วอร์เนอร์ฯ สั่งให้ Justice League ยาวไม่เกิน 2 ชั่วโมง และหนังใช้ทุนสร้างราว $300 ล้าน

ตามที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ครับว่า Justice League ยาว 119 นาที ซึ่งสั้นกว่า Batman v Superman: Dawn of Justice ราวครึ่งชั่วโมง และน่าจะเป็นหนังที่สั้นที่สุดของจักรวาลภาพยนตร์ดีซีนับจาก Man of Steel มาเลย รายงานจากเดอะ วอลสตรีท เจอร์นัล บอกครับว่า ที่หนังยาวแค่นั้นเป็นความตั้งใจของผู้บริหารของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ครับ
ในรายงานบอกว่า เควิน สึจิฮาระ ประธานกรรมการผู้บริหารของวอร์เนอร์ฯ เป็นคนกำชับว่า หนังต้องไม่ยาวเกิน 120 นาที หรือ 2 ชั่วโมงครับ และดูเหมือนจอส วีดอน ก็ช่วยคุมตัดต่อให้หนังยาวขาดไปเพียงหนึ่งนาทีจนได้
นอกจากเรื่องนี้แล้ว รายละเอียดของรายงานยังเล่าถึงฉบับตัดต่อแรกของหนังที่แซ็ค สไนเดอร์ ทำออกมาฉายให้ผู้บริหารดูเมื่อต้นปีด้วย ซึ่งสไนเดอร์ได้สร้างหนังที่มีโทนเบาขึ้นที่ทางค่ายหนังรู้สึกว่าเป็นความก้าวหน้าชัดเจน แต่ยังเห็นว่าหนังต้องปรับเปลี่ยนอีกพอสมควร จึงได้จ้างจอส วีดอน ให้มาเขียนฉากใหม่เพิ่มเติมเพื่อถ่ายซ่อม แล้วต่อมาก็เข้าคุมการถ่ายซ่อมฉากเหล่านั้นเองหลังจากที่สไนเดอร์ต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวหลังจากลูกสาวเสียชีวิต บทความเรียกฉากถ่ายซ่อมเหล่านั้นว่า “มีปริมาณสำคัญ”
งานขั้นตอนหลังการถ่ายทำก็เพิ่มขึ้นมากมายเพื่อหลอมโทนของวีดอนกับสไตล์ภาพของสไนเดอร์ให้กลมกลืนอย่างไม่มีที่ติ มีการตัดต่อหนังหลายรอบเพื่อทดสอบหนังซึ่งฉบับหลังๆ สุดมีจังหวะใกล้เคียงกับ Wonder Woman ซึ่งทางค่ายพอใจอย่างมากกับผลงานที่ทำออกมาเสร็จแล้ว แม้ว่างบจะบายปลายถึง 300 ล้านเหรียญ
ในรายงานบอกด้วยว่า Justice League จะไม่มีฉบับตัดต่อยาวพิเศษ หรือฉบับผู้กำกับตัดต่อแบบ Batman v Superman: Dawn of Justice เพราะวีดอนไม่ได้เครดิตในฐานะผู้กำกับหนัง และสไนเดอร์ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนังอีกเลย
ที่มา: WSJ

15 comments

  1. 300 ล้าน หนังใหญ่ขนาดนี้ค่าการตลาดต้องระดับ 120-150 ล้านเหรียญ หนังต้องทำเงินในโรงระดับ 800-900 ล้านเลยถึงเห็นกำไรในโรงหนัง

      • ผมว่าถ้า 5-10 นาที อาจจะไหวครับ
        รอบฉายรวมกันนานขึ้น ชม. เดียว

        ถ้า 15 นาที ก็อาจจะชม.ครึ่ง
        เท่าที่รู้รอบฉายที่อเมริกา ไม่เน้นทำรอบแน่นๆ แบบเรา
        แต่ของเราเองก็อัดรอบฉายยันดึกอยู่แล้ว

        จริงอยู่ว่ามันดีกับรอบ/รายได้ แต่นึกถึงความสมบูรณ์หนังบ้างก็ดี
        3 ชม.ยาวไป แต่ไม่ถึง 2 ชม. ก็สั้นไปสำหรับฮีโร่ตั้ง 5/6/7 คน

        ลดฮีโร่ลงสิ ซุเปอร์แมนยังไม่ต้องฟื้น กรีนฯ ยังไม่มาโลก เอามั้ย

  2. เอิ่ม 120 นาที ถ้าเล่าเรื่องภายใน 120นาทีแล้ว คนเก็ท เข้าใจอะไรยังไง ถือว่าผู้บริหารคิดดี แต่ถ้าพลาดคือ มึงอะคิดผิด “เควิน สึจิฮาระ” ชื่อต้นเสือกคล้าย ผู้บริหารมารเวล์อีก แต่ทัศนิวิสัยห่างกันลิบลับ

  3. ตัวละครเยอะมาก และบางตัวละครรวมทั้งตัวโกงต้องเล่าที่มาที่ไปอีก ไหนจะการกลับมาของคนที่คุณก็รู้ว่าใครอีก เวลา 120 นาที จะยัดทุกอย่างลงไปได้แบบไม่ยัดเยียด ลื่นไหลจริงๆหรือนี่ ยากมากๆแต่ถ้าทำได้ มันจะเป็นอะไรที่กระชับมากๆ ไม่มีน้ำแบบ bvs แน่ๆ เดิมพันสูงมากกับทุนสร้าง 300 ล้าน

  4. เฉยๆกะ JL แล้ว …..ไงๆก็เป็นภาคบังคับ Must See หละ

    เสียดาย จังหวะ Time Line ที่ลงตัวมากกว่า

    คือ หลัง BVS ถ้าปล่อย หนัง Hero ในทีม ลีก ออกมาสักตัวสองตัวได้ จะ ดีมาก เช่น Flash,Cyborg ,Aquaman ส่วน Wonder Woman ดีอยู่แล้วรู้กัน

    นี่ดัน ไปรีบร้อน ปล่อย หนังรวมดาวร้าย Suicide Squad ออกมาก่อน บทก็เล๊ะเท๊ะ หาความเกี่ยวพันกะ JL ยากด้วย เซ็งๆ กะ WB จริงๆ

  5. เห็น คุณ Grace ใน beyond the trailer นักวิเคราะห์ หนังใน you tube เธอบอกว่า หนัง JL การันตี รายได้ๆ เลย ว่าไม่ต่ำกว่า 700 ล้านเหรียญ แน่ๆ คหสต คิดว่า คนที่เข้าไปดู หนัง WW จะต้องเข้าไปดู JL อย่างแน่นอน เพราะ พลัง หรือ กะแส ของ WW ยัง strong มากในช่วงนี้ และ คิดว่า กะแส THOR -3 น่าจะตกลง เร็วมาก ข้อสังเกตุนะครับ ลองไปดู ของเล่นของสะสม ของ JL ในห้างดังๆ หลายๆแห่ง ไม่ค่อยมีเลยนะ หนังจะเข้าอยู่แล้ว แต่ ของเล่น มาน้อยมาก มีแต่พวกถูกๆที่ เค้าไม่เก็บกัน หรือเป็น version อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับ หนัง JL มาขายแทน ส่วน ของเล่น THOR #3 เหลือ เพียบเลยหละ เฉพาะรายได้ของเล่น WB กวาดล่วงหน้ามาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้วนะ ลองไปเสริจใน ยูทูป ได้เลย การที่หนังสั้นลง ผมเข้าใจว่า ผู้บริหาร WB คงมองว่า ทุกคาแลคเตอร์ใน JL คนดูหนังส่วนใหญ่ รู้จักดีมากอยู่แล้ว เลยเน้นที่ ACTION มากๆดีกว่า ดูจากบทสัมภาษณ์ ไดแอน เลน ที่เล่นเป็น แม่ superman บอกว่าได้ดูหนังแล้ว ฉากต่อสู้น่าตื่นเต้นมากๆ ถ้าระดับนี้ๆได้ดู แสดงว่า 6 hero คงได้ดูกันหมดแล้ว ตอนไป โปรโมท ที่ปักกิ่ง ถึงดูมีความสุข และ มั่นใจกับหนังมากๆ

    • ทอมันจะเฉเพราะทางไปนิดหนึ่งคือตีมหนังมันย้อนยุค. มันอาจจะไม่ค่อยแมส. ไม่เหมื นจัสติกที่ตีมหนังเป็ไฮเทคโนโลยี. ดูคลีนและหรูหรากว่า

  6. รายได้หนังเค้าเยอะอยู่แล้วล่ะ (ตั้งแต่ MOS SS BvS WW ที่มีแต่คนบอกว่าห่วย แต่รายได้แต่ละเรื่องไม่ได้แย่เลย)ในอเมริกายิ่งได้เยอะ ยิ่งกำไร นอกประเทศถือว่า โชคดี จริงๆ หนังไม่ยาวมากอาจจะส่งผลดีก็ได้ เนื้อเรื่องต้องไปดูเอง อาจจะกระชับ หลังจากนี้หนังก็จะแยกเป็นของตัวเองไม่ต้องทำแบบ marvel แล้ว ส่วนเรื่องงบ มันมาเยอะขึ้นตอนถ่ายซ่อมนี่แหละ เลยเยอะขึ้น ตามความเห็นข้างบนว่า WB เค้าปูทางมานานมากๆเป็นครึ่งๆปี ผมตาม Ig Tw เค้ามาตลอด บ้านเราดูเหมือนเงียบๆ แต่เมืองนอกโปรโมทหนักมากๆ Thor 3 หลายๆประเทศก็แผ่วลงไปแล้ว ไงก็มารอดูดีที่สุดว่าดีหรือไม่ดี

  7. thor3 ทุนสร้าง 180 ล้าน รวมค่าการตลาดเเล้วประมาณ 300 ล้าน ตอนนี้หนังทำเงินไปเเล้ว 480 ล้าน หนังคงไปจบที่ 700-800 ล้านไม่ยากนัก หนังคงทำเงินในโรง ผมว่าน่าจะมีภาคต่อนะ ด้วยรายได้ขนาดนี้ ส่วนตัวอยากให้ กัปตัน กับ thor มีภาคหลักอีก ซัก 1-2 ภาค หรือมีไตรภาคที่ 2 ไปเลย รวมทั้ง ironman ด้วย

  8. ผมคาดเดาว่าการเล่าตัวละคร จะใช้เวลา ไม่น่าเกิน 40 นาที

    เดอะแฟลช คงไม่น่าเกิน 5 นาที เนื่องจากได้บารมีมาจากซี่รีส์แล้วไม่ต้องสาธยายเยอะ
    อควาแมน 5-7 นาที ทั้งอดีตและปัจจุบัน
    ไซบอก 5-7 เหมือนกัน เนื่องจากต้องเล่าที่มาของกล่องมาร์ธาบ๊อร์กและความสัมพันธ์กับพ่อ

    ส่วนแบทแมน กับ วอนเดอร์ วูแมน ไม่จำเป็นต้องแนะนำ แบทแมนคือตัวเดินเรื่อง
    วอนเดอร์ วูแมนเป็นตัวช่วยแบทแมนเดินเรื่อง

    จิม กอร์ดอนก็คงมีบทบาท พอสมควร ในฐานะผู้กำกับสถานีตำรวจกอตแธม ต้องเคยร่วมงานกับแบทแมนมาระยะหนึ่ง จนเชือใจได้ แล้วฮีโร่ทุกตัวก็มาโชว์ตัวกับ จากการแนะนำของแบทแมนจิม น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5-7 นาที

    การเล่าเรื่องนิวกอดที่มาตัวร่้าย ในอดีต อื่นๆ บลาๆๆ ไม่น่าเกิน 7-10 นาที

    ผมมองว่า เปิดตัวมาตามสไตล์ของแซคคือทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับภาพและเสียงก่อน จากนั้นก็จะเรื่อยๆ ดราม่า สืบสวน แอคชั่นพอประมาณ จากนั้น 30 นาที่สุดท้ายก็จะเป็น แอคชั่นล้วนๆ

Leave a Reply to MiKiJuNaJa (@MIKIJUNaJa1)Cancel reply