Bride of Frankenstein ของบิล คอนดอน จะไม่เชื่อมต่อ Dark Universe (The Mummy)

ความสำเร็จของมาร์เวลในการสร้างจักรวาลภาพยนตร์อันกว้างใหญ่ให้หนังทุกเรื่องมีส่วนเชื่อมโยงถึงกันทำให้หลายค่ายหนังยึดเป็นแนวทางเอามาสร้างจักรวาลภาพยนตร์ของตัวเอง โดยหวังว่าจะทำเงินและประสบความสำเร็จได้แบบเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำได้
วอร์เนอร์ฯ พยายามเลียนแบบการสร้างจักรวาลคล้ายๆ กัน แต่หลังจากความสำเร็จของ Wonder Woman ทำให้พวกเขาได้แนวคิดใหม่ว่าไม่จำเป็นต้องใช้สูตรเดียวกันเพื่อความสำเร็จก็ได้ จึงตัดสินใจลดการเชื่อมต่อจักรวาล และตั้งใจสร้างหนังที่มีความเป็นเอกเทศของตัวเองมากขึ้นหลังจาก Justice League
ส่วนยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ก็ได้สร้างจักรวาลหนังอสุรกายของตัวเองขึ้นมาด้วย Dark Universe และให้ The Mummy ที่นำแสดงโดยทอม ครูส เป็นหนังนำร่อง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จได้เท่ากับฉบับเบรนแดน เฟรเซอร์ จักรวาลภาพยนตร์ที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะลดขนาดลง หรืออาจมีการเปลี่ยนแผนใหม่ครับ
หนังเรื่องที่สองของจักรวาลมืดก็คือ Bride of Frankenstein ซึ่งได้บิล คอนดอน จาก Beauty and the Beast และ Gods and Monsters มารับหน้าที่กำกับ ตอนนี้ดูเหมือนจะออกมาจากจักรวาลนี้แล้ว ตามที่คอนดอนให้สัมภาษณ์
ผมบอกแบบนี้แล้วกัน สิ่งที่ผมจะทำก็คือทำหนังอสุรกายดีๆ ออกมาแบบ 100% มันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นเลย ไม่เกี่ยวกันเลย สักนิดเดียว
หนังมีกำหนดเปิดกล้องกุมภาพันธ์ปีหน้านี้ที่ลอนดอนครับ จะเป็นการนำต้นฉบับของจอห์น เวล มาสร้างใหม่ แต่ปรับใหญ่เรื่องตัวละคร
สิ่งที่ผมชอบในบทหนังของเดวิด โคเอปป์ ก็คือ เขาปรับทุกอย่างกลับตาลปัตร เรื่องนี้ อีฟเกิดก่อนอดัม เจ้าสาวมาก่อน ในต้นฉบับนั้น อย่างที่รู้กัน เจ้าสาวออกมาแค่สิบนาทีของหนังฉบับของเวลทั้งเรื่อง พอเธอออกมา หนังก็จบ
ผมพยายามคิดว่า อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการคาราวะต่อต้นฉบับ หนังจะเป็นยังไงหากเวลได้สร้าง Frankenstein ภาคสามขึ้นมา หรือหากเขาสร้างมันในศตวรรษที่ 21 ผมรู้สึกว่ามันมีความรู้สึกอ่อนไหวบางอย่างในหนังเรื่องนั้น นอกจากนี้แล้ว เรายังเห็นความอัจฉริยะในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานของเขาด้วย ที่ผู้คนทุกวันนี้ยังใช้ตามเวลาสร้างหนังอสุรกาย นั่นก็คือเราต้องสร้างอสุรกายที่เรากลัวขึ้นมา ที่เราหวาดหวั่นขึ้นมา แต่เราก็ยังเข้าอกเข้าใจมัน และประโยคเด็ดในหนังนั้นไม่มีใครใช้ได้ดีเท่าเจมส์ เวล
ฮาเวียร์ บาร์เดม รับบทเป็นแฟรงเกนสไตน์ในหนังเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครจะมารับบทเป็นเจ้าสาวของแฟรงเกนสไตน์ หนังมีกำหนดฉายกุมภาพันธ์ 2019 ครับ
ที่มา: Collider

4 comments

  1. ผมไม่คิดว่าจะถอดใจกันง่ายๆแบบนี้มั้งครับ น่าจะทิ้ง easter egg ไว้บ้าง แค่ไม่ให้ชัดเจนจนเกินไป ถ้าหนัง success ก็เริ่มเชื่อมจากจุดนี้ไปเลย

  2. ไม่นะ ยังอยากให้เนื้อเรื่องต่อๆกันบ้าง นิดๆหน่อยๆก็ยังดี มัมมี่มันรายได้แย่เพราะตัวบท มันธรรมดาเกินไป

Leave a Reply