คริส ไพน์ พูดถึงจุดเด่นของ Wonder Woman และเปรียบเทียบกับ Infinity Wars

จะเป็นการก่อสงครามครั้งใหม่ระหว่างฝั่งดีซีคอมมิคกับฝั่งมาร์เวลหรือไม่ คงต้องรอติดตามกันหลังจากนี้ แต่ดูเหมือนว่าคริส ไพน์ นักแสดงหนุ่มจาก Wonder Woman เพิ่งยิงกระสุนใส่หนัง Avengers: Infinity Wars ระหว่างให้สัมภาษณ์แก่ Screenslam ครับ

ผู้สัมภาษณ์ถามไพน์ถึงเหตุผลที่เขาอยากมีส่วนกับหนัง Wonder Woman ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ไพน์ตอบก็คือผู้กำกับแพ็ตตี้ เจนกินส์ และยกย่องทิศทางที่เธอจะใช้ในการเล่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับ”ความรักชนะทุกอย่าง”มาเป็นตัวสนับสนุน ขณะเดียวกันก็เปรียบเทียบกลายๆ ถึง Avengers: Infinity Wars ของมาร์เวลครับ

หนึ่งในเหตุผลแน่ๆ ก็คือเธอโดยเฉพาะ แพ็ตตี้เป็นเหตุผลสำคัญยิ่งใหญ่ว่าทำไมผมอยากมีส่วนกับหนังเรื่องนี้ ผมได้พบกับเธอ ผมยังไม่ได้อ่านบท มันยังไม่มีบทในตอนนั้น แล้วเธอก็บอกว่าเธออยากทำยังไงเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ตัวละครของผม และตัวละครของกัล ผมเห็นด้วยกับคุณ(ผู้สัมภาษณ์)ว่าในหนังแนวนี้ มันแทบจะสร้างอะไรใหม่ๆ ได้ยากแล้ว และปกติเราก็มักจะเห็นแค่กลุ่มคนไล่ฆ่ากัน โดยแต่งเครื่องแบบและระเบิดเมือง อย่างเช่น ผมรู้ว่ามีหนังเรื่อง Infinity Wars กำลังจะมา ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ถามจริง Infinity Wars เนี่ยนะ เรายังต้องการสงครามอะไรอีกเหรอ ผมจึงคิดว่าหัวใจของหนังเรื่องนี้ก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรักและความเมตตา และความรักชนะทุกอย่าง มันยอดเยี่ยมไหมละ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เลยนะ

 

อย่างหนึ่งที่เห็นด้วยกับคริส ไพน์ ก็คือ ในแนวหนังซูเปอร์ฮีโร่ มันแทบไม่มีอะไรใหม่แล้วจริงๆ แต่ผมว่าการดูคนแต่งชุดเครื่องแบบมาสู้กันและระเบิดเมืองก็บันเทิงดีนะ ถ้าทำออกมาสนุกๆ

Wonder Woman เข้าฉายแล้วในสุดสัปดาห์นี้ครับ ทำเงินรอบค่ำวันพฤหัสบดีในสหรัฐไปราว 11 ล้านเหรียญ ถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ รองจาก Guardians of the Galaxy Vol.2 และ Beauty and the Beast ครับ ชมคลิปการสัมภาษณ์ของไพน์ด้านใน

13 comments

  1. Justice League มันก็เป็นหนังแนวเดียวกับที่เฮียว่าเลย ไม่ใช่เหรอเฮีย? (ฮา.. หรือ JLA จะสร้างความแปลกใหม่อะไรให้กับหนังฮีโร่ได้?)

  2. อย่าไปว่าพี่เค้าเลยครับ กำลังอินอยู่ ก็ในตัวหนังมันต่อต้านสงครามนี่ พี่เค้าก็เลยไม่อยากได้สงครามอะไรอีก เอาน่ากะลังอิน กะลังอิน

  3. เออ….ถามเพื่อนๆแถวนี้หน่อยฮะ….คุณ อยากเห็น ผู้ชาย รึ ผู้หญิง แต่งชุดรัดรูป นั่งจิบชาจีบกัน…ทั้งเรื่องรึเปล่า?…..

    ถ้ามาแนว หนัง Art แบบ Birdman ก็ว่าไปอย่าง….

    หนัง Hero คนเขาไปดูกัน เพราะอะไร? ห็ไม่ใช่เพราะต้องการ หลุดไปจากโลกความเป็นจริงสั้นๆไม่ใช้เหรอ…..?

  4. ไม่น่าพูดแบบนี้เลย มีเรื่องเป็นร้อยเป็นพันเรื่องให้พูด จะไปเปรียบเทียบกับอะไรก็ได้ ดันพูดแบบนี้ ดึงดราม่าชัดๆ เหมือนเหยียดรสนิยมคนที่ชอบหนังแนวแอ็คชั่น สงครามยังไงไม่รู้

  5. วัฒนธรรมเค้าคือ กล้าพูดสิ่งที่คิดออกมา คนฟังต้องเปิดใจกว้างรับฟัง ไม่ใช่สั่งให้คนพูดหุบปาก มันถึงจะเกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน จนเกิดปัญญา

  6. ถือว่าเทียบผิดรุ่นนะครับ จากที่ไปดูมา Wonder Woman สนุกครับ แต่หนังมันเรียบไปหน่อย และแทบจะบอกได้เลยว่า play safe สุดๆ ยังไงก็คงเอาไปเทียบกันไม่ได้หรอกครับ ถ้าเอา Captain america มาเทียบ อันนี้ยังดูจะมวยถูกคู่กว่าครับ เพราะเรื่องนั้นก็เชยๆเหมือนกัน

  7. ไม่ควรพูดจริงๆครับ แกคงไม่ได้คิดอะไรมากหรอกตอนพูด แต่ต้องยอมรับว่าเรื่อง DC/Marvel สำหรับแฟนๆบางกลุ่มมันละเอียดอ่อนมากๆ แล้วในฐานะแกที่เป็นนักแสดงนำในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ DC ออกมาพูดแบบนี้ มันฟังดูเหมือนการโจมตีอีกค่ายซะงั้น ไม่อยากให้ดราม่า แต่เชื่อว่าซักพัก แกคงออกมาขอโทษ

    ป.ล. ส่วนตัวผมฟังแล้วเฉยๆนะ และผมชอบทั้ง Chris Pine นะ ชอบทั้ง DC/Marvel ด้วย

    • +1
      ชอบทั้ง Chris Pine นะ ชอบทั้ง DC/Marvel เหมือนกัน (แต่DC จะน้อยหน่อย 555+)

      เพิ่มเติมความเห็นอีกนิด ผมแอบคิดว่าทางสังกัดจ้างให้พูดโจมตีป่าว เหมือนเมื่อก่อนที่ BvS จะฉาย เฮียแซ็คก็โจมตีโดยเปรียบเทียบกับเรื่อง Ant-man มันเป็นDC สไตล์อ่ะ
      เรื่องของ Infinity Wars ผมว่ามันคงไม่ใช่่สงครามระหว่างมนุษย์น่ะสิ ของมนุษย์น่ะจบไปสมัย Cap ภาคแรกแล้ว และคห.นี้อาจมองนอกประเด็นไปนิดแต่ แนวสงครามไม่ใช่เทรนด์ที่ดีในหนังฮีโร่อย่างเดียว เรื่องอื่นๆก็ทำแนวสงครามออกมาเรื่อยๆกันทั้งนั้น อย่าง apes, sw ก็เตรียมทำรายได้ดีแน่นอน สรุปแล้วหนังยังต้องการสงครามอยู่ เพื่อทำกำไร 555+

      • หลังจากไปดูหนังมาละ ผมคิดว่าเข้าใจในสิ่งที่ Chris พูดมากขึ้นนะ
        ในหนังยังไงสงครามก็ไม่เวิร์ค จุดประสงค์เพื่อหยุดสงครามด้วยซ้ำ แต่ดันมาพูดถึง Infinity War เพราะคำว่า War น่ะแหละ แบบหนังฮีโร่แล้วใส่คำว่า War ดูเป็นหนังสงครามไปอีก ใน Wonder Woman คืออย่ามีสงครามดีกว่า
        จริงๆ ไม่พูดจะดีกว่าครับ ดีไม่ยกคำว่า Star Wars มา อาจดราม่าหนักกว่านี้

        ค่ายหนัง DC ไม่น่าทำอย่างนั้นหรอก ดูเป็นคู่แข่ง แต่จริงๆเป็นเพื่อนกันมากกว่า การทำหนังแข่งกันมันทำให้ตลาดของฮีโร่ทั้ง Comic, Animation, ของเล่น ดีขึ้นเยอะ บางคนกลายเป็นชอบทั้งสองค่ายไปเลย

  8. แกพูดก็ถูก หนังแนวนี้มันไม่ไปไหนแล้ว หลังจาก TDKR (ซึ่งมาตกม้าตายกับฉากจบคลิเชๆ ตามสูตรพวกหนังขวาๆ) ก็มีแค่ Logan ที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความสดใหม่ในการเล่าเรื่อง และมีมุมที่เล่นประเด็นทางโพลิติคอลได้ถึง ขณะที่หนังมาร์เวลมันก็เป็นแค่อมยิ้มทางสติปัญญาเอาไว้อมให้ลิ้นชาปีละ 2-3 ครั้งเฉยๆ

    WW น่าเบื่อไปบ้างตรงที่หนังยังคงกลับมาเพลย์เซฟ ทั้งที่จริงๆ วัตถุดิบทั้งหลาย พวกตัวละคร เซ็ทติ้ง บลาๆ มันพอให้ทำหนังเฟ็มฯจ๋าๆ พูดกัน 120 นาทีต่อยกัน 5 นาทีไปเลยก็ได้ แล้วที่น่าเบื่อที่สุดคือ WW ก็ยังต้องมีผู้ชายเพื่อที่จะชนะอยู่ดีซึ่งมันผิดคอนเสปต์ไปหน่อย แต่ทำไมคำวิจารณ์มันถึงดี ผมว่าเพราะโทนของหนังมันต่างไปจากมาร์เวลมากกว่า มันสร้างบรรยากาศของสงครามได้ดีไม่แพ้หนังสงคราม ทำให้คนดูรู้สึกตึงเครียดกับอะไรที่จริงได้มากกว่า ตรงนี้มันเป็นกลิ่นใหม่รสใหม่ก็เท่านั้น

    สำหรับคนที่อยากโต้แย้งต้องโต้แย้งได้ก่อนว่าหนังฌองนี้มันจะทำยังไงให้ใหม่ไปกว่านี้ได้ เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องยกระดับมันให้กลายเป็นหนังที่ “ใหม่” ระดับพวกหนังเบิร์กแมน ร็อบกรีเยต์ เฟลลินี่ เวนเดอร์ส โอสึ บลาๆๆ เอาแค่ให้มันเล่าเรื่องได้สดใหม่ก็พอ ไม่ใช่หนังสามองค์ตามสูตร ยิงมุกเรี่ยราดแบบนี้

    ปล. ฟังบทสัมภาษณ์ของไพน์ทั้งหมด รู้สึกว่าจริงๆ ไพน์ไม่สนใจหนังฮีโร่นะ ไม่แคร์เรื่องค่ายหรืออะไร แล้วก็ถ้าไม่ใช่เพราะชอบวิสัยทัศน์ของเจนกินส์ แกก็คงไม่ลงมากลั้วกับหนังแนวนี้หรอก (ไม่รู้แกดูหนังฌองนี้เรื่องอื่นๆ บ้างรึเปล่า)

  9. เพิ่งได้ไปดูหนังมา เลยเข้าใจไพน์มากขึ้น คือเค้าไม่ได้จะพูดโจมตีค่ายอื่นหรอก แต่แค่เพราะความเบื่อจากการแสดงหนังสงคราม เพราะแค่ผมเป็นผู้ชมยังเบื่อเลยครับ สงครามมันยาวนานยืดเยื้อ แต่ผกก.แสดงได้อย่างถูกต้องตามจริง พอไพน์เห็นคำว่าwars เลยเกิดอาการเบื่อเป็นธรรมดาแหละ

Leave a Reply to Lee McCancel reply