แซ็ค สไนเดอร์ ส่งต่องาน Justice League ให้จอส วีดอน ทำแทน หลังจากลูกสาวเสียชีวิต

ซูเปอร์ฮีโร่มักต้องเลือกทำสิ่งที่คิดว่าเหมาะที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และตอนนี้ ผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์ จาก Batman v Superman: Dawn of Justice และ Justice League ก็กำลังอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันนั้นครับ

สไนเดอร์ได้บอกเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์ ว่าเขาขอยุติงานหนัง Justice League ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ และจะต้องถ่ายซ่อมแซมเพื่อรับมือกับเหตุสะเทือนใจของครอบครัว พร้อมกับเดบราห์ สไนเดอร์ ภรรยาของเขาผู้เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกันด้วย แล้วส่งต่องานให้จอส วีดอน ผู้กำกับ The Avengers และกำลังจะกำกับ Batgirl ให้วอร์เนอร์ บราเธอร์ส มาสานต่อให้เสร็จก่อนที่หนังจะฉายพฤศจิกายนปีนี้ครับ

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ออทัม สไนเดอร์ ลูกสาววัย 20 ปี ของสไนเดอร์ได้ฆ่าตัวตายเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการปกปิดข่าวเรื่องนี้ให้รู้กันแต่เฉพาะวงในจริงๆ และมีการพักงานสร้างของหนังทันทีสองสัปดาห์เพื่อให้สไนเดอร์ได้ใช้เวลาทำใจกับเหตุสะเทือนใจและให้เขากับภรรยาช่วยกันเยียวยาครอบครัวระหว่างนั้น

ในความคิดของผมแล้ว ผมคิดว่าการได้กลับไปทำงานจะช่วยบรรเทาความรู้สึก ได้ฝังตัวเองไปกับงาน และดูว่ามันจะช่วยในการทำใจได้ไหม ความต้องการของงานนี้ต่อตัวเราเป็นอะไรที่บ้าคลั่งมาก มันดูดกินเราไปจนหมด และในช่วงสองเดือนมานี้ ผมได้ตระหนักว่า…ผมตัดสินใจที่ต้องถอยออกมาจากหนังเรื่องนี้เพื่ออยู่กับครอบครัว อยู่กับลูกๆ ซึ่งต้องการผมมากๆ พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบาก ผมอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบาก” สไนเดอร์ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจ

ค่ายหนังได้ลองเสนอความคิดว่าให้เลื่อนวันฉายหนังออกไปก่อน แต่สไนเดอร์คัดค้านความคิดนั้น วอร์เนอร์ฯ ยังได้ต่อสัญญาการสร้างหนังกับสไนเดอร์ด้วยเพื่อให้เขามีเวลาทำงานมากขึ้นกับโครงการหนังเรื่องอื่นเมื่อเขากลับมา

หลังจากรอบทดลองฉายแล้ว สไนเดอร์ได้ให้จอส วีดอน มาร่วมงาน เพื่อเขียนบทส่วนที่ต้องถ่ายทำใหม่เพิ่มเติมหรือถ่ายซ่อม แต่เมื่อสไนเดอร์เตรียมที่จะถ่ายทำฉากเหล่านั้นเองในโรงถ่ายที่สหราชอาณาจักร เขาก็ได้พบว่าจำเป็นต้องอยู่ที่บ้าน วีดอนจึงเข้ามาเป็นหัวหอกในขั้นตอนหลังการถ่ายทำเอง สไนเดอร์ได้วางแผนการถ่ายทำฉากเหล่านั้นเอาไว้แล้ว วีดอนจึงเพียงแค่ทำตามแนวทางที่วางเอาไว้

โครงการหนังยังคงเป็นชื่ีอของสไนเดอร์เป็นหลัก และสไนเดอร์เองก็มีคำพูดที่อาจมีนักเลงคีย์บอร์ดจะพูดอะไรถึงเขาเอาไว้แล้วด้วย

ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นแค่เรื่องในครอบครัว เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความเศร้าส่วนตัวที่เราต้องรับมือกับมัน เมื่อเห็นฉันว่าผมจำเป็นต้องพักงาน ผมรู้ว่าจะต้องมีการสร้างเรื่องกันในอินเตอร์เน็ต พวกเขาจะทำอะไรก็ทำไป ความจริงแล้ว…ผมเลิกสนใจอะไรแบบนั้นแล้ว ผมอยากให้หนังออกมายอดเยี่ยม และผมก็เป็นแฟน แต่ทั้งหมดนั้นจางหายไปเร็วมากเมื่อเทียบกันดูแล้ว ผมรู้ว่าแฟนๆ จะต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับหนัง แต่ก็ยังมีเด็กอีกเจ็ดคนที่ต้องการผม ท้ายที่สุดแล้ว มันก็แค่หนังเรื่องหนึ่ง มันเป็นหนังที่ยอด แต่ก็เป็นแค่หนังเรื่องหนึ่ง

โครงการหนังยังเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ทันกำหนดฉายครับพฤศจิกายนปีนี้ครับ และเราก็ขอแสดงความเสียใจต่อสไนเดอร์กับครอบครัวมา ณ ที่นี่ด้วย

ที่มา: THR

2 comments

  1. โอ่… น่าเห็นใจจริงๆครับ เรื่องแบบนี้ใครจะใจแข็งทำงานอยู่ได้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

Leave a Reply to medcocoCancel reply