ดูเหมือนว่าผู้กำกับเดอนีส์ วิลเนิฟ จะไปได้ดีกับหนังไซไฟครับ หลังจาก Arrival ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และหนัง Blade Runner 2049 ที่จะออกฉายในปีนี้ วิลเลอเนิฟตามต่อด้วยหนังมหากาพย์ไซไฟจากหนังสือรางวัลของแฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดของโลกเคียงคู่มากับ The Lord of the Rings ของเจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ครับ
ลีเจนดารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้ซื้อนิยายชุด Dune มาสร้างเป็นภาพยนตร์และสื่ออื่นๆ เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ทาบทามวิลเนิฟเมื่อช่วงธันวาคมที่ผ่านมา และเพิ่งได้รับการยืนยันเมื่อไม่นานนี้จากไบรอัน เฮอร์เบิร์ต ทายาทของผู้แต่งนิยายว่าวิลเนิฟจะมาเป็นผู้กำกับให้
Dune อาจเรียกได้ว่าเป็น Star Wars ผสม Games of Thrones ครับ มีฉากเป็นโลกอนาคตที่มีฉากเป็นอาณาจักรดวงดาวต่างๆ ที่ฉากหน้าเป็นพันธมิตรกัน แต่ก็มีการทรยศหักหลังเพื่อแย่งชิงสิ่งที่มีค่าสูงที่สุดของจักรวาล นั่นก็คือ”เครื่องเทศ”ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เดินทางข้ามอวกาศได้ นำมาซึ่งสงครามแย่งชิงบัลลังก์และเกมการเมือง สะท้อนแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อจักรพรรดิแห่งกาแลคซีหวาดเกรงว่าดยุคแห่งราชวงศ์อาทรีเดสที่กำลังเป็นขวัญใจของราชวงศ์ในดวงดาวต่างๆ จะมาสั่นคลอนอำนาจของตน รวมกับดาวอาร์ทรีเดสเองก็เป็นแหล่งผลิตเครื่องเทศ สิ่งที่มีค่าที่สุดในจักรวาล จึงได้วางแผนลอบสังหารตระกูลอาร์ทรีเดสมาและยึดครองดวงดาว พอลซึ่งเป็นโอรสของดยุคแห่งอาทรีเดสกับนางสนมได้หนีรอดไปได้ ภายหลังได้เรียนรู้จักเคล็ดวิชาการต่อสู้ การควบคุมหนอนยักษ์ทะเลทราย และได้รู้ที่มาของเครื่องเทศ ได้เป็นผู้นำกองกำลังต่อต้านโค่นล้มอำนาจของจักรพรรดิ
หนังเคยถูกสร้างมาครั้งหนึ่งในปี 1984 กำกับโดยเดวิด ลินช์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลย แล้วต่อมาก็มีการสร้างเป็นมินิซีรี่ส์ทางทีวีในปี 2000 อีกครั้ง ที่ได้รับคำวิจารณ์ด้านดีพอสมควรครับ
ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ส พยายามจะนำ Dune กลับมาสร้างเป็นหนังใหม่ในปี 2008 ให้ปีเตอร์ เบิร์ก กำกับ แต่โครงการก็ล้มเหลวไป ครั้งนี้ แฟนๆ นิยายน่าจะได้สมหวังเสียที
ที่มา: THR
หมวดหมู่:News
ผมว่าไอเดียของเรื่องนี้มันดีนะ ทั้งเรื่องเครื่องเทศ เรื่องหนอนยักษ์ แต่ไม่ค่อยอินกับเรื่องราชวงศ์เท่าไหร่ ตอนทำเป็นเกมก็ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันลึกซึ้งอะไรมาก ฝ่ายพระเอกดีสุดขั้ว ฝ่ายคู่ปรับก็มหาเลว มันก็แค่นี้เอง