8 ปีก่อน Avatar ของเจมส์ คาเมรอน ได้สร้างกระแส 3D ฟีเวอร์ ที่ทำให้ทุกค่ายหนังหันมาสร้างหนังสามมิติกันยกใหญ่ หรือไม่ก็แปลงหนังสองมิติให้เป็นสามมิติเพื่อออกฉาย แต่ดูเหมือนว่ากระแสได้จากเร็วไปมากในวันนี้ครับ ทั้งในหมู่คนดูหนังและผู้สร้างหนัง
ระหว่างการประชุมนักวิเคราะห์ในสัปดาห์นี้ เกร็ก ฟอสเตอร์ ประธานกรรมการผู้บริหารของไอแม็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้เปิดเผยว่า มีจำนวนผู้ชมในสหรัฐที่อยากชมหนังสามมิติลดลง พวกเขาจึงเริ่มเก็บแว่นสามมิติทิ้งแล้ว (หรือแค่เก็บออกก่อน)
“ความต้องการที่จะชมหนัง 2D เริ่มมีเพิ่มมากกว่า 3D ในอเมริกาเหนือ และผู้ชม (อย่างน้อยในสหรัฐ) เริ่มแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบ 2D มากกว่า แปลว่าเราจะฉายหนัง 2D มากขึ้นและมากขึ้น”
ดูเหมือนว่า Blade Runner 2049 ก็จะฉายในระบบ IMAX เพียง 2D เท่านั้น ในสหรัฐอเมริกาครับ เมื่อออกฉายตุลาคมนี้
พวกเขายังบอกอีกว่า การฉายหนังในระบบ IMAX แก่หนังทั่วไปจะให้เวลาเรื่องละหนึ่งสัปดาห์เป็นส่วนใหญ่นับจากนี้ครับ ยกเว้นหนังที่ถ่ายทำด้วยระบบไอแม็กซ์แต่แรก เช่น Dunkirk จะได้ฉายบนจอไอแม็กซ์นานกว่า
ทั้งหมดน่าจะเป็นสถานการณ์ในอเมริกาเหนือครับ แต่ก็น่าจะตอบแทนสถานการณ์ผู้ชมในยุคปัจจุบันได้ประมาณหนึ่งว่าความนิยมของ 3D ได้ลดลงไปมาก ส่วนสถานการณ์ของบ้านเราเป็นยังไงบ้าง ถ้าได้ข้อมูลก็จะมาเล่าให้ฟังครับ
ที่มา: THR
หนังทุกเรื่องที่เข้าฉายในระบบ IMAX ผมภาวนาให้ทุกเรื่องเลยครับว่าขอให้เป็น 2D สำหรับผมถ้าเทียบกันแล้ว 3D มันไม่ได้ทะลุอะไรขนาดนั้นแถมยังทำให้ความสว่างลดลงทั้งยังทำให้ปวดสายตาในระดับหนึ่ง สู้ดูภาพความคมชัดระดับจอ 2D IMAX ใหญ่ๆ สีสวยๆ ผมว่ามันได้อรรถรสมากกว่า ทั้งนี้ก็ต้องรอดู 3Dใหม่ของ เจม คาเมรอน ว่าเขาจะพัฒนาได้ออกมาปังแค่ไหนในอนาคตครับ
ส่วนตัวเป็นคนดู 3D ตลอด รู้เลยว่าสถานะการณ์ 3D ในไทยย่ำแย่มากๆแล้ว
การจะหาดู 3D แบบไม่ภาคไทยนั้นยากมาก รอบน้อยตั่งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ถ้าไม่ใช่ IMAX แทบหาดูไม่ได้
ซึ้งเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว TT^TT
ไม่รอดครับ
ถ้ายังให้ภาพชัดทุกส่วนไม่ได้
คนหลายคนมองส่วนที่ไม่ชัดของหนัง เช่นฉากหลัง
ธรรมชาติมันจะพยายามปรับสายตาเพื่อให้ชัด แต่มันปรับไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหา
ผมมองต่างไปนะครับ จริงอยู่ครับที่ระบบ 3D ยังรู้สึกแปลกๆในการดูอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าดีมากแล้ว และก็ทำให้ดูหนังสนุกขึ้นจริงๆ แต่ปัญหาส่วนใหญ่มากจากสภาพเศรษฐกิจมากกว่าครับ เอาแค่จากข่าวนี้มาจากอเมริกา สภาพที่นั่นก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ครับ มีข่าวบริษัทลดคนงานออกมาต่อเนื่อง ที่ว่าจะลงทุนเพิ่มก็เป็นแค่ข่าว ยังไม่ลงกันจริงๆ ผู้คนยังดูหนังอยู่ครับ แต่ประหยัดมากขึ้น ตัวหนังเองก็มีส่วนอยู่บ้าง นานๆจะมีแบบ Dunkirk ซักที สรุปว่าคนประหยัดครับ ในเมืองไทยไม่ต้องพูดถึงครับ อืดกันยาวๆรอไทยแลนด์ 4.0 ครับ
บางเรื่องบางครั้งก็ทำให้หนังสนุกจริงๆครับ
แต่ตอนนี้ทีวี 3D แทบจะหยุดพัฒนาไปแล้วครับ
จากตลาดที่ถูกสำรวจ น้อยคนที่จะชอบ 3D มากกว่า 2D
แรกๆ ผมก็ชอบ 3D มากๆ แต่ตอนหลังอยากจะดูเป็น 2D มากกว่าครับ
ข่าวหยุดทำทีวี 3D
https://www.blognone.com/node/89544
ถ้าดู2D ผมดูโรงธรรมดาดีกว่า รุ้สึกเหมือนๆกัน แต่ถ้า 3D ผมดูโรง IMAX เพราะภาพดีกว่า 3Dโรงธรรมดามากๆ
ตั้งแต่มี 3D เคยดูแค่ 2 เรื่องเอง มันปวดตา ภาพไม่ชัด ไม่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ดีหรอก แค่มันไม่ได้รับความนิยมก็เท่านั้น ไม่งั้นพวก TV รุ่นใหม่ๆก็ไม่ตัดออกหรอก เพราะคนไม่นิยม BD 2D ขายดีกว่า 3D เยอะ
ส่วนตัวผมก็ยังชอบ 2D มากกว่า ตั้งแต่Avatar ฉาย ก็ยังรู้สึกว่าดูหนัง 2D มันอิ่มเอิบกว่า แต่ก็มีบางเรื่องที่รู้สึกว่า 3D มันเหมาะกว่า
3 D มันดูมีมิติก็จริง แต่มันก็ยังดู ภาพไม่ไหลลื่นเหมือนกับ 2 D ยิ่งหนัง action นี้เล่นปวดหัวกันไป รอการพัฒนาครับ