ไคจูจะฉลาดมากขึ้นใน Pacific Rim: Uprising แต่หนังยังได้อิทธิพลของกีเยร์โม เดล ทอโร อยู่
ในตอนจบของ Pacific Rim ภาคแรก เหล่านักขับหุ่นยนต์ได้ปฏิบัติภารจิจเป็นผลสำเร็จในการปิดรอยแยกใต้มหาสมุทรแปซฟิกที่มนุษย์ต่างดาวใช้เป็นช่องทางส่งสัตว์ประหลาดยักษ์ข้ามมิติมายังโลก “แต่น่าเสียดายที่ข้าศึกได้ฉลาดมากขึ้นและมีหนทางใหม่ในการทำลายโลก และเราก็ยังพบกับตัวละครนอกคอกตัวหนึ่งด้วย” จอห์น โบเยกา ผู้รับบทนำของหนัง Pacific Rim: Uprising เล่าระหว่างให้สัมภาษณ์ในการเดินสายประชาสัมพันธ์หนังเรื่อง Detroit
โบเยการับบทเป็นเจค็อบ เพนท์คอสต์ ลูกชายของสแตคเกอร์ ตัวละครที่ไอดริส เอลบา เล่นไว้ในภาคแรก “เขาคล้ายกับเป็นบุตรหลงทางที่กลับมาบ้านของสแตคเกอร์ เพนท์คอสต์ เขาต้องจำใจเข้าร่วมกับหน่วย PPDC และพยายามช่วยต่อสู้กับไคจูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะแตกต่างออกไป”
โบเยกาขยายความว่า “หนังยังได้รับอิทธิพลอย่างมากจากงานของกีเยร์โม เดล ทอโร (ผู้กำกับภาคแรก) อยู่ แต่ในเวลาเดียวกัน สตีเวน ดีไนท์ ก็เป็นผู้กำกับ มันจะเป็นหนังที่สนุกและยิ่งใหญ่เกินจริง เราได้มีอารอัพเกรดที่ดีขึ้น หุ่นยนต์เคลือนไหวรวดเร็วมากขึ้น เราเหมือนนักเต้นระบำบัลเลต์เลย มันเยี่ยมมาก”
จะเยี่ยมเหมือนที่โบเยกาว่าไหม ต้องรอชมเมื่อหนังฉายต้นปีหน้าครับ
ที่มา: IGN
เคลื่อนไหวเร็วขึ้น
นั่นละสิ่งที่แย่
สัตว์ยักษ์เทียบอัตราส่วนแล้วยิ่งตัวใหญ่ยิ่งดูเคลื่อนไหวช้าลง
เค้าลางแห่งความเละเทะเริ่มมาเยือน