Avatar ภาคต่อ จะฉายด้วยระบบ 3D ใหม่ล่าสุด แบบที่ไม่ต้องสวมแว่นตา
เจมส์ คาเมรอน ปฏิวัติการสร้างภาพยนตร์ หรือไม่ก็มีนวัตกรรมที่ล้ำไปกว่าเดิมมาใช้ในภาพยนตร์ของเขาเรื่อยๆ ใน Avatar ภาคแรก เราถ่ายทำหนังด้วยระบบ 3D ใหม่ล่าสุด ผสมกับเทคโนโลยีโมชั่นแคปเชอร์ที่พัฒนาให้ล้ำขึ้นไปอีก เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้งานด้านเทคนิคพิเศษและการถ่ายภาพ และใน Avatar ภาคต่อที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ คาเมรอนก็ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำไปอีกขั้น และอาจปฏิวัติวงการภาพยนตร์ครั้งใหญ่อีกครั้งครับ
รายงานจาก Inquisitr บอกว่า Lightstorm Entertainment บริษัทสร้างหนังของคาเมรอน ได้ร่วมหุ้นส่วนกับคริสตี้ ดิจิตอล เพื่อใช้ระบบเครื่องฉายใหม่ของบริษัทชื่อว่า ระบบเครื่องฉายภาพยนตร์ RGB ซึ่งจะทำให้การชมหนัง Avatar ภาคต่อที่จะออกฉายอีก 4 ภาคครับ
ตามคำกล่าวอ้าง “ระบบเครื่องฉายดังกล่าวจะให้ภาพเคลื่อนไหวแบบเฟรมเรตสูง (high frame rate) ที่สว่างและคมชัด แบบที่ผู้ชไม่ต้องใช้แว่นตาในการรับชม”
ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นนะครับ เพราะอยากรู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่ปัญหาเดียวก็คือว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว จะมีโรงหนังที่พร้อมใช้เครื่องฉายชนิดใหม่นี้กี่โรง หรือพร้อมที่จะเปลี่ยนระบบเครื่องฉายใหม่หรือไม่ คาเมรอนกับทีมงานคงต้องหาทางให้โรงหนังต่างๆ ติดตั้งเครื่องฉายให้ได้ก่อนที่จะถึงวันฉาย
ในรายงานบอกด้วยว่า Avatar 2 จะพาเราไปสำรวจโลกใต้น้ำของแพนดอรา ซึ่งจะใช้เทคนิคพิเศษที่ล้ำไปกว่าเดิมในการสร้าง เราคงได้เห็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ จอน แลนเดา หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างของหนังบอกว่าแก่นเรื่องจะเกี่ยวกับครอบครัว แต่ละภาคจะจบในตอน แต่จะต่อเนื่องกันเป็นภาพใหญ่ครับ “แต่ละภาคของหนังจะมีความเป็นหนังเดี่ยวของตัวเอง เรื่องราวของหนังแต่ละภาคจะมีบทสรุปของตัวเอง แต่ยังไงก็ตาม เมื่อมองที่ภาพรวมแล้ว การเดินทางผ่านเรื่องราวทั้งสี่ภาคจะสร้างเป็นตำนานมหากาพย์ที่เชื่อมต่อกันเป็นเรื่องราวที่ใหญ่มากขึ้นไปอีกสำหรับผู้ชมทั่วโลก”
แซม เวิร์ทธิงตัน, โซอี้ ซัลดานา, สตีเฟ่น แลงก์, ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ และ คลิฟ เคอร์ติส นำแสดงในหนังชุดนี้ครับ ภายใต้การกำกับของเจมส์ คาเมรอน โดยทั้งสี่ภาคจะออกฉายเรียงกันไปธันวาคม 2020, ธันวาคม 2021, ธันวาคม 2024 และ ธันวาคม 2025
โรงหนังบ้านเราปรับตัวเร็วถึงเร็วมากนะครับ ผมว่าทันได้ดูแน่
ลุงเจมส์ แกแน่นอนจริงๆ
จะทำเงินให้ชนะภาคแรกได้ต้องเป็นอะไรแบบนี้แหละ
ถ้าเทคโนโลยีนี้เวิร์คจะยิ่งยืดอายุให้ธุรกิจโรงหนังอีกนานเลย เพราะมีสิ่งที่สัมผัสนอกโรงได้ยากมากขึ้น
+1 ผมว่าโรงหนังหลายๆเจ้า โดยเฉพาะในอเมริกา จะสนับสนุนเทคโนโลยีนี้กันอย่างแน่นอน เพราะมันจะช่วยในการแข่งขันกับพวกแอพดูออนไลน์ นับว่า เป็นทางออกที่ดีสุด คนดูได้ประโยชน์ โรงหนังได้ประโยชน์ คาเมรอนได้หนังแบบที่แกต้องการ วินๆกันทุกฝ่าย
คือถ้าภาค 2 ใช้ระบบนี้เลย รับรองได้ว่าในไทยมีโรงที่ฉายระบบนี้น้อยโรงแน่ๆ และค่าตั๋วหนังคงแพงมากๆ
ลุงแกวิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ ทำให้ในอนาคตโรงหนังยังน่าสนใจอยู่
มิน่าเตรียมงานนานขนาดนี้ กล้าคิดมากๆที่ 3D แบบไม่ต้องใส่แว่นตา อยากเห็นแล้วว่าเป็นยังไง
ส่วนเรื่องเครื่องฉาย ผมว่าไม่ต้องห่วง ถ้ามันเป็นมิติใหม่วงการหนัง และจะดึงคนดูระดับแมส ยังไงเค้ากล้าลงทุนแน่นอน
ขนาดคนที่เข้าโรงหนังน้อยมากอย่างผมฟังแล้วยังหูผึ่งเลย น่าสนใจจริงๆ