ข้ามไปยังเนื้อหา

Fast and Furious 8 – ในความเห็นของคุณ

จากการประเมินคะแนนของ Rotten Tomatoes หนัง Fast and Furious 8 ได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1/10 และมีนักวิจารณ์ชอบ 65% ซึ่งแม้จะอยู่ในแดนบวก แต่คะแนนก็ยังถือว่าน้อยกว่าภาค 6 และ ภาค 7 แต่สำหรับผมแล้ว มองว่าหนังสนุกที่สุดในบรรดาสามภาคล่าสุด เหตุผลหนึ่งก็คือ การไล่ระดับความสนุกของหนังที่ความแรงพุ่งขึ้นตลอด และมีฉากบู๊สุดท้ายที่สนุกที่สุดกว่าทั้งหมดในสามภาคหลัง ขณะที่ภาค 6 กับ 7 ผมมองว่า หนังมีฉากบู๊กลางเรื่องที่สนุกกว่า แต่มาลดความแรงลงในฉากบู๊ไคลแม็กซ์

โครงเรื่อง 3 ภาคหลังมีความคล้ายกันอยู่ในแง่การค่อยๆ มีภารกิจโจรกรรมไปทีละอย่าง แต่ภาค 8 ตื่นเต้นที่สุดเพราะรายละเอียดใหม่ โดยการให้ทั้งหมดที่เคยเป็น”ครอบครัว”เดียวกันมาปะทะกัน และหนังยังใส่เซอร์ไพรส์ต่างๆ ไปตลอดทุกช่วงภารกิจ มีการพลิกผัน มีนักแสดงรับเชิญที่มาสร้างสีสัน มีมุขตลกแบบ sitcom มาช่วยให้หนังฮาเป็นระยะๆ

การได้ชาร์ลีซ เธอรอน มารับบทตัวร้าย และการมารับเชิญของเฮเลน เมียร์เรน ยังทำให้หนังสนุกขึ้นมาก เพราะนักแสดงระดับคุณภาพขนาดนี้สามารถทำให้บทที่ดูธรรมดาๆ มีความลึก มีความพิเศษ และชวนติดตามครับ

หนังทำรายได้เปิดตัววันแรกในบ้านเราเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลไปเกือบๆ 40 ล้านบาท เป็นการทำรายได้เปิดตัววันแรกที่ชนะภาคที่แล้ว หนังน่าจะสร้างสถิติใหม่อะไรแน่ๆ ทั้งในบ้านเราและในการฉายทั่วโลกครับ

ชมหนังกันแล้วเป็นยังไงบ้าง มาใส่ความเห็นกัน

1 ความเห็น »

  1. สนุกจริงครับ รู้สึกได้ถึงความพีคช่วงท้ายเรื่อง ที่พิเศษไปกว่านั้น ชาลิช เธียรอน ให้การแสดงที่ดีเลย เธอเล่นได้ลึก เอาอยู่ เห็นถึงความร้ายกาจ ไม่ต้องเล่นเยอะ แต่รู้ว่าร้ายจริง ไม่น่าเข้าใกล้เลย ทั้งที่จริงๆบทนี้จะว่าไปก็แสนจะธรรมดามาก แต่เธอทำให้ไม่ธรรมดาจริงๆ

  2. 6 แหล่ะครับ สนุกลงตัวสุด
    แม้แต่ไคลแม็กซ์ก็มีการหักมุม
    มีความสะเทือนใจ ฯลฯ

    ข้อเสียของ 6 คือมันต้องมาต่อเนื่องกับ 7
    ซึ่งดรอปลงมากในด้านเหตุผล ทิศทาง
    และยิ่งทิ้งดิ่งในภาค 8…

    … ก็ถ้ามันจะเป็นคนดีที่เข้าใจกันผิดหมดงี้
    สรุปว่าที่ไล่ฆ่ากันมาในสามภาคหลัง
    มันก็เลอะเทอะ ไร้สาระกันหมดเลย
    นั่งคุยกันดีๆ ก่อน จิเซลกับฮานก็คงยังอยู่

  3. ถ้าตัดประเด็นเรื่องเนื้อเรื่อง ความสมจริง ผมถือว่าดีกว่า F7 มาก บทดี การกระจายบท ดีมาก ตัดต่อ ดีมาก เทคนนิค ดีมาก สุดยอด มุขตลกสอดแทรก ให้ผ่านนะภาคนี้ ปล.สงสัยเด็กทารกในเรื่อง เป็นลูก วิน จริง ๆ หรือเปล่า หน้าตา ถอดมาเป๊ะ มาก ๆ

  4. สนุกและดีงามตามความคาดหวังครับ
    ชาลิส ทำหน้านิ่งได้โหดมากครับ ฉลาดโคดๆ โจรอะไร
    แขกรับเชิญแต่ละคน คนคุ้นเคยทั้งนั้น คุณแม่ทั้ง 2 ไอ้ดำทั้ง 2
    ฉากเฉลยความจริงนี่ ได้อารม เหมือนตอน ขโมยเซฟที่บราซิลเลย
    ชอบอารมณ์แบบนี้ มันทำให้หนังดูฉลาดและมีชั้นเชิงดี
    ปล สาวเซ็กซี่ ชุดขาว ในฉากแรกก่อนแข่งรถนั้น เทอโดนมากเลย

  5. ดูจบรอบแรก ชอบมากๆครับ สนุก ฮา ฉากไล่ล่ากลางเรื่องท้ายเรื่องอลังมาก
    แต่พอสงบสติพิจารณาดูอีกครั้ง รู้สึกอารมณ์หนังมันแยกเป็น 2 อย่างชัดเจนมาก
    คือเรื่องพระเอกทอเรตโต้ ซีเรียสมากๆ จริงจัง แต่ตัวละครอื่นๆ มันเวอร์ สนุก ฮาแบบไม่คิดอะไรมาก (Cheesy มากๆ)
    เนื้อเรื่องของตัวมันเอง ผมชอบนะ แต่พอมันอิงจากภาคก่อนๆ รู้สึกแถมากๆ ความจริงจังของตัวร้ายภาคก่อนๆหายไปหมด

  6. จากแก๊งส์ซิ่งข้างถนน กลายมาเป็นทีม Avenger พิทักษ์โลก นี่ถ้ามี Iron Man กับ Catain America มาอยู่ในฉากด้วย ยังรู้สึกว่าเป็นหนังเรื่องเดียวกันได้ เหมือนเอา Fast มาผสม Sivil War แต่มันส์จริงๆ ชอบๆ

  7. Spoiled Alert!!

    เป็นภาคที่ “อยากให้จบไวๆ” ที่สุดเท่าที่เคยดู Fast มา!!
    ด้วยความรู้สึกอึดอัดรำคาญใจบอกไม่ถูก

    ผิดหวังตั้งแต่ตอนเฉลยเหตุผลแล้วล่ะครับ ว่าทำไมพี่วิน มอไซค์ เอ้ย ดีเซลเราถึงต้องเล่นบทหักหลังเพื่อน
    ไม่รู้สึกได้เลยสักนิดว่า มันเป็นเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ

    คือ… ถ้านี่เป็นหนังเดี่ยวๆ หรือภาค 2-3 อาจจะไม่รู้สึกอย่างนี้!!!
    แต่นี่มันคือหนังที่มีพัฒนาการศรีนครินทร์กันมาถึง 6 ภาคแล้วนะครับ (2 กับ 3 ไม่นับ)

    พี่วินผู้ยึดมั่นในอุดมคติ ในหลักการ “ครอบครัว” แต่ยอมหักหลังเพื่อน+คนรักขนาดนี้ ด้วยเหตุผลที่… แม้จะดูเหมือนว่ายังอยู่บนหลักการของคนที่รักครอบครัว แต่ที่จริงก็เป็น “ลูกตัวเองคนเดียว”
    แบบนี้มัน “เห็นแก่ตัว” ชัดๆนะครับ (-_-‘)
    (แถมแต่ละดอกที่พี่วินเล่นกะเพื่อนนี่ มีสิทธิ์ทำเพื่อนถึงตายได้แทบทั้งนั้นเลย!!)

    จากที่รู้จักกันมาถึง 6 ภาค ไม่รู้สึกทำใจเชื่อได้เลยว่า เจอข้อต่อรองของตัวร้ายแค่นี้ พี่วินจะปลีกวิเวกเล่นบทหักหลังเพื่อนได้ทันที

    ไม่มีเหตุผลจำเป็นใดๆเลย ที่ตัวร้ายจะใช้งานพี่วินแค่คนเดียว
    ความน่าจะเป็นคือ สร้างเงื่อนไขมาต่อรอง (แต่เงื่อนไขที่ว่าก็น่าจะหนักแน่นกว่านี้) ให้พี่วินและคณะมาทำงานให้ จะได้ประสิทธิภาพ/ประสิทธิผลมากกว่าหรือเปล่าครับ?

    จะมีก็แต่… “เดอะแก็งค์ หาทางร่วมด้วยช่วยกัน แล้วฝ่าฟันมันไปให้ได้” รึเปล่าครับ??

    ตอนดูก็แอบลุ้นอยู่ว่า จะมีเฉลยซ้ำซ้อนอีกทีตอนท้าย ว่าทุกอย่างถูกวางแผนมาซ้อนกลตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็เปล่า (มีแค่บางอย่างที่ซ้อนกลผู้ร้าย แต่ก็… ยิ่งดู “เว่อร์และง่าย” ไปหมด)

    พอไม่รู้สึกเชื่อเสียแล้ว ที่เหลือก็เลยรู้สึกอึดอัดไปจนตลอดทาง

    ด้านตัวละครต่างๆก็…
    ไม่รู้สึกจำเป็นเลยสักนิด ที่จะต้องให้พี่เจสัน เทแสตมป์ต้องมาร่วมขบวนด้วย

    กว่าจะจับได้แทบตาย ไหงปล่อยออกมากันง่ายๆ?!?

    และพี่เจภาคนี้ คาแรคเตอร์ก็ช่างแตกต่างจากภาคที่แล้วแบบหน้ามือเป็นหลังบาทากันเลยทีเดียว

    ฉากเซอร์ไพรส์ที่ป้าเฮเลนออกมา ก็… จนบัดนี้ยังไม่รู้เลยว่า She มาได้ยังไง? พี่วินถูกควบคุมตัวอยู่ตลอด ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนช่วย แล้วไปแอบนัดแนะกันตอนไหน??

    แล้วถ้าการหา “ตัวแม่” ดับเบิ้ลโคตรทรชนพี่น้องตระกูลชอว์ (ที่ท่าทางราวกับโคตรเจ้าแม่เช่นกัน) ได้ง่ายดายขนาดนี้ แล้วสองภาคก่อนหน้านี้ ตัวละครนี้ทำไมไม่ถูกเอามาใช้งาน ในการเล่นงานตัวร้ายภาคก่อนบ้างล่ะครับ???

    เห็นด้วยกับ คคห.ด้านบน (คุณ Jo Jo) อย่างแรง
    “ถ้ามันจะเป็นคนดีที่เข้าใจกันผิดหมดงี้… มันก็เลอะเทอะ ไร้สาระกันหมดเลย”

    แล้วทางด้านฉากแอ็คชั่นล่ะ??

    ก็อาจจะใช่ที่ว่า ภาคนี้ดูมีการ “ไต่ระดับ” ตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ก่อนจะ “ปล่อยของ/เล่นใหญ่” สุด ในซีเควนซ์สุดท้าย
    แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่า มันแค่ไต่ระดับใน “เชิงสเกล” ของความมโหฬารอลังการและเป้าหมายของภารกิจเท่านั้น
    (ภาคนี้อีธาน ฮันต์ เอ้อ… ไม่ใช่ — ทีมนี้เขาหยุดระเบิดนิวเคลียร์กู้โลกกันเลยนะครัช!! โอ้แม่เจ้า!!!)

    แต่ใน “เชิงอารมณ์” กลับไม่รู้สึก “ตื่นเต้น/ลุ้นระทึก” ในระดับที่แตกต่างเลย

    ตั้งแต่ภาค 5 เป็นต้นมา นอกจากความบ้าระห่ำแล้ว ทีมนี้จะต้องแสดงความฉลาด มีการวางแผน มีชั้นเชิง ชิงไหวชิงพริบ ให้ได้ลุ้นระทึก ผสมอยู่ในภารกิจด้วยไม่มากก็น้อย
    แต่ภาคนี้กลับดู “เว่อร์และง่าย” ไปหมด

    นอกจากความวินาศสันตะโรแล้ว ที่เหลือกลับดูหน่อมแน้มกว่า 3 ภาคหลังที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด

    ก็… เข้าใจอยู่นะครับว่า โดยทิศทางที่ผ่านมาหลายๆภาค หนัง Fast ก็ต้องเจอโจทย์ยากในการสร้างสรรค์ฉากแอ็คชั่นมากขึ้นเรื่อยๆ

    ด้วยความที่ต้อง “เล่นท่ายาก” และ “เล่นใหญ่” มากขึ้นเรื่อยๆ ภาคนี้ก็เลยยิ่งต้องเพิ่มดีกรีความเว่อร์วังมากขึ้นไปอีก แต่ผลที่ได้คือ มันเว่อร์เกินจนจะกลายเป็นแอ็คชั่นแบบซูเปอร์ฮีโร่ไปแล้ว

    ช็อตที่คณะทัวร์หนีเรือดันน้ำ เอ้ย… ดำน้ำ พร้อมใจกันมาล้อมกรอบบังระเบิดให้พี่วินนี่ มันหนังยอดมนุษย์ชัดๆ!!

    ก็อย่างที่มีหลายคนแซวกันตั้งแต่เห็นหนังตัวอย่างล่ะครับ ว่าถ้าโลกิหรือธาโนสมาบุกโลกอีก ใช้ทีม Fast นี่ ออกไปต่อกรเหล่าร้ายแทนทีม Avengers ได้เลย
    และสงสัยว่าภาคหน้า คงต้องออกไปลุยอวกาศกันซะล่ะมั้ง!?!

    พอไม่รู้สึกเชื่อในเหตุผลตั้งต้น บทและตัวละครที่เลอะเทอะ ฉากแอ็คชั่นที่ไร้อารมณ์ร่วมและไม่ฉลาด ก็เลยรู้สึกอึดอัดไปจนตลอดทาง
    F8 จึงเป็น Fast ภาคที่ “อยากให้จบไวๆ” ที่สุดเท่าที่เคยดูหนังตระกูล FF มา!!

  8. ผมให้10/10…และไม่สนใครจะว่าผมโอเวอร์เกินไป..
    ถ้าเทียบกับภาคก่อนหน้านี้…นี่คือความรู้สึกเดิมๆเหมือนตอนได้ดูภาคแรกกลับมา
    ที่ชอบสุด ในเรื่องไม่ใช่ตัวเอกเลย ตัวร้ายกับตัวขโมยซีนทั้งนั้น..
    1.ชาร์ลิซ ร้ายได้โคตรร้าย แบบฉบับบตัวร้ายที่แม่งร้ายสุดๆ ตัวร้ายต้องแบบนี้ล่ะกุมจุดอ่อนได้ตรงประเด็นและเฉียบขาด
    2.ไทรีส นี่นึกไม่ออกว่า ถ้าเรื่องนี้ไม่มี โรมัน ผมคงให้ 5/10
    2.1พ่วงนายคนนี้ ฐานะ จำอวดคนใหม่ มิสเตอร์โนบอดี้จูเนียร์ ถือว่ามาได้จังหวะเหมาะจริง…
    3.เจสัน พี่แกแม่งเท่สัส…เท่พอๆกะพี่ดอนนี่ในเรื่อง3เอ็กซ์
    4.ป้าเฮเลน ตอนที่ป้าแกออกมา นี่กรี๊ดลั่น..เพราะชอบป้าแกมากก แล้วยิ่งพีคตอนที่เข้าบทกับเจสันตอนอำเจสัน เรื่อง…ไปทำภารกิจ ยิ่งพีค..
    5.ไบรอัน…..ชอบความที่หนังเล่นกับ ไบรอันได้แบบ ตะมุตะมิ
    คนอื่นๆ ผมว่าเสมอตัว….โดยเฉพาะเหล่าตัวเอก….
    ปล.คุณเจได ถ้ามันมีตรงไหนสปอยล์ ลบหรือแก้ไขได้เลยครับ และก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วย เผื่อผมไม่รู้ตัวจริงๆ

  9. Spoiled Alert!!

    ถ้าไม่นับเรื่องทั้งแก็งค์นี่ เก่งชิบหาย เก่งแบบสายลับที่ถูกฝึกมาอย่างดีแล้ว

    เรื่องที่ต้องหาเหตุผลมาให้มากที่สุดคือ เอียน ชอว์ มันฆ่าฮานซึ่งเป็นคนในครอบครัวนะ อยู่ๆ มาเป็นแบบนี้ได้ไงอ่ะ – -“

  10. หนังฉลาดที่ให้อารมณ์ค่อยๆพีคขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดสุด แต่ว่า ความเนียนเรื่องบท ยังเหวอๆ แบ่งบทไปมาไม่ลงตัว คนที่น่าจะเด่นก็ไม่เด่น ตัวขโมยซีนก็ยังเป็นคนเดิม เพิ่มเติมคือฮาลั่นโรง

  11. ส่วนตัวผมยกให้ภาคที่7ที่มันส์สะใจที่สุดแต่พอมาในภาค8ก็มันส์ดีเเต่รู้สึกว่าฉากแอ๊คชั่นมันยังไม่สุดน่าจะมันส์ได้มากกว่านี้ ที่ต้องชมเป็นพิเศษนักเเสดงเเข็งเเรงมากโดยเฉพาะ”ชาร์ลิส เธียรอน”เธอคือนางมารร้ายที่ทำให้ผมเกลียดตัวละครนี้มากภาค9ขอเปลี่ยนไปเเข่งนอกโลกก็ไม่เลวน่ะ อิอิ

  12. ใครจะว่าไงก็ช่าง สำหรับผม ภาคนี้เข้าไปดูตามประสาหนังภาคบังคับ แล้วก็พบว่ามันสนุกมาก! พล็อตคลิเช่และเดาง่าย แต่นั่นแหละมันเลยทำให้เราไม่ต้องคิดซับซ้อน กราฟหนังพุ่งตลอดแทบทั้งเรื่อง และที่ส่วนตัวต้องบอกว่าอ้าปากค้างน้ำตาคลอเบ้าคือฉากที่ดอมจะโดนเรือดำน้ำระเบิดแล้วทุกคนขับรถมาช่วยบังเอาไว้นี่มันแบบ…เฮ้ย!! มันเท่มาก มันดูเข้าใจคำว่า “ครอบครัว” ที่หนังพูดมาตลอดหลายภาคในฉากเดียวเลย

    ส่วนฉากแนะนำตัวน้องไบรอัน มันประทับใจเพราะรู้สึกว่าแววตาของแต่ละคนในฉาก มันไม่ใช่แววตาที่ยินดีต้อนรับลูกของดอม แต่มันคือการคารวะไปถึงพอล วอล์คเกอร์จริงๆ ฉากนี้ก็เดาไม่ยาก แต่ฟีลลิ่งของหนังตอนนั้นที่มันโดดข้ามจากในหนังมาสู่ทีมนักแสดงที่เหมือนกับครอบครัวนี่ล่ะครับ

    ให้ 10/10 เลย

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.