต่ไม่ได้ชื่นชมในระดับ Wonder Woman ดูเหมือนมีความยุ่งเหยิงบ้างในด้านการเล่าเรื่อง แต่หนังเด่นในด้านการสร้างตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ทั้งห้าให้น่าจดจำและสนุกครับ ด้านล่างนี้เป็นความเห็นส่วนหนึ่งที่ผมนำมาให้อ่าน
Justice League ดีกว่าที่คาด แต่ไม่ได้เข้าเป้าเต็มแรง ปฏิกิริยาระหว่างกันของทีมเป็นอะไรที่สนุกมาก หนังได้ส่งให้ DCEU ไปยังในทิศทางที่รู้สึกมีความหวังแบบที่แบรนด์ควรไป แฟลชกับอคาแมนขโมยซีน ไซบอร์กกับตัวร้ายคือจุดอ่อน บางครั้งชัดเจนมาก แต่บางครั้งก็ไม่ ยังรู้สึกเหมือนเป็นหนังสไนเดอร์ โดยใส่กลิ่นอายของวีดอน” – Peter Sciretta (@slashfilm)
Justice League ดีกว่า Suicide Squad และ Batman v Superman มันกำยำล่ำสัน ดุดัน เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นของซูเปอร์ฮีโร่ ผมชอบส่วนเบาๆ ทั้งหมดของหนัง ผมคิดว่ามีหนึ่งในฉากบู๊ที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน DCEU และแน่นอนว่าวันเดอร์วูแมนขโมยซีน ผมคิดว่าถ้าคุณไปดู Justice League เพื่อดูซูเปอร์ฮีโร่คนโปรดออกมาแสดงพลังพิเศษและเท่ในแบบที่คุณชอบ คุณจะได้เห็นในหนังเยอะมาก มีฉากแอ็คชั่นเยอะมาก และมีฉากซูเปอร์ฮีโร่แสดงความเป็นซูเปอร์ฮีโร่เยอะมาก” – ErikDavis (@ErikDavis)
Justice League เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สนุก มีความฮา แต่ก็ยังเป็นหนังการผจญภัยของซูเปอร์ฮีโร่ ทำให้นึกถึงตอน Justice League Unlimited ชอบปฏิกิริยาระหว่างกันของซูเปอร์ฮีโร่ที่น่าจดจำ มีปัญหาเรื่องตัวร้าย (แต่ไม่เท่ามาร์เวล)” – @aaronsagers
Justice League ดีและสนุกมาก จะต้องเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชมๆ ไม่ใช่แค่ในหมู่แฟนๆ แต่ยังเป็นผู้ชมกระแสหลักและครอบครัว” – Mark Hughes (@markhughesfilms) 
Justice League มีความบันเทิงเต็มขั้น แม้จะมีปัญหาบ้าง พวกเขาเล่นแร่แปรธาตุแปลกๆ ได้สำเร็จกว่าที่ควรเป็น เนื้อเรื่องไม่เข้มข้น แต่เหล่าลีกสุดยอด สนุกมากในการดูพวกเขาบู๊ด้วยกัน วันเดอร์วูแมนเด่นสุดอยู่แล้ว” – Haleigh Foutch (@HaleighFoutch)
Justice League มีเนื้อเรื่องบางเบา และมีปัญหาเรื่องซีจีบางจุดมากๆ แต่มันมีหัวใจและพลังบวกที่ใช้การได้ดี โดยรวมแล้วสนุก และรอคอยที่จะดูหนังของตัวละครเหล่านี้” – Perri Nemiroff (@PNemiroff)
ผู้คนที่เคยบ่นเรื่องหนัง DC มืดหม่นเกินไป กำลังจะได้เห็นด้านสว่าง ผมมีเรื่องที่จะพูดถึง Justice League เยอะ แต่จะรอจนหนังฉายก่อนถึงจะพูดเต็มๆ แต่มีสองอย่างที่ควรต้องรู้ อยู่จนถึงท้ายเครดิต และ เจสัน โมมัว สุดยอดมากในบทอควาแมน” – Steven Weintraub (@colliderfrosty)
มีหลายอย่างที่ฉันอยากเปลี่ยนมัน แต่สรุปแล้ว ฉันสนุกมาก ฉันได้เห็นทีมรวมพลังกันและสนุกในการรับชม เอซรา มิลเลอร์ ขโมยซีน ส่วนวันเดอร์วูแมนก็ไม่มีที่ติ” – Jenna Busch (@JennaBusch)
Justice League สนุก และประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านตัวละคร แต่ล้มเหลวในการเล่าเรื่อง มันเป็นหนังที่ผสมผสานคนปรุงสองคนซึ่งได้นักแสดงช่วยไว้ให้รอด ที่มาช่วยสร้างความรู้สึกร่วม ความฮา และความหวัง สู่ DCEU แต่ยังมีจุดอ่อนอยู่ จุดบอดหลักของหนังอยู่ที่การเดินเครื่องเร็วเหมือนรัวปืนกล ขาดความลึกลับน่าตื่นเต้น และตัวร้ายที่ไม่น่ากลัว ไม่น่าเกรงขาม หรือจดจำเอาเลย โชคดีที่เหล่าจัสทีซลีกไม่เป็นจุดอ่อนเช่นนั้น” – Paul Shirey (@arcticninjapaul)
Justice League เป็นหนังที่โอเค การเล่นเรื่องยุ่งเหยิง ภัยคุกคามไม่เวิร์ค และตัวร้ายไม่เจ๋ง แต่เหล่าฮีโร่นั้นสุดยอด ตลก และมีงานตัวละครบางอย่างที่มีประสิทธิภาพอย่างคาดไม่ถึง ผมไม่ได้รักหนังเรื่องนี้ แต่หนังก็มีของดีๆ ให้ตื่นเต้นรอคอยในอนาคต” – Germain Lussier (@GermainLussier)
Justice League ใช้ได้ มีความต่อเนื่องมากกว่า แต่มีความแปลกเฉพาะตัวน้อยลงกว่า Batman v Superman (ซึ่งฉันชอบ จะล้อยังไงก็เอาเลย) และพยายามอย่างมากที่จะเติมความสว่างสดใสให้ความมืดหม่นอึมครึมของจักรวาลดีซี มีมุกตลกและสารพัดสิ่ง” – Angie J. Han
Justice League เป็นหนังที่โอเค สนุก ตัวละครบันเทิง ทีมนักแสดงเข้าขากันดี อยากเห็นพวกเขาอีกในอนาคต ภาพดูเหมือนหนังสไนเดอร์ แต่เสียงและการเดินเรื่องเหมือนหนังวีดอน มันมีปัญหาอยู่พอสมควร แต่คงจะเล่าละเอียดเมื่อลงบทวิจารณ์ได้อาทิตย์ ข่าวดีก็คือมันบันเทิง” – Jim Vejvoda
“ไม่มีอะไรช่วย Justice League ได้ จากความโฉ่งฉ่าง น่าเกลียด และไม่มีรสนิยมของมัน ไม่แม้แต่วันเดอร์วูแมน, ไม่แม้แต่ดวงตาโตๆ ของเอซรา มิลเลอร์ ไม่แม้แต่การรื้อแล้วสร้างใหม่ที่ฉลาดของจอส วีดอน และหนวดของเฮนรี่ คาวิลล์ เป็นตัวปัญหาของจริง มันทำให้ใบหน้าของเขาไม่เป็นธรรมชาติ” – Josh L. Dickey

 

13 comments

  1. สำหรับผมถ้าแบบที่ว่าจริงก็ถือว่าอุ่นใจขึ้นไม่น้อยเวลาจะเข้าไปดู คือเดาได้อยู่แล้วว่าป๋าแซ็คทำไว้จะต้องมีปัญหาเรื่องเนื้อหาและการเล่าเรื่อง แต่ถ้าทีมฮีโร่ดีก็พอจะลากๆไปได้ ตัวร้ายก็ไม่น่าจดจำอีกตามเคยก็อย่างว่าฮีโร่มันเยอะและเป็นการเปิดตัวหลายตัวละครล่ะนะ ภาคหน้าวีดอนเต็มๆคนเดียวเลย แก้ตัวจาก AOU สักหน่อย

  2. ก็ OK นะ เพราะ JL มันหนังชุดแรกๆของ DCEU แล้วมาโดนปรับแก้ ดีกว่า SS กับ BvS ฉบับโรง ก็ดีมากแล้ว
    แต่ที่คิดไว้ไม่มีผิดคือ The Flash กับ Aquaman ได้แจ้งเกิด โดยเฉพาะรายหลัง หนังเดี่ยวของตัวเองปีหน้านี่ คือ น่าลุ้นมากๆพอๆกับ WW

  3. ลืม ส่วนตัวร้ายเฉยๆนะ เพราะคิดไว้แล้วว่าง่อยแน่ๆ รอ แบรนิแอค กับ ดาคไซด์มาก่อน น่าจะมีอะไรมันส์ๆ กว่านี้ หรือเปล่า LOL

  4. เท่านี้ก็ดีแล้วครับ คือถ้ามันดีกว่า SS กับ BvS ก็ใช้ได้ละ น่าจะคุ้มค่าตั๋วแล้ว แบบนี้หนังก็น่าจะโกยเงินได้มากพอให้มีกำลังใจสร้างกันต่อ เผลอๆรายได้ทั่วโลกน่าจะมากกว่า Thor3 อีกเพราะกระแส WW และมี Bat กับ Sup ที่มีคนรู้จักมากกว่า … ทำหนังให้สนุกนี่มันยากเหมือนกันนะ ขนาดระดับโลกแล้วยังขึ้นๆลงๆ Marvel เค้าเก่งจริงๆโดยเฉลี่ยแล้วทำได้ดีกว่ามาก

  5. แซค มีจุดแข็งคือทำหนังฺฮีโร่ให้เป็นแอคชั่นไซไฟบู๊ระห่ำกับวิช่วลล้ำๆ สไตล์ผู้ชายๆ ส่วนจุดอ่อนคือด้วยความที่สไตล์ดิบๆแมนๆ ทำให้บางครั้งไม่ถนัดในการนำเสนอด้านละเอียดอ่อนในแบบหนังขายวงกว้าง ซึ่งด้านนี้ จอส มาเติมให้ ก็น่าจะดี – ปล.ชอบคห. Angie j. han มุมมองน่าจะคล้ายๆกัน

  6. หนังรวมซุปเปอร์ฮีโร่ส่วนใหญ่ก็เจอปัญหาตัวร้ายอ่อนนี่ล่ะ เพราะเค้าต้องเน้นตัวเอกไว้ก่อน สงสารมาร์เวลที่โดนตำหนิบ่อยๆจนเกินควร ที่ผ่านมาดีซีมีแต่หนังเดี่ยว เลยเน้นตัวร้ายได้ ตอนนี้มาเจอปัญหาร่วมกัน
    แต่ที่น่าสงสารคือเฮียเบน ไม่มีใครพูดถึงเลย สงสัยเป็นเหตุผลที่ไม่อยากเล่นต่อป่าว (เฮียคงน้อยใจ 55)
    ส่วนไซบอร์ก….อย่าเศร้าไปนะนาย
    (5555)

    • เค้าคงขอให้ปิด Batman กับ Suuperman ไว้มั้งครับ จะเห็นได้ว่า Superman ก็ไม่มีคนพูดถึงเหมือนกันทั้งๆที่ตอนนี้เดินสายโปรโมท ออกมากันครบหมดทีม คงจะเป็นจุดเปลี่ยน คิดว่า Batman คงจะเปลี่ยนตัวแน่ๆ ตามข่าวก่อนหน้า

  7. ดูแล้วครับวันนี้ สำหรับผมหนังแทบไม่เหลือความป็นหนังแช็ค สไนเดอร์อยู่เลยครับ ผมว่ามันเป็นลูกผสมที่ไม่ลงตัวเอาเสียเลย (แช็ค+จอส) งานหนังที่ดูยิ่งใหญ่และฉากแอ็คชั่นแบบที่เคยมีใน Man of Steel, Batman v Superman ไม่มีเหลือเลย เกือบๆ เหมือนดูหนังที่ตีความแบบหนังเล็กๆ ทางทีวี สำหรับผมผิดหวังครับ (ผิดหวังเพราะ WB และ จอส วีนอน เข้ามาเข้ามาจุ้นจ้านกับหนังมากเกินไป และหนังไม่ควรจะขึ้นชื่อแช็ค สไนเดอร์ เป็นผู้กำกับ ให้เสียภาพลักษณ์ของตัวเขาเองไปเลยครับ)

Leave a Reply to constaterCancel reply